เจ้าหน้าที่ พฐ. เข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ภายใน "บ้านโกทร" คลายสงสัยคดียิง "สจ.โต้ง" ขณะที่ผลการตรวจคราบเขม่าดินปืน ยังไม่สามารถเปิดเผยได้

จากกรณี นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ถูกสังหารโหด ภายในบ้าน นายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทร นายก อบจ.ปราจีนบุรี และอดีต รมช.สาธารณสุข เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา คาดว่าสาเหตุมาจากขัดแย้งเรื่องการส่งคนลงเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนบุรี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า วันที่ 17 ธ.ค. 67 พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานปราจีนบุรี ได้ลงพื้นที่บ้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง หลังจากที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากสังคมไม่เชื่อว่าลูกน้องโกทร ทั้ง 2 คน เป็นมือยิง จึงให้ลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติมในคดีที่เกิดขึ้น เพื่อให้ได้หลักฐานที่รอบคอบและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ก่อนลงพื้นที่ ทีมงานได้มีการประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี เพื่อวางแผนให้การตรวจพิสูจน์หลักฐานครั้งนี้ มีความเชื่อมโยงและรัดกุมมากขึ้น โดยประเด็นหลักที่ต้องตรวจสอบคือ "วิถีกระสุนและร่องรอยที่ปรากฏ" เนื่องจากมีข้อสงสัยบางประการเกี่ยวกับวิถีกระสุน จึงได้นำผู้เชี่ยวชาญกลุ่มงานอาวุธปืนจากกองพิสูจน์หลักฐานกลางลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบอีกครั้ง

...

พล.ต.ต.วาที ย้ำว่า การตรวจครั้งนี้ไม่ใช่การตรวจซ้ำ แต่เป็นการตรวจเพิ่มเติม เพื่อยืนยันหลักฐานที่ได้ส่งไปยังห้องปฏิบัติการก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น หัวกระสุน, ปลอกกระสุน หรือคราบเขม่าดินปืน ซึ่งเก็บจากทุกคนที่เกี่ยวข้องกับคดี รวมถึงผู้เสียชีวิต เพื่อตรวจสอบว่าทุกอย่างเป็นไปตามรูปแบบที่ควรจะเกิดขึ้นหรือไม่

การตรวจเพิ่มเติมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้เกิดความชัดเจนในคดี และไม่ให้เกิดข้อครหาจากสังคม โดยเฉพาะคำถามที่ยังคงค้างคาใจ เช่น กรณีผู้ก่อเหตุอาจมีมากกว่า 2 คน ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ และจำเป็นต้องรอผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานที่ลงพื้นที่เพิ่มเติม

ส่วนการตรวจลายนิ้วมือและดีเอ็นเอ ที่เกิดเหตุ พล.ต.ต.วาที ระบุว่า กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดปราจีนบุรี และพิสูจน์หลักฐานภาค 2 ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว วันนี้เพียงมาตรวจยืนยันร่องรอยวิถีกระสุน เพื่อให้หลักฐานมีความถูกต้องและชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะที่ผลการตรวจคราบเขม่าดินปืน เบื้องต้นยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้