พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เผยขั้นตอน ย้ายโกทร กับลูกน้อง มาขังกรุงเทพฯ ระบุหากมีอาการเจ็บป่วยจริง หมอไฟเขียว อนุมัติไปรักษานอกเรือนจำ เหมือนอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ได้ ส่วนการพักการลงโทษ จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในกรณีของนายสุนทรและพวก เพราะการพักโทษต้องเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดเท่านั้น

ภายหลังตำรวจจับกุมนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทร นายก อบจ.ปราจีนบุรี อดีต รมช.สาธารณสุข พ่อนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ และลูกน้องอีก 6 คน ร่วมกันสังหารโหดนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 21 ธันวาคม 2567 ที่อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ศูนย์ราชการเฉลิมเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนะ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการเตรียมย้ายนายสุนทร วิลาวัลย์ และพวก จากเรือนจำจังหวัดนครนายก มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่า การย้ายตัวนายสุนทร และพวกนั้น ปกติจำเลยหรือผู้ต้องหา หากศาลยังไม่ตัดสินถือเป็นผู้ต้องหา จะอยู่กับเขตอำนาจพนักงานสอบสวน แต่ถ้าเป็นคดีของกองบังคับการปราบปราม ซึ่งเขตอำนาจของกองปราบฯ มีทั่วประเทศ กองปราบฯ อาจใช้เรือนจำจังหวัดนครนายกก็ได้ แต่ต้องดูว่ากองใดของกองปราบฯ จะเป็นผู้ดำเนินการ

อย่างไรก็ตาม โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการโอนสำนวนมาที่กรุงเทพฯ แต่ว่าด้วยความที่อำนาจของกองปราบฯ มีทั่วประเทศ ก็อาจจะไม่โอนมาก็ได้ ทั้งนี้ ต้องไปสอบถามทางกองปราบฯ การขอโอนย้ายตัวผู้ต้องหาจากพื้นที่หนึ่งไปคุมขังยังอีกพื้นที่หนึ่งนั้น พนักงานสอบสวนจะต้องส่งเอกสารทำเรื่องการขอย้ายตัวผู้ต้องหากับศาลจังหวัดนครนายก แล้วศาลจึงจะมีคำสั่งโอนย้าย โดยการโอนย้ายตัวผู้ต้องหาจะต้องย้ายทั้งหมด เพราะอยู่ในสำนวนเดียวกัน

ส่วนเงื่อนไขการเยี่ยมญาติ ราชทัณฑ์มีมาตรฐานเดียวกัน เพราะเรือนจำไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ดังนั้น การเยี่ยมญาติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ โดยเฉพาะในส่วนของผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี เราก็อยากให้มีการเยี่ยมญาติมากขึ้น เพราะผู้ต้องหายังมีความจำเป็นต้องต่อสู้คดี จึงต้องมีการพบทนายความและได้พบบุคคลที่สามารถให้ข้อมูลได้ ซึ่งตนได้ให้นโยบายแก่เรือนจำทั่วประเทศ ไม่ได้หมายความเพียงแค่คดีนี้เท่านั้น ว่าหากเป็นผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี ควรเปิดโอกาสให้เยี่ยมญาติมากขึ้น เพื่อจะได้มีเวลาในการต่อสู้คดี และการเดินทางไปศาล ตนมองว่าผู้ต้องขังคดีระหว่างพิจารณา ไม่ควรที่จะต้องสวมใส่เสื้อชุดสีลูกวัว หากสามารถแต่งกายธรรมดาได้ ก็ควรได้แต่ง แต่ทราบว่าขณะนี้มีหลายเรือนจำได้เริ่มนำร่องไปแล้ว

...

