โฆษกดีเอสไอ เผยความคืบหน้า "ดิไอคอน" เตรียมสรุปสำนวนส่งอัยการ 20 ธ.ค. นี้ พร้อมเตือนผู้เสียหาย อย่าลืมยื่นคำร้องคุ้มครองสิทธิกับสำนักงาน ปปง.
วันที่ 24 พ.ย. 67 พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ว่า ในที่ประชุมเมื่อวันที่ 22 พ.ย. ของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 119/2567 ถือเป็นการประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ไปดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมาย ก่อนนำมารายงานผู้บังคับบัญชา
โดยมีเนื้อหาสำคัญ คือ การรายงานผลการสอบสวนปากคำผู้ต้องหาชาย 11 คน บอสดิไอคอน ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 21-22 พ.ย. โดยในส่วนนี้ยังไม่มีผู้ต้องหารายใดส่งเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา มีเพียงบันทึกการรับทราบข้อกล่าวหาและการสอบปากคำเพิ่มเติมเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นหารือแนวทางการจัดการกับคำร้องที่มีการยื่นขอพิจารณาถอนอายัดทรัพย์สิน จึงได้มอบหมายไปยังกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศไปดำเนินการวางระบบงาน ทางคณะพนักงานสอบสวนได้วางกรอบไทม์ไลน์ เตรียมสรุปสำนวนคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณีการดำเนินคดีอาญากับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปกับพวก เพื่อส่งพนักงานอัยการไว้ว่าเป็นวันที่ 20 ธ.ค. โดยจะมีการสรุปสำนวนพร้อมความเห็นทางคดีในส่วนของ 18 ผู้ต้องหาล็อตแรกต่อพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาเนื้อหาและพยานหลักฐาน โดยก่อนที่จะสรุปสำนวนส่งอัยการ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะต้องมีการประชุมร่วมกันเพื่อมีมติในที่ประชุมว่าจะทำการสั่งฟ้องผู้ต้องหาในข้อหาดังกล่าวนั้น เนื่องด้วยความเห็นทางคดีอย่างไรบ้าง
ส่วนความคืบหน้าในคดีพิเศษที่ 115/2567 กรณีฟอกเงินทางอาญา ซึ่งมี ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการคู่ขนาน เพราะดีเอสไอต้องทำสำนวนคดีมูลฐานอย่างคดีพิเศษที่ 119/2567 นี้ให้เรียบร้อยก่อน เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจึงจะได้เข้ากระบวนการดำเนินเรื่องฟอกเงินต่อไป
...
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ส่วนเรื่องกรอบเวลาที่ดีเอสไอจะยุติการสอบสวนในคดีของ 18 บอสดิไอคอน ตรงกับวันที่ 3 ธ.ค. มติที่ประชุมของคณะพนักงานสอบสวน ได้ให้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 ธ.ค. ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมด 18 ราย รับทราบแล้ว
ทางทนายความของผู้ต้องหาในฐานะผู้ประสานงานได้มีการติดต่อมายัง ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือกองคดีฮั้วประมูล เพื่อขอนำพยานมาเขียนคำร้องว่าแต่ละรายจะขอพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดบ้าง ทราบว่ากระบวนการจะเริ่มในวันจันทร์ที่ 25 พ.ย. นี้
โดยทางดีเอสไอ ได้เตรียมแผนรับรองว่าจะมีแบบฟอร์มเบื้องต้นให้พยานที่มาได้กรอกข้อมูลรายละเอียดในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคดีมูลฐานก่อน รวมถึงประเด็นที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามแบบฟอร์มที่กำหนด เพื่อจะได้นำมาประเมินว่าพยานรายใดมีความจำเป็นในการสอบสวนมากน้อยเพียงใด และให้พิสูจน์ในประเด็นที่ตนเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง จึงไม่ถือว่าเป็นการตัดพยาน เพราะการดำเนินงานของพนักงานสอบสวนเป็นเรื่องของการตรวจสอบพยานหลักฐานที่จะใช้ในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์
