อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ กลุ่มชายฉกรรจ์ 5 คน ที่บุกเข้าไปล็อกกุญแจมือเจ้าของบ้าน อ้างเป็นตำรวจ ปปส. แล้วรื้อค้น คว้าโทรศัพท์วิ่งหนีไปหลังบ้าน ที่แท้เป็นตำรวจจริง แต่นอกพื้นที่ ล่าสุดรอง ผกก.สืบ สภ.ชุมพวง ตามมาสารภาพแล้ว ยอมรับลูกน้องเข้าไปจริง อ้างเป็นยุทธวิธี ชี้จับยาเสพติดเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่ชุดสืบวิ่งหนีเพราะเกรงใจตำรวจเจ้าของพื้นที่ ขณะเจ้าของบ้านยอมรับตอนแรกเกิดความกังขา แต่ก็ไม่ติดใจอะไรอีกแล้ว
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีชายฉกรรจ์จำนวน 5 คน อ้างเป็นตำรวจ ปปส. จังหวัดนครราชสีมา บุกเข้าไปที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 3 บ้านบุผู้หญิง ต.บุโพธิ์ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ แล้วทำการใส่กุญแจมือนายนิพนธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี และนางสุภาพ อายุ 67 ปี เจ้าของบ้าน รวมถึงเพื่อนลูกชายเจ้าของบ้านที่นั่งอยู่หน้าบ้านเอามารวมกันไว้ในห้อง ซึ่งในนั้นยังมีแม่ลูกอ่อนอีก 2 คน รวมทั้งหมด 5 คนที่ถูกขังไว้
โดยหลังจากนั้นชายฉกรรจ์ทั้ง 5 คนได้ทำการรื้อค้นข้าวของภายในบ้าน แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งจากคำบอกเล่าของนายนิพนธ์ ระบุว่าชายฉกรรจ์ที่บุกเข้ามายังเอาโทรศัพท์มือถือไปอีก 5 เครื่อง พร้อมกับถอดซิมการ์ดกล้องวงจรปิดในบ้านไปด้วย
...
ต่อมา พ.ต.อ.สยาม เกียรติบรรจง ผกก.สภ.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เจ้าของพื้นที่ ได้นำกำลังเข้ามาตรวจสอบภายในบ้าน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าการทำงานในลักษณะดังกล่าวคล้ายกับตำรวจจริง
แต่ยังสวนกับความรู้สึกของเจ้าของบ้าน ว่าถ้าเป็นตำรวจจริง ทำไมถึงเข้ามาด้านหลังบ้าน แล้วเอาโทรศัพท์มือถือไปด้วย ที่สำคัญเมื่อตำรวจ สภ.ทะเมนชัย ขับรถเปิดไฟวาบๆ มาจอดหน้าบ้าน ภายหลังลูกชายอีกคนของเจ้าบ้าน โทรแจ้งก่อนหน้านี้ เพราะดูวงจรปิดในมือถือ แล้วทำไมชายทั้งหมดจึงรีบวิ่งหนีออกไปทางหลังบ้าน โดยเฉพาะการยึดเอาโทรศัพท์ไปด้วย
พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาระบุถึงกรณีนี้ว่า หลังเกิดเหตุได้รับรายงานจาก สภ.ทะเมนชัย และเมื่อตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นตำรวจจริง อยู่ สภ.จังหวัดเพื่อนบ้าน ซึ่งกำลังหาข้อเท็จจริงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ล่าสุด พ.ต.ท.ชัยยศ ตรีพุฒ รอง ผกก. (สืบสวน) สภ.ชุมพวง อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ได้เดินทางมาที่บ้านของผู้เสียหาย เพื่อมาชี้แจงและอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจ้าของบ้าน
พ.ต.ท.ชัยยศ กล่าวว่า ยอมรับว่าชุดที่เข้ามาเป็นตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา จริงที่เข้ามาเพราะต้องการขยายผลตามเส้นทางของยาเสพติด ตามที่ได้รับรายงานจากชุดสืบสวน คนในบ้านหลังดังกล่าวมีรายชื่อเป็นกลุ่มผู้เสพ และมีความสนิทสนมกับเป้าหมาย คือนักค้ายา
เมื่อถามว่ามิจฉาชีพในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ การเข้ามาของตำรวจในลักษณะนี้จะเป็นอันตรายหรือไม่ พ.ต.ท.ชัยยศ ชี้แจงว่าการจับยาเสพติดเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ละเคสมีลักษณะไม่เหมือนกัน บางครั้งเข้ากลางคืนบางครั้งเข้ากลางวัน ซึ่งการเข้ามาหรือออกไป เจ้าของบ้านอาจตกใจบ้าง แต่ทั้งหมดทรัพย์สินตำรวจไม่ได้เอาไป เป็นการเข้าใจผิด เช่นเดียวกับกรณีการดึงซิมการ์ดวงจรปิดไปด้วย เพราะต้องการปิดทุกวงจรที่ไม่ให้คนร้ายเคลื่อนไหวได้
กรณีที่ตำรวจ สภ.ทะเมนชัย มาถึงหน้าบ้านแล้วตำรวจสืบสวนชุดนี้ วิ่งหลบหนี เพราะเกรงใจเจ้าของพื้นที่ จึงรีบถอนกำลังออกไปก่อนแล้วค่อยกลับมาคุยกันในภายหลัง ครั้งนี้ต้องขอโทษที่ทำให้เรื่องบานปลาย โดยหลังจากนี้จะมีการทบทวนการปฏิบัติหน้าที่อีกครั้ง
...
ด้านนางสุภาพ เจ้าของบ้าน เล่าว่า จริงแล้วถ้าเป็นตำรวจจริง มาแจ้งตรงๆ มาขอตรวจค้น ตนไม่ว่าอะไร หรือจะมีการจับกุมลูกที่กระทำผิดไปตนก็ไม่ว่าอะไร แต่อันนี้เข้ามาหลังบ้าน แล้วเข้าไปล็อกกุญแจมือ แต่ตอนนี้ตำรวจมาชี้แจงให้เข้าใจแล้ว ตนก็ไม่ติดใจอะไรอีกแล้ว