เร่งเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บเหยื่อระเบิดหน้าเวทีรำวงย้อนยุค งานกาชาด แผ่นดินดอยลอยฟ้า อ.อุ้มผาง จ.ตาก ล่าสุดเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลแม่สอดและอุ้มผาง จำนวน 16 ราย และทุกรายพ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วนตำรวจเร่งถอดบทเรียน พร้อมวางมาตรการเพิ่มในการรักษาความปลอดภัย ล่าสุดพิษแรงระเบิดมีคำสั่งย้ายด่วน ผกก.สภ.อุ้มผางไปช่วยราชการที่ภาค 6 แล้ว
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 ธันวาคม 2567 ที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผบก.ภ.จว.ตาก นายบุญช่วย หอมยามเย็น รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดตาก นายสัญญา เพชรเศษ นายอำเภอแม่สอด นายแพทย์รเมศ ว่องวิไลรัตน์ ผอ.โรงพยาบาลแม่สอด พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตากและตำรวจ สภ.แม่สอด ร่วมกันเดินทางเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บและได้รับผลกระทบจากเหตุคนร้ายขว้างระเบิดแบบสังหารใส่ฝูงชนที่เต้นรำอยู่หน้าเวทีรำวงย้อนยุค ภายในงานแผ่นดินดอยลอยฟ้าและงานกาชาดอำเภออุ้มผางประจำปี 2567 ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพและมีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 56 คน จนเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ
โดย พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผบก.ภ.จว.ตาก พร้อม พ.ต.อ.พิทยากร เพชรรัตน์ ผกก.สภ.แม่สอด ซึ่งเป็นตัวแทนเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้นำกระเช้าพร้อมเงินสดปลอบขวัญนำไปมอบให้ผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 6 ราย ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่ตึกหอผู้ป่วยศัลยกรรม โรงพยาบาลแม่สอด โดยการเข้าไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 6 รายในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปลอบขวัญและให้กำลังใจให้ผู้ได้รับบาดเจ็บทุกรายให้หายโดยเร็ววัน ซึ่งผู้ป่วยทั้ง 6 ราย วันนี้เริ่มมีรอยยิ้มและขวัญกำลังใจดีขึ้นหลังรอดตายจากเหตุการณ์ระเบิดลูกดังกล่าว
...
ซึ่งนางสาวทิพย์เกสร จันเริง อายุ 18 ปี ชาวอำเภออุ้มผาง หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดที่รอดตาย กล่าวว่า ช่วงวันเกิดเหตุตนเองและเพื่อนหลายคนได้ไปเที่ยวงานกาชาดอำเภออุ้มผางและได้เข้าไปร่วมเต้นรำในเวทีรำวงย้อนยุค ซึ่งตอนนั้นมีผู้คนหลายร้อยคนกำลังเต้นรำกันอย่างสนุกสนานและจู่ๆ ก็มีเสียงระเบิดดังสนั่นเวทีรำวงขึ้น 1 ครั้งตามด้วยฝุ่นดินฟุ้งกระจายไปทั่วเวทีรำวงและทันทีที่สิ้นเสียงระเบิดก็เห็นคนหลายคนล้มกองจมกองเลือดและคนจำนวนมากต่างตกใจแตกตื่นวิ่งหนีกันโกลาหล ซึ่งตนเองถูกสะเก็ดที่ลำคอและขารู้สึกเจ็บมีเลือดไหลจนสักพักมีคนมาช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาลอุ้มผางและครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ระทึกขวัญครั้งแรกในชีวิตที่ตนเองรอดมาได้แบบระทึกของนาทีชีวิตของตนเอง
ด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผบก.ภ.จว.ตาก กล่าวหลังเข้าเยี่ยมปลอบขวัญผู้ได้รับบาดเจ็บ ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าตนเองพร้อมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้เข้าไปให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บโดยที่โรงพยาบาลอำเภออุ้มผาง คงเหลือจำนวน 10 รายและที่โรงพยาบาลแม่สอดเหลือ 6 ราย โดยผู้ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดที่รักษาตัวอยู่ทั้งสองโรงพยาบาลขณะนี้ทุกคนอาการพ้นขีดอันตรายและปลอดภัยแล้วทุกคน
ส่วนคดีผู้ต้องหาทั้งสองคนคือนายดิดิ ไม่มีนามสกุล อายุ 16 ปี สัญชาติเมียนมา ซึ่งเป็นทหารชนกลุ่มน้อยในเมียนมาและเป็นผู้ก่อเหตุปาระเบิดถล่มผู้บริสุทธิ์ ส่วนอีกคนนายจอลิทู กวีจรัสทวี อายุ 17 ปี ทั้งสองรับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุจริง ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.อุ้มผาง ได้สอบสวนขยายผลทางคดีเพิ่มเติมพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนการถอดบทเรียนจากเหตุขว้างระเบิดในครั้งนี้ตนเองได้มีหนังสือจากตำรวจภูธรจังหวัดตาก ให้ทุกสถานีตำรวจทุกแห่งในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดตาก ให้เพิ่มมาตรการในการควบคุมรักษาความปลอดภัยงานเทศกาลทุกแห่งตลอดพื้นที่แนวชายแดนจังหวัดตาก โดยให้มีการประสานความร่วมมือกับส่วนราชการทุกแห่ง ทั้งตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองทุกอำเภอให้ดำเนินการตั้งศูนย์ประสานงานร่วมรักษาความปลอดภัยในงานประจำปีทุกแห่งให้เป็นระบบที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันและเน้นทั้งการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทุกประเภทและให้ตั้งชุดตรวจค้นพิเศษสำหรับผู้ที่เข้าร่วมงานเทศกาลทุกแห่งเพื่อให้เป็นพื้นที่จัดงานทุกแห่งปลอดภัยปลอดอาวุธซึ่งขณะนี้ทุกสถานีตำรวจได้ดำเนินการงานเพิ่มความเข้มงวดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดพิษแรงระเบิดงานกาชาดอำเภออุ้มผาง ส่งผลทำให้มีคำสั่งเป็นหนังสือราชการด่วนจาก พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ได้มีคำสั่งด่วนให้ พ.ต.อ.ศุภกร พิพัฒน์พิมพา ผกก.สภ.อุ้มผาง จ.ตาก ให้ไปช่วยราชการที่ ศปก.ภ.6 โดยให้ขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิมและให้ไปรายงานตัวในวันที่ 16 ธันวาคม 67 ที่ ศปก.ภาค 6 ทั้งนี้คำสั่งดังกล่าวลงนามวันที่ 14 ธันวาคม 67