ดังนั้น จึงต้องดูประเด็นที่จะใช้พิสูจน์คือเรื่องอะไร ทางทีมคณะพนักงานสอบสวนของ ร.ต.อ.สุรวุฒิ ได้จัดทำแบบฟอร์มดังกล่าวเพื่อให้บรรดาพยานได้กรอกข้อมูลเบื้องต้นก่อน และเมื่อมีการกรอกประเด็นครบถ้วนแล้ว ทางคณะทำงานก็จะได้มาพิจารณาคำร้องเหล่านี้ ว่ามีข้อเท็จจริงมีพยานหลักฐานพิสูจน์ประเด็นความบริสุทธิ์ในเรื่องอะไรบ้าง รวมทั้งสอบใครบ้าง
ประการสำคัญอีกเรื่อง คือกรณีที่สำนักงาน ปปง.ได้มีการประกาศเปิดรับคำร้องขอคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายในคดีดิไอคอน และได้มีการกำหนดระยะเวลา 90 วัน เพื่อให้ผู้เสียหายในคดีได้ยื่นคำร้องตามช่องทางที่มีการกำหนดไว้ ซึ่งระยะเวลาดังกล่าว เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย.67 - 17 ก.พ.68 ทางดีเอสไอจึงเล็งเห็นว่าควรจะมีการประสานขอความร่วมมือกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้เสียหายที่ประสงค์จะร้องทุกข์กล่าวโทษ หรือแจ้งความดำเนินคดี ให้สามารถแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศภายในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้เสียหายเอง
เนื่องจากเมื่อมีการแจ้งความเสร็จสิ้นแล้ว ดีเอสไอจะมีหนังสือขอความร่วมมือไปยังตำรวจอีกฉบับ คือ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับแจ้งความ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจนครบาล ตำรวจสอบสวนกลาง หรือตำรวจภูธร ให้ออกหลักฐานการรับแจ้งความตามแบบฟอร์มที่ดีเอสไอได้รับการประสานจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ว่า สำนักงาน ปปง. มีความประสงค์ต้องการข้อความในลักษณะนี้ เพื่อให้ประชาชนได้เอกสารลงบันทึกประจำวัน และใช้ในการยื่นต่อสำนักงาน ปปง.ได้ด้วย จะได้เป็นการช่วยคุ้มครองสิทธิ์ผู้เสียหายในคราวเดียว โดยหนังสือขอความร่วมมือดังกล่าวนี้จะส่งถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายในวันที่ 25 พ.ย.
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ฝากแจ้งเตือนไปยังผู้เสียหายกรณีดิไอคอน ที่มีผู้เสียหายจำนวนมากทั่วประเทศ ประชาชนทุกรายที่เป็นผู้เสียหายในคดีนี้ให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่จะมีการโทรศัพท์ติดต่อไปยังท่านโดยตรง หรือโทรฯ แล้วเพิ่มเพื่อนในไลน์ แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีต้องตรวจสอบเรื่องการฟอกเงินแล้วใช้พูดลักษณะข่มขู่ทำให้หวาดกลัว จากนั้นอ้างตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคาร จากนั้นออกอุบายให้ท่านโอนเงินไปยังบัญชีปลายทางที่มีการแอบอ้าง หรือขอให้ท่านเดินทางไปยังหน่วยงานราชการใดนั้น
ขอเน้นย้ำว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตัวจริง แม้จะมีการนำเอารูปภาพของผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษพนักงานสอบสวนคดีพิเศษมาใช้แอบอ้าง ทั้งนี้ ท่านสามารถตรวจสอบ และแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนดีเอสไอ โทร.1202 เนื่องจากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะไม่ติดต่อประชาชนผ่านโซเชียลมีเดีย หรือโทรศัพท์หาประชาชน.