"เจ๊หนิง" ยันไม่ได้จัดฉากห้องพักถูกงัด แต่เป็นการถูกคุกคามหลังจากที่มีคดีความเกิดขึ้น ขณะที่หลานชายที่ถูกออกหมายจับด้วยนั้น จะพาเข้ามอบตัวในวันพรุ่งนี้
ต่อมาเวลา 14.00 น. วันที่ 27 พ.ย. หลังจากพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง สอบปากคำ น.ส.ธณัฏฐา ยอดเยี่ยม หรือ เจ๊หนิง อดีตอาจารย์พิเศษ โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน และ พ.ต.อ.ภีมพจน์ น้อมชอบพิทักษ์ สามี นาน 6 ชั่วโมง พ.ต.อ.ภีมพจน์ ได้ไปขึ้นรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู 530 อี สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ออกไปโดยไม่ให้สัมภาษณ์
ส่วนเจ๊หนิงเปิดเผยว่า การสอบปากคำผ่านไปด้วยความเรียบร้อย ตนให้การปฏิเสธ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาให้การเท็จ โดยได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นที่ดินใน จ.นครปฐม มูลค่า 500,000 บาท ประกันตนและสามี เจ้าหน้าที่ตีหลักประกันคนละประมาณ 1 แสนบาท
โดย เจ๊หนิง บอกด้วยว่า ตนให้การตามข้อเท็จจริงตามที่เกิดขึ้นในวันเกิดเหตุ ยืนยันว่าหลานชายอยู่ในเหตุการณ์ และจดจำใบหน้าผู้ก่อเหตุได้ ส่วนที่ตำรวจมีหลักฐานเกี่ยวกับสัญญาณโทรศัพท์ของหลานชายว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุนั้น ก็ไปว่ากันในกระบวนการชั้นศาล ตำรวจเองก็ได้ไปเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้ง 2 แห่ง คือ คอนโดมิเนียมซอยสุขุมวิท 101 และบ้านพักใน จ.ปทุมธานี ตนเองยังยืนยันว่ามีทรัพย์สินสูญหายไปจริง ประกอบด้วย ทองน้ำหนัก 120 บาท และเงินสดอีก 600,000 บาท
...
น.ส.ธณัฏฐา เผยอีกว่า หลังจากที่ตนมีคดีความ ตนถูกคุกคาม โดยเมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา พบว่าห้องพักที่อยู่ในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม ของตน มีร่องรอยการถูกงัดที่ประตู แต่ไม่สามารถเข้าไปในห้องพักได้ คาดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผลพวงมาจากการที่ตนไปเป็นพยานในคดีฟอกเงิน ที่คู่กรณีมีคดีความอยู่ แต่ก็ไม่สามารถระบุว่าเป็นฝีมือของใครกันแน่ ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนจัดฉากสร้างเรื่องที่ถูกงัดห้องพัก โดยจะได้ประสานกับโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เพื่อจะพิจารณาดำเนินคดีกับบุคคลใดบ้าง
ส่วนกรณีที่หลานชายไม่มารับทราบข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าไม่รู้ว่าถูกหมายจับนั้น ได้แจ้งให้หลานชายทราบแล้ว วันพรุ่งนี้ ช่วงบ่าย จะพาหลานชายมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป ก่อนเจ๊หนิงจะขึ้นรถยนต์ กลับไปกับทีมที่ปรึกษาทางกฎหมาย