ค้นบ้านเช่าคนจีนย่านปากเกร็ด ตั้งฐานซื้อข้อมูลคนไทย ทำร้านค้าออนไลน์ ตุ๋นขายของทิพย์

นนทบุรี/ ตำรวจไซเบอร์-กสทช. เข้าตรวจค้นบ้านเช่าคนจีนย่านปากเกร็ด เปิดเป็นออฟฟิศ ตั้งฐานซื้อข้อมูลคนไทย สมัครทำร้านค้าออนไลน์ หลอกขายสินค้าทิพย์ สั่งแล้วไม่ได้ของ พบฟันกำไรหลักแสนต่อเดือน

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2567 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.รรท.ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 พ.ต.ท.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ สว.กก.2 บก.สอท.4, ร.ต.อ.เปรมประชา อุตมา รอง สว.กก.2 บก.สอท.4 พร้อมด้วย นายสุธีระ พึ่งธรรม ผู้อำนวยการสำนักกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม และเจ้าหน้าที่ กสทช. นำหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 1072/2567 ลงวันที่ 29 พ.ย.2567 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 64/53 ม.1 ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อตรวจเป้าหมายกลุ่มคนจีนตั้งฐานลักลอบซื้อข้อมูลคนไทยเปิดแพลตฟอร์มออนไลน์หลอกขายสินค้า

สืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวน กก.2 บก.สอท.4 ได้รับข้อมูลว่ามีกลุ่มคนจีนมาเช่าบ้านในหมู่บ้านย่านนนทบุรี เปิดเป็นออฟฟิศ ซื้อข้อมูลคนไทย เพื่อมาสมัครเปิดร้านค้าออนไลน์ ในแพลตฟอร์ม etsy และ amazon ของอเมริกา เนื่องจากประเทศสหรัฐอเมริกา กำหนดให้คนจีน 1 รายชื่อ สามารถเปิดร้านค้าได้ 1 ร้านเท่านั้น ทำให้เกิดหัวใส ประกอบกับมีคอนเนคชั่นในไทยอยู่แล้ว จึงหาคนไทยที่ต้องการหารายได้เสริมในกลุ่มหางานทางเพจ Facebook

โดยนำข้อมูลคนไทยมาใช้สมัครในการเปิดร้านค้าออนไลน์เท่านั้น แต่ไม่สามารถใช้ขายสินค้าได้ โดยให้ค่าตอบแทนรายละ 900 - 1,000 บาท ก่อนจะนำร้านค้าออนไลน์ที่คนไทยได้สมัครเปิดไปแล้วไปขายให้กับคนจีนที่เป็นนายทุนใหญ่อีกทอดหนึ่ง เพื่อทำกำไร ในราคา ร้านละ 40,000 หยวน หรือ 200,000 บาท ซึ่งร้านค้าออนไลน์ดังกล่าวเมื่อตกไปอยู่ในมือคนจีนแล้วนั้นจะสร้างความเสียหายให้กลุ่มคนเป็นจำนวนมาก โดยจะใช้วิธีการเปิดขายสินค้าทำให้ลูกค้าตายใจในระยะเวลา 5-6 เดือน ทำให้ตายใจ จากนั้นจะปิดร้านค้าหนี อาทิเช่น ร้านค้าออนไลน์ที่สั่งของแล้วไม่ได้ของเป็นต้น โดยมุ่งเป้าหมายนักช้อปหลักในกลุ่มคนจีนและอเมริกา เนื่องจาก แอปฯ etsy เป็นแอปประเภทสินค้าแฮนด์เมดราคาแพง เป็นที่นิยมของชาวยุโรปและชาวอเมริกัน ครั้งแรกอาจจะได้ของเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ต่อมาสั่งของก็ไม่ได้ของ จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ

ทั้งนี้ ทางตำรวจชุดสืบสวน กก.2 บก.สอท.4 จึงทำการสืบสวน จนทราบเป้าหมายว่ามีกลุ่มคนจีนมาเช่าบ้าน ในลักษณะตั้งฐานในการซื้อข้อมูลคนไทยที่บ้านหลังดังกล่าว ในพื้นที่ อ.ปากเกร็ด จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายค้น จากการตรวจค้นบ้านเป้าหมายพบ น.ส.ธารารัตน์ บวบจิตร์ อายุ 24 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ และนายอาชิน หรือ Mr.GUO XIN อายุ 31 ปี แฟนหนุ่ม สัญชาติจีน พักอาศัยอยู่ในบ้าน จึงตรวจยึดอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำผิด ประกอบด้วย มินิพีซี จำนวน 120 เครื่อง, Usb hub จำนวน 80 อัน, Aircard พร้อมซิมโทรศัพท์ จำนวน 369 อันและโน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง

จากการสอบสวน น.ส.ธารารัตน์ ให้การทราบเพียงว่า นายอาชินหรือ Mr.GUO XIN แฟนหนุ่ม ได้จ้างวานให้คนไทยเข้ามาเปิดร้านค้าออนไลน์ในราคา 1,000 บาทต่อหนึ่งร้านค้า ซึ่งมีร้านค้าออนไลน์อยู่ในการดูแล ประมาณ 100 ร้านค้า โดยไม่ทราบว่าแฟนหนุ่มได้รับเงินค่าจ้างเท่าใด จึงตรวจยึดของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ตามความผิด “มีใช้เครื่องวิทยุโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498