"บิ๊กเต่า" ยืนยัน มีข้อมูลใต้โต๊ะตรงตามที่ "ดนัย" เผย พบเส้นเงินคดีรุกที่ ส.ป.ก. เอี่ยวหวานใจนักการเมืองเกือบ 1,000 ล้าน ลั่นอยากทำคดีนี้ ถ้าพบผิด เตรียมเชือดไก่ให้ลิงดู
วันที่ 4 ธ.ค. 67 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการตรวจสอบคดีรุกที่ ส.ป.ก. จังหวัดสระบุรี ที่มีเส้นทางการเงินไปเชื่อมโยงถึง นางสาว ช. หวานใจนักการเมืองว่า จากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ พบว่าเส้นเงินดังกล่าวมีมูลค่าถึงเกือบ 1,000 ล้านบาท เป็นเงินหมุนเวียนผ่านบัญชี ตามที่นายดนัยให้ข้อมูล คดีนี้เป็นเหมือนคดีแป้งมัน ที่เป็นการฉ้อฉลของข้าราชการกับนักธุรกิจ หรือนายทุน
ส่วนกรณีคนที่ถูกกล่าวอ้างบอกว่า อาจจะไม่ใช่เขาก็ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เผยว่า กรณีเส้นเงิน เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่มีเส้นเงินจากกลุ่มเป้าหมายไปถึง ถามว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ถ้าเกี่ยวข้องก็ว่าไป แต่หากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องให้ความเป็นธรรมเขา แต่เมื่อนักธุรกิจเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับข้าราชการที่ฉ้อฉลแล้วเงินไปถึง เราก็ต้องตรวจเงินก้อนนี้อย่างละเอียด ว่ามีก้อนอื่นหรือไม่ ที่ไม่ยิงตรง แต่จะไปทางซ้าย ทางขวา เราก็แตกไปเรื่อยๆ จนเราเห็นข้อมูล ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น อะไรที่เป็นหลักฐานได้ก็นำเข้ามาสู่สำนวน
เรื่องนี้ตนได้รับรายงานมาเรื่อยๆ โดยก่อนหน้านี้ คณะทำงานคดีนี้ก็อยากจะให้ บก.ปปป. ทำ แต่เพิ่งมาทราบว่า หลังผ่านไป 4-5 เดือน สำนวนกลับไปอยู่ที่ ป.ป.ช. ซึ่งไม่ทราบเหตุผล แต่ไม่เป็นไร เพราะเมื่อสำนวนกลับมาอยู่ที่เรา เรามีอำนาจเต็มที่จะเรียกมาสอบ หรือขอหมายได้หมด เราไม่อยากจะบอกว่าเราทำไว หรือดีกว่า แต่เราจะทำเรื่องนี้ด้วยความโปร่งใส ตรงไปตรงมา เราไม่เคยละเว้นใคร หรือนึกถึงผลประโยชน์ แต่เราคิดว่าจะทำอย่างไรให้เป็นที่พึ่งของประชาชน ซึ่งเราอยากสร้างบรรทัดฐานว่า คุกมีไว้ขังทุกคน ความตั้งใจของเราอยากทำตั้งแต่นาทีแรก แต่สำนวนถูกตีไปที่ ป.ป.ช. เพราะเป็นเรื่องทุจริตของข้าราชการกับนายทุน
...
ส่วนจะเอาผิดหวานใจนักการเมืองคนนี้ได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ มองว่า เป็นเรื่องของพยานหลักฐาน ต้องดูว่าเส้นเงินที่ไป ไปด้วยเรื่องอะไร เงินมาจากไหน ไปถึงใครเพราะอะไร ซึ่งต้องตรวจสอบให้ชัดเจน เมื่อถามว่า เส้นเงินไปถึง "ช." หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า จากข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งข่าว เส้นเงินถึง ประมาณ 10 ล้าน แต่จะเข้าข่ายความผิดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ ป.ป.ช. ว่าจะมอบหมายให้ใครเป็นผู้ทำคดี และหากได้ทำคดีนี้ก็ไม่ลำบากใจที่จะต้องดำเนินคดีกับบุคคลที่ปรากฏเป็นข่าว เพราะพูดตั้งแต่แรกที่มีการเข้าตรวจค้นบริษัทภูนับดาวแล้วว่า ถ้าพบความผิดให้ดำเนินการเลย เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู