เป็นเพื่อนกันตลอดไป “ทนายเดชา” ยันความสัมพันธ์ระหว่าง “ทนายตั้ม” ยังเหมือนเดิม ทำผิดก็ยอมรับ ไม่ผิดก็สู้คดี ไม่แคร์ทัวร์ลง ลั่นไม่ได้เข้าไปช่วยทำดำเป็นขาว พร้อมยืนยันไม่กังวลเรื่องที่สภาทนายความ บอก ก็ไปชี้แจงเท่านั้น ไม่มีอะไร

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความฝ่ายโจทก์คดี แตงโม ดาราสาวพลัดตกเรือเสียชีวิต เดินทางมาสืบพยานฝ่ายจำเลย ก่อนลงมาให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว คดี เจ๊อ้อย กับทนายตั้ม

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีมีประเด็นเรื่องจีพีเอสที่รถเบนซ์ของเจ๊อ้อย ทนายเดชา กล่าวว่า การที่จะไปกล่าวหาใครต้องมีพยานหลักฐานสมมุติว่ามีการกล่าวหาว่ามีการติดจีพีเอส วางแผนเพื่อจะฆ่าเอาสมบัติ สมมุติว่ามีหลักฐานก็ไปแจ้งตำรวจ ตำรวจจะไปยื่นคำร้องต่อศาล ศาลจะออกหมายจับทนายตั้ม ถ้ามีหลักฐาน แต่ถ้าไม่มี ก็เอาผิดเขาไม่ได้ มันต้องมีหลักฐานว่าไปติดจีพีเอส มีการวางแผนจะฆ่าเพื่อฮุบสมบัติหมื่นล้าน ตามที่เป็นข่าว ถ้ามีพยานหลักฐานอย่างนั้นก็ให้ตำรวจไปยื่นคำร้องต่อศาล ข้อหาพยายามฆ่า โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ก็สามารถเพิ่มข้อหาทนายตั้ม ได้เลย แต่ตนไม่ทราบว่ามีหลักฐานหรือไม่ ถ้ามีก็ไปแจ้งเลย ตนสนับสนุน

...

ทนายเดชา กล่าวว่า ตนกับทนายตั้มยังเป็นเพื่อนกันไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าทัวร์ลงแค่ไหน ด้วยความเป็นเพื่อน ระหว่างตนกับทนายตั้ม ยังเหมือนเดิม แต่ถ้าตั้มทำอะไรผิด ก็ต้องควรรับกรรมไป ตนไม่ได้เข้าไปช่วยทำดำเป็นขาว หรือไปทำลายเอกสารต่างๆ ไม่มี ตนมีความเป็นเพื่อนถึงทัวร์ลง แต่ถ้าผมให้ความรู้ทางกฎหมายไม่ได้เข้าข้างอะไร เพียงแต่อธิบายให้ฟังว่าทางฝ่ายนั้นเขาพูดอยู่ ฝ่ายนี้ก็แจ้งมา ตนก็อธิบายให้คิดเท่านั้นเอง ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามสบาย ตนไม่ก้าวล่วง

ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากบอกอะไรถึงทนายตั้ม และทนายสายหยุด หรือไม่ ทนายเดชา กล่าวว่า อยากบอกให้ทนายตั้ม รักษาสุขภาพ อันไหนถ้าเราทำผิดก็ยอมรับ แต่ถ้าไม่ทำผิดก็สู้คดี ส่วนทนายสายหยุด ตนได้โทรคุยกันทุกวันอยู่แล้ว และก็ให้กำลังใจน้อง เราเป็นทนายผู้ต้องหา ซึ่งผู้ต้องหาเป็นคนที่สังคมตัดสินแล้วว่าชั่วว่าเลว พอเขาเข้ามาช่วยแล้วก็อาจมีทัวร์ลงบ้างก็ไม่เป็นไร คนเราดีชั่วอยู่ที่การกระทำของเราไม่ได้อยู่ที่คำพูดใคร ตนอยากฝากไว้แค่นี้

ทนายเดชา กล่าวถึงกรณีคุณสนธิ ว่า เขาจะร้องเรียนอะไรก็ปล่อยเขาไป ตนไม่ได้กังวลอะไรตนมีหน้าที่ สภาทนายความรับเรื่อง ก็ไปชี้แจงเท่านั้นไม่มีอะไร

ส่วนคุณสนธิ บอกว่าจะมีของขวัญให้ ทนายเดชา กล่าวว่า ยินดีเลย รออยู่ รีบส่งเลย ยินดีเลยครับ คือไม่ต้องมาข่มขู่อะไรผ่านสื่อหรอก ถ้าอยากทำอะไรอยากร้อง อยากฟ้องเต็มที่ ตนยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไม่มีปัญหา เขาวันๆ ก็วิพากษ์วิจารณ์คนอื่นเยอะแยะมากมาย ก็ไม่ได้ต่างอะไร ต่างคนต่างก็ทำมาหากินไป ของผมก็ของผม คุณก็มายุ่งผมก่อน อันนี้ตนไม่ซีเรียสหรอก จะฟ้องร้องจะร้องเรียนอะไรเต็มที่เลย ตนพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ต้องมาข่มขู่อะไร อยากฟ้องอยากอะไรก็ทำไปเลย

“ตนขอไม่ตอบดีกว่า เดี๋ยวก็รู้เอง เพราะตนเป็นทนายความ ถ้าตนจะทำอะไร ตนคงไม่มาแถลงข่าว ไม่ต้องมาข่มขู่หรอกเดี๋ยวก็รู้เอง เอาแค่นี้ดีกว่า”

