ภูเก็ต-นักเรียน ป.4 วัย 10 ปี โหนประตูฟุตบอลเล่นกับเพื่อนๆ สุดระทึก จู่ๆ เสาประตูโค่นทับหัวเสียชีวิต เหตุเกิดในโรงเรียน พื้นที่เมืองภูเก็ต ตำรวจ สภ.วิชิต เร่งตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง เสาประตูฟุตบอลอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานมากน้อยเพียงใด
เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 17 ธ.ค.67 ร.ต.ท.หญิง ปรชญา สีโยม พนักงานสอบสวนคดีอาญา สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากทางผู้บริหารโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ถ.ศักดิ์เดชน์ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่าเกิดอุบัติเหตุเสาประตูฟุตบอลที่สนามฟุตบอลโรงเรียน โค่นทับนักเรียนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยทางโรงเรียนได้นำนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บส่ง รพ.วชิระภูเก็ต แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา จากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก.สภ.วิชิตนำกำลังสายตรวจและ พฐ.รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในสนามฟุตบอลของโรงเรียนดังกล่าว พบเสาประตูฟุตบอลที่ทำจากเหล็กทาด้วยสีขาวหักโค่นอยู่กลางสนาม โดยทางโรงเรียนได้นำกรวยยางสีส้มมากั้นล้อมไว้ เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เบื้องต้นทราบว่ามีผู้บาดเจ็บจากเสาประตูฟุตบอลโค่นด้วยกัน 3 คน แต่อีก 2 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนนักเรียนที่เสียชีวิตได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะ เนื่องจากเสาประตูฟุตบอลทับจนหมดสติ ชีพจรเต้นแผ่วเบาและไปเสียชีวิตที่ รพ. ทราบชื่อคือ ด.ช.ธนกฤต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.4
...
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามผู้อำนวยการโรงเรียนทราบว่า หลังรับประทานอาหารกลางวัน ด.ช.ธนกฤตและเพื่อนอีก 2 คน ได้มาวิ่งเล่นกันที่สนามฟุตบอล จากนั้นได้กระโดดโหนคานประตูฟุตบอลดังกล่าว แต่เสาได้เกิดโค่นลงมา ทำให้ ด.ช.ธนกฤตและเพื่อนๆ ล้มลงกับพื้น โดยคานได้ฟาดศีรษะ ด.ช.ธนกฤต ทำให้ได้รับบาดเจ็บและหมดสติ ส่วนเพื่อนๆ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จากนั้นทางโรงเรียนได้ประสานรถกู้ชีพเทศบาลตำบลวิชิตนำ ด.ช.ธนกฤตส่ง รพ.วชิระภูเก็ต และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง
ด้าน พ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก.สภ.วิชิต เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว แม้จะเป็นอุบัติเหตุก็ตาม แต่จะต้องตรวจสอบรายละเอียดของอุบัติเหตุทั้งหมดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เสาของประตูฟุตบอลอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานมากน้อยเพียงใด และเพราะสาเหตุอะไรที่ทำให้เสาโค่นลงมาได้ อย่างไรก็ดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับทางครอบครัวของนักเรียนที่เสียชีวิต ซึ่งทราบว่าอยู่ระหว่างการติดต่อขอรับศพนำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานให้เข้ามาแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป