สกลนคร- ญาติทำใจ ชรบ.ที่ถูกหนุ่มหมัดหนัก ทำร้ายสาหัส อยู่ใน “ภาวะสมองตาย” จากการล้มศีรษะด้านหลังฟาดพื้น ขณะที่ ผกก.สภ.พรรณานิคม เผยไอ้ตั้ม หนุ่มมัดเมา รับเพิ่งเสพยามา 1 วันก่อนก่อเหตุ ประวัติเพิ่งพ้นโทษ หลังเคยติดคุกคดีต่อสู้ขัดขวางตำรวจ และมีข้อมูลเป็นผู้ป่วยยาเสพติด ตามระบบ สธ. ไม่ได้เป็นนักมวย แค่ชอบซ้อม ไม่ได้สังกัดค่าย

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ดอกสะแบง คืนถิ่น” โพสต์สาธารณะ คลิปเหตุการณ์ที่มีชายเสื้อดำรูปร่างสูงใหญ่เดินบวกหมัดชกแหลก คนที่มาร่วมงานรถแห่รวมทั้งเจ้าหน้าที่ อปพร.และ ชรบ. จนร่วงลงกับพื้นบาดเจ็บหลายราย จนกระทั่งชาวบ้านทนไม่ไหวเข้าไปรุมประชาทัณฑ์ผู้ก่อเหตุจนวิ่งหลบหนีไป และต่อมาตำรวจได้ตามไปจับกุมตัวไว้ได้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568 ที่วัดแห่งหนึ่งในตำบลไร่ อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย หนึ่งรายบาดเจ็บสาหัสรักษาตัวที่ห้องไอซียู รายละเอียดตามที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุ วัดไผ่ล้อมบ้านไร่ ต.ไร่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เพื่อติดตามรายละเอียดเหตุการณ์ดังกล่าว โดยนายดำรง มาตราช ผู้ใหญ่บ้านไร่ เปิดเผยว่า วันดังกล่าวเป็นงานบุญประทายข้าวเปลือก และแต่งตั้งเจ้าคณะตำบลพร้อมทำบุญฉลองปีใหม่ ก็มีเจ้าภาพที่มาจากกรุงเทพฯ ว่าจ้างรถแห่มาร่วมในงาน ซึ่งเหตุการณ์ก็เป็นไปโดยปกติ จนกระทั่งใกล้เวลาจะเลิกงานและหมดเวลารถแห่ที่มีเจ้าภาพจ้างมา ปรากฏว่า จู่ๆ นายตั้มคนในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นคนมีอาการทางจิตเวชและน่าจะมีอาการเมาสุรา โผล่เข้ามาก่อเรื่องทะเลาะวิวาท เจ้าหน้าที่ อปพร. และ ชรบ. จึงเข้าไปเจรจาให้กลับบ้าน แต่ปรากฏว่านายตั้มเกิดโมโห ลงมือทำร้ายเจ้าหน้าที่หลายนาย ตามที่ปรากฏในคลิป ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 5 ราย โดยมีเจ้าหน้าที่ ชรบ. 1 นาย ที่อาการค่อนข้างสาหัส เข้ารักษาตัวที่ห้องไอซียูโรงพยาบาลศูนย์สกลนคร อยู่ระหว่างการเฝ้าติดตามอาการอยู่

...

ในส่วนของผู้ก่อเหตุนั้น เป็นคนรูปร่างสูงใหญ่แข็งแรง ปกติจะเก็บตัวไม่ออกสังคม ยกเว้นเวลามีงานแบบนี้ก็จะมาบ้าง แต่ก็ไม่เคยมีพฤติกรรมรุนแรงเช่นนี้ ยังไม่ทราบว่าทำไมถึงมาก่อเหตุขึ้น แต่เบื้องต้นทราบมาว่าน่าจะมีการดื่มของมึนเมามา ซึ่งอาจจะไปกระตุ้นให้นายตั้มมาลงมือก่อเหตุเช่นนี้ โดยเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้าย ส่วนใหญ่เห็นว่านายตั้มเป็นคนในหมู่บ้าน จึงเพียงเข้าไปพูดคุยเพื่อให้นายตั้มกลับบ้าน ทำให้ไม่ทันได้ระวังตัว จึงถูกนายตั้มทำร้ายดังกล่าว