สำหรับกรณีที่นายสุนทร เป็นบุคคลสูงอายุ 85 ปี และมีโรคประจำตัว การพิจารณาให้ได้รับการพบแพทย์ กระบวนการขั้นตอนเป็นอย่างไรนั้น หากมีอาการเจ็บป่วยตามระเบียบแล้วก็สมควรได้รับการรักษาพยาบาลโดยเร็ว แต่ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของผู้บัญชาการเรือนจำที่จะพิจารณาส่งตัวให้ได้รับการรักษาพยาบาล แต่การไปรักษาพยาบาล ด้วยความเป็นพื้นที่ควบคุมก็ต้องมีการอายัดตัวกับตำรวจ และเจ้าหน้าที่เรือนจำฯ ก็ต้องไปควบคุมด้วย เหมือนคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร

ทั้งนี้ การจะส่งตัวผู้ต้องขังออกไปรักษาตัวภายนอกเรือนจำนั้น ผู้บัญชาการเรือนจำจะต้องเป็นคนที่อนุมัติออก แต่หมอต้องรับว่าป่วยจริงหรือไม่ หากป่วยไม่จริงก็ต้องส่งตัวกลับ สำหรับการพักการลงโทษ จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในกรณีของนายสุนทรและพวก เพราะการพักโทษต้องเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดเท่านั้น ต้องมีคำพิพากษาศาลตัดสินเท่านั้น แต่ถ้าเป็นกรณีของการเจ็บป่วย เราสามารถส่งตัวผู้ต้องขังออกไปรับการรักษาตัวภายนอกเรือนจำได้ จะเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ในแม่ข่าย อย่างเช่นโรงพยาบาลตำรวจ หรือโรงพยาบาลขนาดใหญ่ แต่ถ้าทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ สามารถรองรับได้ ก็ให้โรงพยาบาลราชทัณฑ์รับดำเนินการดูแลเรื่องการพยาบาล

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า หากมีการย้ายตัวผู้ต้องขังจากเรือนจำหนึ่งมาอีกเรือนจำหนึ่ง ก็จะต้องมีการกักโรคโควิด-19 จำนวน 5 วัน แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องกักโรคถึง 5 วัน แต่อย่างไรเบื้องต้นก็ยังคงการกักโรคโควิดไว้ที่ 5 วันไว้ก่อน

ส่วนกรณีการจำแนกแยกลักษณะผู้ต้องขัง หากนายสุนทรและพวก ถูกย้ายตัวมาคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ราชทัณฑ์จะต้องเฝ้าระวังกลุ่มของผู้ที่เสียประโยชน์จากบ้านใหญ่เครือข่ายนายสุนทร หรือไม่นั้น ตนขออธิบายว่า ทางเรือนจำจะต้องเป็นคนดูไม่ให้คู่ขัดแย้งได้อยู่ด้วยกัน เพราะผู้คุมเรือนจำต้องดูไม่ให้เกิดเหตุการณ์ และในเรือนจำฯ ผู้ที่มีเหตุการณ์แบบนี้ก็สามารถฟ้องญาติได้ บอกทนายได้ กรณีของนายสุนทรหากถูกย้ายมาคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จะได้คุมขังภายในแดนเดียวกันหรือไม่ ในทางปฏิบัติขึ้นอยู่กับ ผบ.เรือนจำฯ หากจะอยู่รวมกันก็ได้ แต่ไม่ควรอยู่กับฝ่ายตรงข้ามหรือขัดแย้งกัน

ส่วนกรณีที่นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อยากเข้าไปเยี่ยมนายสุนทร และอยากขอให้นายสุนทรมาแถลงข่าวนั้น สามารถเข้าเยี่ยมได้ แต่ต้องเป็น 1 ใน 10 ชื่อที่นายสุนทรได้ระบุไว้ และเจ้าตัวก็ต้องอนุญาตการให้เข้าเยี่ยมด้วย อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานการประสานมาว่าจะมีการย้ายนายสุนทร และพวก จากเรือนจำจังหวัดนครนายก มาคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในวันเวลาใด เพราะต้องรอกระบวนการของพนักงานสอบสวน และศาลก่อน