นนทบุรี - สืบภาค 1 บุกยึดเครื่องซิมบ็อกซ์รุ่นใหม่ ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรหลอกเหยื่อ เผยขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์เลือกเช่าห้องพักหรูตามคอนโดใจกลางเมือง เพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตาม

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 ธันวาคม 2567 พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร รรท.ผบช.ภ.1 สั่งการให้ พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช. พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รอง ผบก.สส. พ.ต.อ.วิศิษฎ์ มะอักษร รอง ผบก.สส. พ.ต.อ.วิทิต จันทร์เอี่ยม รอง ผบก.สส. พ.ต.ท.พูนสุข เตชะประเสริฐพร รอง ผกก.1 สส.ภ.1 นำกำลังตำรวจสืบสวนภาค 1 ตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง นำหมายค้นศาลอาญาที่ 1124/2567 เข้าตรวจค้นห้องพัก ชั้น 2 คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านรัชดา-ห้วยขวาง

จากการตรวจค้นภายในห้องพัก พบเครื่องซิมบ็อกซ์จำนวน 3 เครื่อง สามารถใช้ลิงก์เบอร์มือถือได้ 384 เบอร์ จึงได้ให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บ DNA และลายนิ้วมือแฝง เพื่อส่งเปรียบเทียบคดี ก่อนหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 1 สามารถตามยึดเครื่องซิมบ็อกซ์ได้ที่ จ.นนทบุรี 3 เครื่อง และซอยรัชดา 32 หรือซอยเสือใหญ่ แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม.จำนวน 3 เครื่อง จึงได้ขยายผลตามมาตรวจยึดเพิ่ม

...

พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ก่อนหน้าตำรวจสืบสวนภาค 1 สืบสวนติดตามยึดเครื่องซิมบ็อกซ์มาแล้ว 2 แห่ง และขยายผลตามมายึดได้อีก โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ติดต่อเช่าห้องพักหรูตามคอนโดใจกลางเมือง เพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตาม จะเช่าผ่านเอเจนซี่ ก่อนจะให้คนชาวเวียดนามเดินทางเข้ามาประเทศไทยนำเครื่องซิมบ็อกซ์มาติดตั้งไว้ในห้องพัก เพื่อใช้สำหรับรับสัญญาณโทรศัพท์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ต่างประเทศ โทรเข้ามายังเครื่องซิมบ็อกซ์แปลงสัญญาณก่อนโทรหลอกเหยื่อ หลังจากติดตั้งเครื่องแล้วจะเดินทางกลับทันที จากการตรวจสอบพบว่าห้องพักดังกล่าวได้มาเช่าไว้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.กล่าวว่า เครื่องซิมบ็อกซ์ที่พบเป็นเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุด ไม่จำเป็นต้องใส่ซิมการ์ด แต่จะใช้ซิมการ์ดที่อยู่ยังต่างประเทศโทรเหมือนเป็นเบอร์ภายในประเทศตามปกติ ทำให้เหยื่อหลงเชื่อจนถูกหลอกได้ เครื่องซิมบ็อกซ์ 1 เครื่อง สามารถใช้ซิมการ์ดได้ 128 เบอร์ 3 เครื่อง รวม 384 เบอร์ ในแต่ละวัน 1 เบอร์จะใช้โทรหลอกเหยื่อ 6,000-7,000 ครั้งต่อวัน เครื่องซิมบ็อกซ์ถือเป็นหัวใจหลักของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในการหลอกเหยื่อ ตำรวจสืบสวนภาค 1 จึงได้ขยายผลตามยึดให้ได้โดยเร็วไม่อย่างนั้นจะมีผู้เสียหายถูกหลอกไม่เว้นแต่ละวัน และคาดว่ายังมีอีกหลายจุด

พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 กล่าวว่า ก่อนหน้านี้สามารถยึดเครื่องซิมบ็อกซ์มาแล้ว 2 ครั้ง และพบว่าเป็นหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้โทรหลอกเหยื่อสำเร็จพื้นที่ จ.นนทบุรี จ.สมุทรปราการ จ.เชียงใหม่ จ.สตูล และอีกหลายจังหวัด ส่วนที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ต้องนำเครื่องซิมบ็อกซ์เข้ามาวางติดตั้งในพื้นที่ใจกลางเมือง เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบุกยึดและถอดเสาส่งสัญญาณตามแนวชายแดน ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ต้องนำเครื่องเข้ามายังพื้นที่ชั้นใน ตำรวจสืบสวนภาค 1 จะขยายผลติดตามตรวจยึดเพื่อตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังตรวจยึดของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวางดำเนินคดี และออกหมายจับต่อไป

...