"ตำรวจทางหลวง" ไล่ล่า "รถกระบะตู้ทึบ" ลักลอบขนแรงงานเถื่อน พบชาวเมียนมาอัดแน่นในรถ 29 คน เตรียมควบคุมตัวคนขับดำเนินคดี

วันที่ 23 พ.ย. 2567 ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกำลังตำรวจทางหลวง สถานีตำรวจทางหลวง 5 กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง และตม.จังหวัดปัตตานี ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และ พ.ต.ท.กฤตกร อิชณน์ คงขำ สว.ตม.จว.ปัตตานี ติดตามไล่ล่ารถกระบะตู้ทึบมิตซูบิชิ ทะเบียน 3 ฒง 768 กรุงเทพฯ

หลังจากที่ได้รับรายงานว่า เป็นรถที่ลักลอบขนแรงงานเถื่อนข้ามชาติชาวเมียนมา มาจากพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และขับมาตามเส้นทางถนนหลวงหมายเลข 42 เขตรอยต่อระหว่าง จ.ปัตตานี มุ่งหน้า จ.นราธิวาส และพยายามเร่งเครื่องหลบหนี จึงได้ประสานตำรวจทางหลวงของหน่วยบริการตำรวจทางหลวงกลาพอ ทล.42 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ตั้งจุดตรวจจุดสกัดและเรียกตรวจรถยนต์กระบะคันนี้

ทั้งนี้ ปรากฏว่าภายในตู้ทึบท้ายรถกระบะพบแรงงานเถื่อนชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองทั้งยืนทั้งนั่งอัดแน่นเบียดเสียดกันเต็มตู้ทึบจำนวน 29 คน เป็นชาย 21 คน หญิง 8 คน จึงควบคุมตัวลงจากรถ และจับกุม นายมูฮัมหมัดฟิตดาว บินไยนี อายุ 27 ปี ชาว จ.พัทลุง มาสอบสวน

...

โดยให้การว่าได้ขับรถไปขับชาวเมียนมากลุ่มนี้มาจากพื้นที่ อ.หาดใหญ่ เพื่อไปส่งในพื้นที่ ต.ปูเก๊ะตา อ.แว้ง จ.นราธิวาส ได้ค่าจ้างหัวละ 1,500 บาท จากนายหน้าชาวไทยชื่อ "โนบิน" ไม่ทราบชื่อจริง เป็นชาว จ.ยะลา

ในขณะที่ชาวเมียนมาทั้ง 29 คนบอกว่าจะลักลอบเดินทางเข้าไทยเพื่อไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยติดต่อนายทุนชาวเมียนมาที่อยู่ในมาเลเซีย ให้ช่วยว่าจ้างนายหน้าชาวไทยให้พาเดินทางเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย

โดยเดินทางมาแล้ว 3 วัน และวันนี้กำลังจะเดินทางต่อเป็นครั้งสุดท้ายไปยังพื้นที่ชายแดน จ.นราธิวาส เพื่อลักลอบข้ามแดนไปยังประเทศมาเลเซีย แต่ก็ไปไม่ถึงจุดหมายปลายทางเพราะถูกตำรวจทางหลวงจับกุมได้ก่อน

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวคนขับดำเนินคดีฐานกระทำความผิดฐานให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ให้การช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ

ส่วนแรงงานเถื่อนชาวเมียนมาถูกดำเนินคดีในข้อหากระทำความผิดฐาน เป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และจะประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสืบสวนขยายผลจับกุมนายทุนและนายหน้าผู้ที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังทั้งต้นทางและปลายทางของการลักลอบขนแรงงานเถื่อนข้ามชาติเครือข่ายนี้ต่อไป.