ชัยภูมิ พ.ต.อ.ดร.นิรันดร์ คิดบรรจง ผกก.สภ.แก้งคร้อ ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีหนุ่มเก็บเงินกู้ร้องสื่อโดนตำรวจรุมทำร้ายหน้าโรงพัก หลังไปเก็บเงินกู้แล้วถูกทำร้าย เลยโหวกเหวกโวยวาย ตำรวจไม่รับแจ้งความ ยันลูกน้องเข้าควบคุมตัวตามยุทธวิธี และไม่ได้ทำร้ายร่างกายอย่างที่สื่อบางช่องนำเสนอ ขอความเป็นธรรมด้วย
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567 ที่จังหวัดชัยภูมิ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีมีนายวิโรจน์ รุ่งรัตน์ อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดนครสวรรค์ ได้เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนบางช่อง อ้างว่ามีนายตำรวจเข้ามาทำร้ายร่างกายนับ 10 คน รุมทำร้ายตนเองบริเวณหน้า สภ.แก้งคร้อ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา จนทำให้ตนได้รับบาดเจ็บบริเวณเบ้าตาและใบหน้า
สืบเนื่องจากตนได้เข้ามาขอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าตนถูกทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ แต่ทางตำรวจนั้นไม่รับแจ้งความ ตนจึงโหวกเหวกโวยวายไม่พอใจ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะเข้ามารุมทำร้ายตนที่หน้าสถานีตำรวจ จนกระทั่งได้รับบาดเจ็บ ตนจึงร้องเรียนต่อสื่อมวลชนบางช่องไปก่อนหน้า
ล่าสุดวันนี้ (2 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ สภ.แก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ จึงได้สอบถามเหตุการณ์กับผู้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงและอยู่บริเวณหน้าสถานีตำรวจในที่เกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์ ผู้สื่อข่าวจึงได้โทรสอบถามและติดต่อไปยังนายวิโรจน์อีกครั้ง ซึ่งวันนี้นั้นไม่สามารถติดต่อได้ และไม่รู้ว่านายวิโรจน์นั้นอยู่ที่ไหน หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ปล่อยตัวไป และได้ประสานกับทางผู้สื่อข่าวบางช่องไปก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ก็ติดต่ออีกรอบนั้นไม่ได้
จึงได้สอบถามกับทาง พ.ต.อ.ดร.นิรันดร์ คิดบรรจง ผกก.สภ.แก้งคร้อ ซึ่งเป็นผู้ดูแลสถานีตำรวจภูธรแห่งนี้ กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุ ตนได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาแล้วว่ามีนายวิโรจน์ได้เข้ามาอาละวาดโหวกเหวกโวยวายอยู่บริเวณหน้า สภ. บอกกับทางเจ้าหน้าที่ว่า ตนถูกทำร้ายร่างกาย หลังจากที่ตนไปเก็บเงินกู้อยู่ภายในพื้นที่อำเภอแก้งคร้อ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่นั้นก็ได้บอกให้มาลงบันทึกประจำวัน แต่ทางเจ้าตัวนั้นไม่ยอม จะให้เจ้าหน้าที่นั้นไปจับกุมให้ได้ภายในวันนั้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ขอให้มาลงบันทึกประจำวันเสียก่อน ทางนายวิโรจน์ไม่ยอมมาลงบันทึกประจำวัน
...
แต่นายวิโรจน์กลับโวยวายอยู่บริเวณหน้าโรงพัก เจ้าหน้าที่สายตรวจเตรียมเข้าควบคุมตัวตามยุทธวิธี และไม่ได้ทำร้ายร่างกายอย่างที่สื่อบางช่องนำเสนอ ซึ่งสื่อที่นำเสนอไปก่อนหน้านั้น ได้นำเสนอเพียงฝ่ายเดียว ตนเองจึงได้นำภาพจากกล้องบริเวณหน้า สภ. และกล้องติดหน้าอกของทางเจ้าหน้าที่ ว่าขอความเป็นธรรมให้กับทางเจ้าหน้าที่ เพราะทางเจ้าหน้าที่นั้นทำตามยุทธวิธีอย่างถูกต้อง และไม่เคยไปทำร้ายผู้เสียหายหรือประชาชนแต่อย่างใด
อีกทั้งหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายวิโรจน์มาที่ห้องสอบสวน และได้ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 230 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนในเบื้องต้น ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือ เนื่องจากนายวิโรจน์เองมีบาดแผลบริเวณเบ้าตา แต่ไม่ได้ถูกทางเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะปล่อยตัวไป และมาทราบภายหลังว่านายวิโรจน์ไปร้องสื่อ ทางเจ้าหน้าที่จึงนำหลักฐานต่างๆ ขอความเป็นธรรมอีกด้วย.