ขณะที่บรรยากาศที่บ้านของนายสมชาย ฟองอ่อน อายุ 44 ปี เจ้าหน้าที่ ชรบ.ชุดดำ ที่ถูกนายตั้มทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสนั้น มีเพื่อนบ้านทยอยเดินทางมาให้กำลังใจญาติอยู่เป็นระยะ หลังจากทราบข้อมูลทางการแพทย์ว่า นายสมชายอาการค่อนข้างวิกฤต มีภาวะสมองตาย จากการที่ล้มศีรษะด้านหลังฟาดพื้น โดยนางด่อน เพื่อนบ้านบอกว่า นายสมชายเป็นคนดี ชอบทำงานจิตอาสาช่วยเหลือสังคม ทำให้เป็นที่รักของคนในหมู่บ้าน รู้สึกเสียใจที่ต้องมาประสบเหตุการณ์เช่นนี้

ด้านนางลำดวน พี่สาวของผู้บาดเจ็บกล่าวว่า รู้สึกตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รู้จักผู้ก่อเหตุดี เพราะเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน ยืนยันว่าน้องชายไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับนายตั้ม แต่ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้น่าจะมาจากความเมา

ด้าน พ.ต.อ.กัมปนาท เศรษฐ์ฤทธิกุล ผกก.สภ.พรรณานิคม เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้บาดเจ็บ 5 ราย มาแจ้งความแล้วทั้งหมด โดย 1 ราย มีอาการสาหัสรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนผู้ก่อเหตุคือนาย กิตติชาติ หรือตั้ม ไชยเพชร ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัวมาได้หลังเกิดเหตุ ซึ่งก็เป็นคนในหมู่บ้าน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายบาดเจ็บ เป็นชุดรักษาความปลอดภัยที่ทางอำเภอแต่งตั้งหรือเปล่า ซึ่งถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ที่ได้รับแต่งตั้งถูกต้อง ก็อาจจะมีการเพิ่มข้อหาทำร้ายเจ้าพนักงาน รวมทั้งรอผลการรักษาตัวของผู้บาดเจ็บ ว่ามีอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตอย่างไร

ในส่วนผู้ต้องหานั้น เบื้องต้นให้การว่าเสพยาเสพติดมา ซึ่งกำลังรอผลตรวจปัสสาวะยืนยันอีกที ซึ่งถ้ามีผลยืนยัน ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก

ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่าน่าจะเกิดจากความเมา ซึ่งผู้ก่อเหตุมีการดื่มสุราด้วย และทั้งสองฝ่ายก็ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อน โดยนายตั้มนั้น เคยมีคดีก่อเหตุทะเลาะวิวาทแล้วตำรวจไประงับเหตุ นายตั้มก็ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของตำรวจ จนถูกดำเนินคดีเมื่อปี 2566 ครั้งนั้นถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 6 เดือน และพึ่งพ้นโทษออกมาไม่นาน ก็มาก่อเหตุขึ้นอีก

ในส่วนกรณีที่มีการพูดกันว่า นายตั้มเป็นผู้ป่วยจิตเวชหรือไม่นั้น มีข้อมูลว่ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยยาเสพติด ปรากฏประวัติในการรักษาของระบบสาธารณสุข ส่วนกรณีที่คนสงสัยว่าเป็นนักมวยหรือไม่นั้น จากการตรวจสอบทราบว่า เคยฝึกมวยตามความชอบ แต่ไม่เคยสังกัดค่ายมวย หรือขึ้นเวทีชกมวยแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายตั้ม กลับจากไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดและควบคุมตัวเข้าห้องขัง ก็พอดีมาเจอกับกลุ่มผู้สื่อข่าวพอดี โดยผู้สื่อข่าวพยายามถามว่าทำไมถึงก่อเหตุขึ้น ซึ่งนายตั้มที่ยังอยู่ในสภาพยังไม่สร่างเมาดีนัก พูดจาวกวนอ้างว่า เคยมีเรื่องทะเลาะกับคนกลุ่มนี้ และโดนข่มขู่ว่าจะฆ่าและโดนเขายิงมา 3 ครั้งแล้ว ทำให้ตนจึงต้องลงมือตอบโต้เช่นนี้