สืบ ตม. ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้งฐานกลางคอนโดหรูกลางกรุง รวบหัวหน้าขบวนการ พร้อมสมุน รวม 6 ราย อ้างไม่รู้ทำแบบนี้ผิดกฎหมาย

วันที่ 20 ธ.ค. 67 พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบ.ตร. และผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม. นำกำลังชุดสืบสวน สตม. เข้าจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ชาวจีน 6 ราย ได้แก่ 1. นาย FENGRAN WEN 2. นาย ZHANG JUN 3. นาย LI YUNING 4. นาย PANG ZE 5. นาย YANG QUN และ 6. นาย YAO FAN ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง

พร้อมด้วยของกลางหลายรายการ อาทิ Sim Box จำนวน 286 เครื่อง, ซิมการ์ดโทรศัพท์ จำนวน 208,652 ชิ้น, โทรศัพท์มือถือ 636 เครื่อง, เครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง, จอคอมพิวเตอร์ 62 เครื่อง, CPU 84 เครื่อง และแล็ปท็อป 4 เครื่อง โดยตรวจยึดได้จากห้องพัก ชั้น 16, 17 และ 23 รวม 6 ห้อง ภายในคอนโดแห่งหนึ่ง ถนนรัชดาภิเษก ซอย 6 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.

พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ตำรวจ ตม. ได้พบชาวต่างชาติที่อาศัยในคอนโดฯ มีพิรุธ เรื่องบุคคลต่างด้าวที่ทำผิดกฎหมาย จึงทำการตรวจสอบ กระทั่งพบความผิดปกติ จึงขอศาลออกหมายค้น จนพบของกลางดังกล่าว ซิมมือถือส่วนใหญ่เป็นซิมไทยทั้งหมด จึงประสานให้ตำรวจไซเบอร์เข้ามาทำการสืบสวนเพิ่มเติม ถือเป็นเรื่องสำคัญที่มาพบซิมจำนวนมากมายขนาดนี้กลางเมืองกรุง โดย 32 ซิมต่อซิมบ็อกซ์ โทร.ได้ประมาณ 1 หมื่นครั้ง อย่างไรก็ตาม จะมีการนำไปตรวจสอบกับฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นอย่างไรบ้าง

...

โดยการจับกุมครั้งนี้ ถือว่าได้จับกุมตัวหัวหน้าขบวนการด้วย แต่ยังขาดผู้ต้องหาอีก 3 คน ที่อยู่ระหว่างออกหมายจับนำเข้าสู่ระบบ Watch list และกระจายหมายจับไปตามแนวชายแดน ทำให้ผู้ต้องหาที่เหลือไม่สามารถหลบหนีออกนอกประเทศได้ นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการใช้โปรแกรมในการลงทะเบียนสมัครบัญชีเฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์ และไลน์ โดยใช้เอไอในการทำได้รวดเร็ว และสามารถใช้หลอกคนได้เลย

พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเชื่อว่า กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 6 คนมีหน้าที่ในการดูแลระบบซิมบ็อกซ์ทั้งหมด เช่น ไฟตก ไฟดับ หรือเครื่องพังและเสีย จะมีการสั่งเครื่องใหม่มาเปลี่ยน ส่วนผู้ที่ทำหน้าที่หลอกลวงผู้อื่นจะอยู่ในต่างประเทศ โดยใช้วิธีการยิงไวไฟเข้ามายังซิมบ็อกซ์ โดยผู้ต้องหาทั้ง 6 คนได้เดินทางเข้ามาในเมืองไทยด้วยวีซ่านักเรียน-ท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 4 เดือน และมาเช่าที่แห่งนี้ประมาณ 2 เดือน นอกจากนี้ยังพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาได้มีการเดินทางเข้าประเทศลาว และประเทศกัมพูชามาก่อนหน้านี้ ซึ่งสอดคล้องกับข้อเท็จจริง เนื่องจากแก๊ง Call Center ส่วนหนึ่งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน

ทั้งนี้ หนึ่งในผู้ต้องหาได้ให้การว่า มีหน้าที่เปลี่ยนซิมการ์ด มีรายได้ต่อเดือน 8,000 หยวน และอ้างว่าไม่ทราบว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยจะคอยทำหน้าที่เปลี่ยนซิมการ์ดในเครื่องซิมบ็อกซ์ เพื่อใช้ในการสมัครบัญชีโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งของไทยและจีน เมื่อสมัครเสร็จ ระบบจะนำไปยิงโฆษณาให้คนมากด ทำเงินให้ได้ 20 หยวนต่อบัญชี เมื่อครบก็จะเปลี่ยนซิมการ์ดสมัครใหม่ไปเรื่อยๆ ทำมาประมาณ 1 เดือนแล้ว

เบื้องต้น แจ้งข้อหาร่วมกันมี ใช้ นำเข้า เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต, นำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์, ซ่อนเร้นของที่พึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิด, เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นนายจ้างรับบุคคลต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตเข้าทำงาน และประสานให้ตำรวจไซเบอร์เข้ามาทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.สตม. เพื่อดำเนินคดี พร้อมขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดต่อไป