“ไตรรงค์ ผิวพรรณ” ผบช.ไซเบอร์ ไปเอง บุกรวบพี่เขยหื่น ลวงน้องเมียวัย 10 ปี ล่วงละเมิดทางเพศบนเรือกลางทะเล ให้แฟนสาวถ่ายคลิปขายกลุ่มลับ เตรียมแจ้งข้อหาหนักค้ามนุษย์เพิ่ม พร้อมขยายผลผู้ร่วมขบวนการ เร่งพิสูจน์ตัวบุคคลที่เป็นสมาชิกขาหื่นในกลุ่มลับทั้ง 21,571 คน มาดำเนินคดี
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รรท.ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ รองผบก.สอท.1 พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจนากูร ผกก.2 บก.สอท.2 พ.ต.อ.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. พ.ต.ท.เอกรินทร์ สนนาค สว.กก.2 บก.สอท.2, ร.ต.อ.สุรัตน์ เกื้อกูลวงศ์ รอง สว.กก.2 สอท.2 กำลังตำรวจ สภ.เกาะสีชัง และกำลังตำรวจน้ำ เปิดปฏิบัติการ “safe angle”
จับกุมนายเศรษฐวุฒิ อายุ 23 ปี มีอาชีพดูแลสินค้าทางการเกษตรบนเรือ ชาว จ.อ่างทอง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยองที่ จ.537/2567 ลงวันที่ 28 พ.ย. ในความผิดฐาน “กระทำชำเราเด็กที่อายุไม่ถึงสิบสามปีซึ่งไม่ใช่ภริยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม”
...
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.จตช. ที่เน้นย้ำในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน จึงเร่งรัดให้ดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่คลิปลามกอนาจาร โดยเฉพาะการเผยแพร่คลิปลามกเด็กและเยาวชนเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ ซึ่งเป็นอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและเข้าข่ายเป็นการค้ามนุษย์ที่มีอัตราโทษตามกฎหมายที่ร้ายแรง จึงได้มีมาตรการเชิงรุก สั่งการและบูรณาการในการติดตามสถานการณ์ เพื่อปฏิบัติการสืบสวนป้องกันปราบปราม และได้มีโครงการสายตรวจไซเบอร์เพื่อตรวจสอบการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีดังกล่าว
ต่อมาสายตรวจไซเบอร์ และกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. ตรวจสอบพบมีการประกาศขายสื่อลามกอนาจารเด็ก ในกลุ่มลับกลุ่มหนึ่ง ของแอปพลิเคชันเทเลแกรม ซึ่งมีสมาชิก 21,571 คน โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวปรากฏภาพว่ามีเด็กหญิงอายุประมาณ 10-13 ปี ถูกใช้กำลังบังคับล่วงละเมิดทางเพศบนเรือ ทางชุดสืบสวนจึงทำการแกะรอยพิสูจน์ทราบหาผู้กระทำผิดและผู้เสียหาย กระทั่งพิสูจน์ทราบตัวของเด็กหญิงผู้เสียหาย และผู้ก่อเหตุได้ ซึ่งตัวเหยื่อยังอยู่ใกล้ชิดกับผู้กระทำผิด ซึ่งหากเนิ่นช้า เกรงว่าจะเกิดเหตุซ้ำกับเหยื่อขึ้นอีก จึงได้เร่งรัดดำเนินการติดตามทันที
ต่อมาพบว่าผู้ต้องหาได้มีการปล่อยตัวเด็กไว้ที่บริเวณฝั่งท่าเรือเกาะสีชัง ชุดสืบสวนจึงร่วมกับบ้านพักเด็กและเยาวชนจังหวัดระยอง และสหวิชาชีพ เข้าสอบถามปากคำเด็กผู้เสียหาย ทราบว่าผู้ต้องหาออกเรือไปอยู่บริเวณเกาะสีชัง จึงบูรณาการร่วม สภ.เกาะสีชัง และตำรวจน้ำ นำหมายจับเข้าจับกุม โดยจับกุมนายเศรษฐวุฒิ ได้ขณะอยู่บนเรือจากัวร์ 39 ซึ่งเป็นเรือขนส่งสินค้าทางการเกษตร ระหว่างจ.ชลบุรี-กรุงเทพฯ ลอยลำอยู่ในทะเลห่างจากฝั่งประมาณ 1 กิโลเมตร
จากการสอบสวนนายเศรษฐวุฒิ ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา แฟนสาวของนายวุฒิได้ชักชวน ด.ญ.เปิ้ล (นามสมมุติ) อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องมาเที่ยวที่ จ.ชลบุรี โดยมารับที่ จ.ระยอง ก่อนพาขึ้นรถตู้ขึ้นไปลงที่ห้างฯ แห่งหนึ่ง สาขาชลบุรี จากนั้นได้พาไปที่ท่าเรือเกาะลอยโดยสารเรือมายังท่าเรือเกาะสีชัง จากนั้นได้มาขึ้นเรือจากัวร์ 39
โดยระหว่างอยู่บนเรือผู้ต้องหาได้ออกอุบายลวงเหยื่อ ก่อนกระทำชำเราล่วงละเมิดทางเพศขณะอยู่บนเรือลอยจอดอยู่ที่เกาะ โดยในการร่วมเพศแต่ละครั้งจะมีการบันทึกคลิปวิดีโอเก็บไว้ ทั้งนี้ทางผู้ต้องหาได้กักขังเหยื่ออยู่ในเรือนานกว่า 1 เดือน และถูกกระทำชำเรามากกว่า 10 ครั้ง เมื่อเรือเทียบฝั่งก็ได้ปล่อยเด็กไว้ ซึ่งขณะนี้เด็กอยู่ในความดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อย
...
นอกจากนี้ผู้ต้องหายังคงให้การว่า ในส่วนคลิปวิดีโอมีแฟนตนเป็นคนถ่ายให้ และหลังจากข่มขืนเหยื่อแล้วก็ได้ทยอยส่งไปอวดให้เพื่อนของตน โดยที่ไม่ทราบว่ามีการนำไปเผยแพร่หรือขายในกลุ่มลับ แต่ยอมรับว่าทุกครั้งที่ส่งคลิปไปก็จะได้ค่าตอบแทน ครั้งละ 200-300 บาท อย่างไรก็ตามได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยอง ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเตรียมแจ้งข้อหา ครอบครองสื่อลามกอนาจารและแสวงหาผลประโยชน์จากการค้ามนุษย์เพิ่มเติม
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า ล่าสุดได้สั่งการให้ตำรวจไซเบอร์ เร่งขยายผลผู้ร่วมขบวนการ โดยเฉพาะผู้ที่ทำการเผยแพร่คลิปดังกล่าวลงไปขายในกลุ่ม อีกทั้งสั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งพิสูจน์ตัวบุคคลที่เป็นสมาชิกในกลุ่มลับทั้ง 21,571 คน มาดำเนินคดีเช่นเดียวกัน