ทนายเดชา กล่าวว่า คุณสนธิไม่ได้มีอำนาจอะไรที่จะไปตรวจสอบคนนู้นคนนี้ มันเป็นหน้าที่ของตำรวจ คุณสนธิไม่ได้เกี่ยวอะไร ใครจะไปตรวจสอบเส้นทางการเงินของคนใกล้ตัวทนายตั้มก็ทำไป แต่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตน ตำรวจก็ดำเนินการไป ถ้ามีพยานหลักฐานทำผิดติดคุกติดตารางไป ถ้าเขาไม่ทำผิด เขาก็ชนะคดีแค่นั้นเอง

ตนไม่ได้สนใจเรื่องที่คุณสนธิทำเลย ที่คุณสนธิไปสภาทนายความ มันเห็นชัดเลยว่าตนไม่มีแผล มันชัดเจนว่าตนไม่มีแผล ที่บอกว่าจะแฉตนตบทรัพย์ใครต่อใคร มันไม่มี เพราะตนไม่มีแผล ไม่เคยหลอกลวงใคร ตนไม่เคยติดคุกด้วย ฝากคุณสนธิด้วย ไม่เชื่อไปถามตอนคุณสนธิติดคุกติดตาราง เคยเจอตนหรือไม่ ตนไม่เคยติดคุก ไม่ว่าข้อหาอะไรทั้งนั้น แล้วตนไม่มีแผลอะไรทั้งนั้น มีเรื่องเดียว คือ โต้เถียงกับคุณสนธิเท่านั้นเอง การวิจารณ์เป็นเสรีภาพ อย่างมากก็ถูกฟ้องหมิ่นประมาท ตนก็ไปสู้ คุณก็วิจารณ์ผม ผมก็วิจารณ์คุณ พวกนี้มันแก้คดีไม่ยุ่งยาก

ส่วนเรื่องสภาทนายความจะรับเรื่องราวร้องทุกข์อะไร ถ้าสังเกตตนไม่มีแผล ถ้าตนไปตบทรัพย์ เรียกเงินอะไรต่างๆ เขาก็ต้องไปแจ้งแล้วมันไม่มีอะไรเลย เพราะคุณวิจารณ์ผม ผมวิจารณ์คุณ อันนี้ผมไม่ได้ห่วงเลย ใครจะคิดอะไรตามสบายเลย ตนไม่ได้สนใจ ไม่เคยเก็บอะไรมาคิด ใครเห็นต่างจากตน ก็ว่ากันไป ส่วนตนอยากทำอะไรก็ทำ จะมองว่าขุดบ่อล่อปลาแล้วตนตกลงไปไม่มี คดีหมิ่นประมาทไม่มีอะไร คุณวิจารณ์ผมผมวิจารณ์คุณ

คุณก็บอกผมมิตรแท้โจร ช่วยเหลือพวกทนายโจรก็ว่าไป แต่พอตนพูดบ้างแล้วเป็นยังไง รับไม่ได้ คุณรับไม่ได้เพราะคุณแก่แล้ว คุณคิดว่าในประเทศไทยใครจะวิจารณ์คุณไม่ได้ แต่คุณวิจารณ์ผม ทนายโจร อะไรต่างๆ อย่างนี้คุณพูดได้ แต่ตนพูดว่า คุณกลับรับไม่ได้ แต่ตนไม่มี ไม่ได้ฟ้องร้องอะไรใคร

...

ผมยินดีเลยจะแจ้งความจะฟ้องศาลเต็มที่เลย ตนพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และอีกอย่างหนึ่งการฟ้องร้องมันเป็นสนามที่ตนถนัด เพราะตนเป็นทนายความ ตนไม่ใช่สื่อแบบคุณสนธิ เพราะฉะนั้นสนามบนเวทีศาล มันเป็นสนามที่ตนถนัดอยู่แล้ว มันเป็นอาชีพ ผมใช้ทำมาหากิน นี่ 6 โมงกว่า ผมยังอยู่ศาลเลย เพราะฉะนั้นอันนี้ผมไม่ต้องห่วงผมเลย

อันนี้ก็แล้วแต่ทัวร์ จะลงก็ลงไป ตนไม่ได้ว่าอะไร มันเยอะก็ลบทิ้งบ้าง และไม่ต้องอ่านคอมเมนต์ คือที่ผ่านมาสมัยคดีแตงโม สมัยสารสาสน์ สมัยหวย 30 ล้าน ทัวร์ก็ลงมาตลอด แต่ของตนส่วนใหญ่ที่ทัวร์ลงมีเรื่องเดียว เรื่องความเห็นต่างจากสังคมส่วนใหญ่ คิดไม่เหมือนเขา จะเรียกว่าแทงสวนแทงตามหรืออะไรก็แล้วแต่ เอาตามสบาย แต่ตนไม่มีปัญหา ตนไม่เคยติดคุกมาก่อน ลองถามคุณสนธิ ตอนติดคุกเคยเห็นเดชาไหม ไม่มี

ตนไม่เคยติดคุก เอาแค่นี้ละกัน และไม่มีแถ ไม่มีตบทรัพย์ใคร ไม่ได้รับจ้างใครด่า อะไรก็มี เพราะตนสบายใจ คนไม่เห็นด้วยกับตน ไม่ติดตามตนก็เลื่อนผ่าน เวลาตนจัดรายการ คนที่รักตนก็มี ตนไม่ซีเรียสนะ ตนก็ไม่ได้อ่านคอมเมนต์ ใครจะทัวร์ลงอะไร ตนก็ไม่ได้ฟ้องร้องอะไรใคร ใครชอบตนก็มาดู ไม่ชอบก็เลื่อนผ่าน แค่นี้ไม่มี ไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะเราอยู่ในโซเชียล เราอยู่มานาน.