ลูกค้าสาวมือถือหายขณะเที่ยว “เดอะมูนบาร์” ร้องขอความเป็นธรรมผู้ว่าฯ นนทบุรี เจ้าของร้านมีญาติเป็นอดีตนายตำรวจใหญ่ ไม่คิดเรื่องบานปลายมาถึงขนาดนี้ เกรงจะถูกคุกคามไม่ปลอดภัยในชีวิต ด้าน “เกียรติศักดิ์ ตรงสิริ” ผู้ว่าฯ นนทบุรี หลังเข้ามารับตำแหน่งได้เพียง 1 เดือน ยันไม่มีใครเส้นใหญ่ในจังหวัดนี้ ผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ พร้อมสั่งนายอำเภอ เรียกเจ้าของร้านมาสอบปากคำ “มีเหตุผลอะไรถึงต้องถ่ายบัตรประชาชนของลูกค้า” ย้ำอยู่ระหว่างตรวจสอบหลักฐาน จะเข้าเงื่อนไขพิจารณาคำสั่งปิดสถานประกอบการหรือไม่
เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีร้านเดอะมูนบาร์ บางใหญ่ ได้มีการถ่ายบัตรประชาชนและรูปหน้าตรงของผู้ที่เข้ามาใช้บริการ โดยผู้ใช้บริการบางรายมีเว็บพนันโทรติดต่อเข้ามา เกรงว่าจะเกิดความเสียหาย จึงพากันเดินทางมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้ทางหน่วยงาน pdpc สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ช่วยดำเนินการตรวจสอบให้
หลังจากเมื่อวานที่ผ่านมา มีผู้ที่เข้าไปเที่ยวที่ร้านดังกล่าวทยอยเดินทางเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ายอดผู้ที่เข้าแจ้งความมีกว่า 100 ราย
...
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม น.ส.ประภัสสร หรือน้องเอ อายุ 24 ปี ให้ข้อมูลว่า ตนมาเที่ยวที่ร้านนี้กับเพื่อนสองครั้ง ทุกครั้งที่มาเที่ยวจะถูกการ์ดของร้านถ่ายรูปบัตรประชาชนและรูปหน้าตรง ตนก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเป็นนโยบายของทางร้าน จนมาทราบข่าวที่เกิดขึ้นวันนี้จึงได้เดินทางเข้ามาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เกรงว่าจะถูกเอาหลักฐานไปทำในทางที่เสียหาย
ด้าน นายก่อเกียรติ อายุ 22 ปี กล่าวว่า ตนเดินทางมาเที่ยวที่ร้านกับเพื่อน 3 คน เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา ทางการ์ดได้ขอตรวจบัตรแล้วมีการถ่ายรูปโดยไม่ได้ขออนุญาต ตนคิดว่าเป็นขั้นตอนของทางร้านหรือเปล่าไม่กล้าถามเขา หลังทราบข่าวแล้วรู้สึกไม่สบายใจเลยต้องรีบมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ร้านนี้ตนกับเพื่อนมาเที่ยวหลายครั้งแล้ว ซึ่งทุกครั้งก็โดนถ่ายบัตรประชาชนทุกครั้ง
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวานนี้ (5 ม.ค.67) ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายอธิวัฒน์ ศิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจ กล้าที่จะก้าว พร้อมด้วย น.ส.ปวีณา หรือ มิว อายุ 22 ปี เดินทางเข้าพบ นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังจากทราบว่าทางเจ้าของร้านเส้นใหญ่ เป็นญาติอดีตนายตำรวจใหญ่ เกรงว่าจะถูกคุกคามไม่ปลอดภัยในชีวิต เจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจสถานบันเทิงทุกครั้ง ไม่เคยพบสิ่งผิดกฎหมายเลย ทั้งที่นักเที่ยวหลายคนส่งหลักฐานมาให้ทั้งเรื่องเปิดเกินเวลา ทั้งเรื่องยาเสพติด
นายเกียรติศักดิ์ ตรงสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า เบื้องต้นทาง สภ.บางใหญ่ ได้ตั้งโต๊ะรับแจ้งความในเรื่องการถ่ายบัตรประชาชน และมีการประชาสัมพันธ์ให้กับบุคคลที่เคยไปเที่ยวและถูกถ่ายบัตรประชาชนเดินทางมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพราะอย่างน้อยทุกคนจะได้ป้องกันตัวเองไว้เพื่อความสบายใจ ตนได้มีการเน้นย้ำไปกับทางนายอำเภอบางใหญ่ เรื่องการถ่ายบัตรประชาชนที่มาใช้บริการว่ามันเกินความจำเป็นหรือไม่ แม้จะมองได้สองอย่าง คือทางร้านรอบคอบ กับความเสี่ยงที่จะถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ตนได้เน้นย้ำไปทั้งจังหวัด ไม่ใช่เฉพาะร้านที่ อ.บางใหญ่เท่านั้น แต่ให้เข้มงวดในทุกพื้นที่เพื่อให้มีการปฏิบัติไปในทางเดียวกัน
สำหรับเหตุการณ์นี้ตนได้สั่งการให้ทางอำเภอต้องเรียกผู้ประกอบการเจ้าของร้านมาสอบปากคำด้วยว่า มันมีเหตุผลอะไรถึงต้องถ่ายบัตรประชาชนของลูกค้า
นายเกียรติศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องหลักฐานที่ได้รับจากทางเพจมา หรือที่มีการเผยแพร่ในโซเชียลต้องนำมาตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ในตอนนี้จึงยังไม่มีเรื่องคำสั่งปิดสถานบริการดังกล่าว เพราะหลักฐานยังไม่ชัดเจน จะกลายเป็นว่าทางราชการไปกลั่นแกล้ง แต่หลักฐานที่ได้มา สามารถนำมาพิจารณาได้ว่าเคยมีการกระทำผิดจริงหรือเข้าเงื่อนไขใด ก็จะพิจารณามีคำสั่งปิดสถานประกอบการต่อไป
...
“ประเด็นที่ว่าสถานประกอบการแห่งนี้เส้นใหญ่มีอิทธิพลนั้น ตนยืนยันว่าไม่มีใครเส้นใหญ่ในจังหวัดนี้ ทุกคนสามารถทำธุรกิจประกอบอาชีพ ทำมาหากินได้ แต่ต้องทำหน้าที่ของตัวเองทั้งเป็นผู้ให้บริการที่ดี ไม่มีใครเส้นใหญ่ ถ้าผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ ตนเพิ่งมารับตำแหน่งได้เพียง 1 เดือนและกำลังพิจารณาในเรื่องการจัดระเบียบสังคม สถานประกอบการต่าง ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล”
น.ส.ปวีณา ผู้เสียหาย กล่าวว่า วันนี้ที่ตนต้องมาร้องขอความช่วยเหลือกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เพราะตนรู้สึกสบายใจกว่า วันนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ได้รับเรื่องขอความช่วยเหลือจากตนแล้ว ตนก็รู้สึกสบายใจมาก เพราะหลังเกิดเรื่องตนยังได้ถูกเพจทางร้านโพสต์คุกคามในโซเชียล ตนมีครอบครัวมีพ่อแม่ และเด็ก จึงเป็นกังวลว่าหลังจากนี้ไปตนกับครอบครัวจะใช้ชีวิตอย่างไร ตนกลัวและเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัย ตนไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจากการที่ตนไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วมือถือหายจนทำให้เรื่องมันบานปลายมาถึงขนาดนี้ ทั้งที่ตนมีเจตนาแค่โพสต์เตือนร้านในฐานะลูกค้าที่ไปเที่ยวแล้วมาเจอเรื่องแบบนี้