อุดรธานี หนุ่มเมาขับเก๋งพุ่งชนบ้าน เข้ารับทราบข้อหา “เมาแล้วขับ” แล้ว ปัดชดใช้ค่าเสียหาย อ้างอีกฝ่ายเรียกสูงเกินไป 74,500 บาท ขอไปไกล่เกลี่ยชั้นศาล ขณะที่ ผกก.เมืองอุดรธานี ไม่นิ่งนอนใจ สั่งเปลี่ยนร้อยเวรใหม่ และตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ร.ต.ท.ประสบการณ์น้อย
จากกรณีนายวีระพัฒน์ ทิศทรัพย์ไพบูลย์ หรือติ๊ก อายุ 38 ปี ชาวอุดรธานี เมาขับรถเก๋งพุ่งชนบ้านเลขที่ 27/50 ซอยกิจขยัน ถนนวัฒนานุวงศ์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี ของนายอุทัย ไชยวุฒิ อายุ 37 ปี น.ส.มิตรา ไชยวุฒิ อายุ 29 ปี โดยมี น.ส.ศศินภา โพธิสาลี อายุ 26 ปี เป็นผู้เช่าบ้านได้รับความเสียหาย ร.ต.ท.ทรงภพ คำใจ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์พบว่าเกินกฎหมายกำหนด แต่ไม่ควบคุมตัวไปดำเนินคดี และปล่อยตัวไป เหตุเกิดเวลา 04.20 น. วันที่ 30 พ.ย. 67 ซึ่งเจ้าของบ้านรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจ ร้อนถึง ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ต้องไปเยี่ยมผู้เสียหายและขอโทษ อ้างร้อยเวรประสบการณ์น้อย พึ่งมาทำงานไม่ถึงปี พร้อมกับเปลี่ยนร้อยเวรใหม่ และตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ธันวาคม 2567 พ.ต.ท.นิวัตร กุลศรี รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้นัดนายวีระพัฒน์ ทิศทรัพย์ไพบูลย์ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาเมาขับรถชนบ้าน และนายอุทัย ไชยวุฒิ อายุ 37 ปี น.ส.มิตรา ไชยวุฒิ อายุ 26 ปี เจ้าของบ้าน และน.ส.ศศินภา โพธิสาลี อายุ 26 ปี ผู้เช่าบ้านและเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ถูกชนได้รับความเสียหาย มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อไกล่เกลี่ยค่าเสียหาย โดยช่วงหัวค่ำวันที่ 2 ธันวาคม ตำรวจได้เรียกนายวีระพัฒน์มาพบ และแจ้งข้อหา “เมาแล้วขับ” ไปแล้ว วันนี้จึงได้นัดมาไกล่เกลี่ยกันใหม่
...
โดยนายอุทัย เจ้าของบ้าน เรียกค่าเสียหาย ชุดประตูกระจกอลูมิเนียม 1 ชุด พร้อมค่าแรงช่าง 18,000 บาท ชุดประตูไม้เนื้อแข็ง พร้อมค่าแรงช่างติดตั้ง 8,000 บาท ชุดโต๊ะม้าหินอ่อน 3,500 บาท ค่าผนังบ้านแตกร้าวและส่วนอื่นๆ ของบ้านพร้อมค่าช่าง 5,000 บาท รวมค่าเสียหาย 34,500 บาท ส่วน น.ส.ศศินภา ผู้เช่าบ้าน เจ้าของรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกูปปี้ไอ หมายเลขทะเบียน 2กฉ 7043 อุดรธานี เรียกค่าเสียหายรถจักรยานยนต์และค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถเป็นเงิน 30,000 บาท และค่าทำขวัญ 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 40,000 บาท รวมเป็นเงินที่จะต้องจ่ายค่าเสียหายทั้งหมด 74,500 บาท โดยทั้งสองฝ่ายใช้เวลาในการไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหายประมาณ 1 ชั่วโมง ปรากฏว่าตกลงกันในชั้นพนักงานสอบสวนไม่ได้ โดยนายวีระพัฒน์ ให้เหตุผลว่า ผู้เสียหายเรียกค่าเสียหายสูงเกินไป จึงขอไปไกล่เกลี่ยชดใช้ในชั้นศาล
โดยนายวีระพัฒน์ คนเมาขับรถเก๋งชนบ้าน อ้างว่า ตนทำงานเป็นช่างเทคนิคร้านจำหน่ายยางในอำเภอกุมภวาปี จ.อุดรธานี เมื่อวานนี้ได้เข้ามาพบตำรวจเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา “เมาแล้วขับ” และได้ไกล่เกลี่ยค่าเสียหาย ตกลงว่าตนจะผ่อนจ่ายเดือนละ 5,000 บาท เพื่อยืนยันว่าตนอยากจะรับผิดชอบ แต่พอตนโทรปรึกษาทนาย บอกว่ามีบางส่วนเกินมูลค่าไป สุดท้ายก็ตกลงกันไม่ได้ จึงแยกย้ายกันกลับ และมาไกล่เกลี่ยกันในวันนี้ ซึ่งผู้เสียหายเรียกค่าเสียหายด้วยมูลค่าที่ตนไม่มีกำลังจ่าย รถเก๋งที่ตนขับมาชนก็ได้รับความเสียหายหนักต้องหาเงินซ่อม และค่าปรับคดีเมาแล้วขับก็ต้องใช้เงิน ซึ่งตนคำนวณดูเงินแล้วไม่พอ จึงอยากขอว่าให้ลดค่าผ่อนจ่ายลงอีก ซึ่งเบื้องต้นตนจ่ายค่าเสียหายให้เจ้าของบ้านไปแล้ว 5,000 บาท เพื่อยืนยันว่าตนจะรับผิดชอบ
“ยอมรับว่าดื่มมา แต่ไม่ได้เมา มีสติทุกอย่าง หลังจากดื่มเสร็จก็ได้ขับรถกลับบ้าน ออกจากร้านแล้วเลี้ยวเข้าไปในซอยกิจขยัน (ซอยเสาไฟแดง) พอถึงสามแยกตนได้เลี้ยวซ้ายแต่มาเจอรถซาเล้งที่จอดอยู่ ซึ่งอยู่ในวงโค้งทำให้ตกใจ ว่าจะเหยียบเบรกแต่ดันไปเหยียบคันเร่ง รถเลยพุ่งเข้าไปชนบ้าน พอตำรวจมาก็ได้ให้ตนเป่าเมา วัดปริมาณแอลกอฮอล์แล้วลงบันทึกไว้ และให้คุยไกล่เกลี่ยกัน เสร็จแล้วค่อยไปรายงานตัวที่โรงพัก”
พ.ต.ท.นิวัตร กุลศรี รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายใช้เวลาในการไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหายประมาณ 1 ชั่วโมง ปรากฏว่าตกลงกันในชั้นพนักงานสอบสวนไม่ได้ โดยนายวีระพัฒน์ ผู้ต้องหา ให้เหตุผลว่าประสงค์ชดใช้ค่าเสียหายให้นายอุทัย แต่เรียกค่าเสียหายสูงเกินไป ประสงค์ชดใช้ค่าเสียหายให้ น.ส.ศศินภา ตามความจริง แต่ที่เรียกร้องมาสูงเกินไป จึงขอไปไกล่เกลี่ยชดใช้ในชั้นศาล จึงได้ทำบันทึกเจรจาทางแพ่งไว้เป็นหลักฐาน เพื่อแนบไปกับสำนวนเมาแล้วขับส่งอัยการเพื่อดำเนินการต่อไป