ชาวบ้านอำเภอบัวใหญ่หวาดผวา หลังคนร้ายก่อเหตุข่มขืน 2 ยายกลางทุ่งนาแต่ยังจับคนร้ายไม่ได้ ล่าสุดตำรวจเก็บดีเอ็นเอตรวจสอบหาคนร้าย อาจเป็นคนในพื้นที่หรือนอกพื้นที่ก็ได้

วันที่ 25 ธันวาคม 2567 มีรายงานว่า จากกรณี 2 ยายในอำเภอบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ได้เดินทางไปร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาหงสกุล กรณีถูกคนร้ายข่มขืนกลางในทุ่งนา เขตพื้นที่ ต.ดอนตะหนิน อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา เมื่อช่วง 5 โมงเช้าของวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งคุณยายวัย 78 ปี ได้เดินออกไปเก็บฟืน ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับก่อไฟ แต่ในขณะนั้นได้มีคนร้ายเป็นชาย ไม่ทราบอายุ รูปร่างใหญ่เดินเข้ามาด้านหลังคุณยายใช้มือปิดตาแล้วลงมือข่มขืนคุณยายจนสำเร็จความใคร่ ก่อนที่จะชิงเงินคุณยาย 420 บาทแล้วหลบหนีไป (อ่านข่าว : 2 ยายผวา เข้าร้องปวีณา ช่วยจับโจรหื่น ใส่หมวกไอ้โม่ง หลังถูกข่มขืนกลางทุ่งนา)

หลังเกิดเหตุ คุณยายได้วิ่งออกมาขอความช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ โดยคุณยายได้เล่าเหตุการณ์ให้ชาวบ้านฟัง ก่อนที่ญาติๆ ของคุณยายจะพาคุณยายไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวใหญ่ แต่มาจนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ หลานจึงพาไปร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาหงสกุล เพื่อขอความช่วยเหลือคืบหน้าทางคดี

...

ล่าสุดทีมข่าวได้ลงพื้นที่ในจุดเกิดเหตุพบว่า ชาวบ้านในพื้นที่ต่างหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บางคนไม่กล้าออกไปขุดปูนาในช่วงกลางวัน เนื่องจากกลัวว่าคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก นางบัวขาว อายุ 42 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า ชาวบ้านต่างหวาดกลัวมาก ปกติในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ตนเองกับเพื่อนบ้านจะออกขุดปูนา เพื่อเอาไว้ให้ลูกหลานในช่วงเดินทางกลับมาบ้าน แต่หลังจากเป็นข่าวว่าคุณยายถูกข่มขืนกลางทุ่งนา และตำรวจยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ ทำให้ชาวบ้านไม่กล้าออกไปขุดปูนา จึงอยากวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวใหญ่ ช่วยเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้เร็วที่สุด

ในส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวใหญ่ ได้ส่งชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่หาข่าวเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากในจุดเกิดเหตุเป็นทุ่งนา ไม่มีกล้องวงจรปิด ทำให้ยากที่จะติดตามจับกุมคนร้ายได้ อีกทั้งคนร้ายเลือกลงมือก่อเหตุในทุ่งนา ห่างจากหมู่บ้านกว่า 300 เมตร ประกอบกับไม่มีใครเห็นรูปพรรณสัณฐานคนร้ายจึงทำให้ยากต่อการจับกุม แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ยังคงเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้เร็วที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และชุดสืบสวน สภ.บัวใหญ่ เร่งสืบสวนดำเนินการหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ เนื่องจากคดีดังกล่าวมีผลกระทบสร้างความหวาดกลัวให้กับพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ชุดสืบสวนสามารถเก็บดีเอ็นเอของคนร้ายที่ก่อเหตุไว้แล้ว ขณะนี้ได้นำผลดีเอ็นเอไปตรวจสอบ และแบ่งกลุ่มผู้ต้องสงสัยไว้ โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มคนที่มีประวัติเคยก่อคดีทางเพศ และคดีอาชญากรรมต่างๆ นำไปเปรียบเทียบดีเอ็นเอเพื่อหาตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ส่วนคนร้ายจะเป็นในพื้นที่หรือไม่นั้น จากข้อมูลขณะนี้เป็นไปได้ทั้งหมดว่าคนร้ายอาจเป็นคนในพื้นที่หรือนอกพื้นที่ก็ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังทำงานสักระยะก่อน.