"ทนายบอสพอล" รับมอบอำนาจดำเนินคดี "เจ๊พัช-ฟิล์ม รัฐภูมิ" พยายามกรรโชกทรัพย์ หรือพยายามฉ้อโกง ศาลยกคำร้อง "บอสวิน" ประกันตัว แม้ป่วยมะเร็งระยะ 3

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 พ.ย. 67 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เผยว่า วันนี้มีทีมทนายได้นำหนังสือมอบอำนาจเข้าไปให้กับ บอสพอล เซ็นมอบอำนาจในการดำเนินคดีกับ นางสาวกฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ เจ๊พัช และ ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หลังปรากฏคลิปเสียงรับเงิน 20 ล้านบาท ซึ่งทางดิไอคอน, บอสพอล และ บอสปัน ได้รับความเสียหาย ถึงแม้ว่าความผิดยังไม่สำเร็จ แต่มีความพยายามในการกรรโชกทรัพย์ ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องมีการหารือกับพนักงานสอบสวน ว่าจะเข้าข่ายความผิดฐาน พยายามกรรโชกทรัพย์ หรือ พยายามฉ้อโกง แต่ส่วนตัวมองว่าเข้าข้อหาพยายามฉ้อโกง มากกว่ากรรโชกทรัพย์ เพราะมีเนื้อหาที่มีการพยายามข่มขู่จ่ายเงิน โดยอ้างอิงจากไฟล์เสียง 29 นาที ซึ่งพฤติกรรมในคลิป มีการพยายามช่วย และจะให้โอนเงินเพื่อไปออกรายการโหนกระแส แต่ในส่วนนี้ ตำรวจมองว่าน่าจะเป็นพยายามกรรโชกทรัพย์

โดยวันนี้จะมีการคุยรายละเอียดกับบอสพอล และเหล่าบอสชาย 11 คน ในเรื่องดังกล่าวให้เรียบร้อย รวมถึงพูดคุยเรื่องวันพรุ่งนี้ ที่ดีเอสไอจะมาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากที่มีกำหนดการสอบสวน แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นประเด็นไหน ส่วนตัวคาดว่าน่าจะเป็นพฤติการณ์ของคดีโดยละเอียด ที่ก่อนหน้านี้ ดีเอสไอได้แจ้งข้อกล่าวหา พ.ร.ก.แชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรง ไปก่อนหน้านี้

ส่วนประเด็นที่ “หนุ่ม กรรชัย” ฟ้องร้อง เจ๊พัช และฟิล์ม รัฐภูมิ มองว่าไม่เกี่ยวกันเนื่องจากเป็นคนละคดีที่ หนุ่ม กรรชัย ไปดำเนินคดีในฐานความผิดหมิ่นประมาท ซึ่งพยานในคดีนี้สามารถใช้พยานชุดเดียวกันได้ รวมทั้งในคดีที่รัฐมนตรีน้ำที่ได้ไปยื่นฟ้องดำเนินคดี เจ๊พัช นั้นไม่เกี่ยวกัน เนื่องจากเป็นคนละช่วงเวลา แต่ฝั่งดิไอคอน ก็ต้องไปเป็นพยานให้กับรัฐมนตรีน้ำที่เป็นผู้กล่าวหาเช่นกัน

...

โดยวันเสาร์ที่ผ่านมา ตนเองได้เดินทางไปยื่นประกันตัว บอสวิน โดยแนบพยานหลักฐานเอกสารใบรับรองแพทย์เกี่ยวกับอาการป่วยโรคมะเร็งระยะที่ 3 แต่ศาลยกคำร้องเหมือนกับเคสของ 3 บอสดารา เพราะกลัวจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากมีมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งหลังจากนี้จะไม่มีการยื่นประกันตัวแล้ว เพราะขนาด บอสวิน เป็นโรคมะเร็งยังไม่ได้รับการพิจารณา ดังนั้นจึงจะไปหารือกับทีมทนายเพื่อขอยื่นประกันตัวในช่วงเวลาการฝากขังผัดที่ 6 หรือ 7

ส่วนเหล่าบอสทั้ง 18 คน หลังจากทราบว่าบอสวินไม่ได้รับการประกันตัว ก็ไม่มีท่าทีขวัญเสีย เพราะแต่ละคนเริ่มปรับตัวได้แล้ว แค่อยากให้เพื่อนที่ป่วยหนักออกไปก่อน พร้อมกับยืนยันว่า ในที่สุดหากไม่ได้รับการประกันตัวบอสวิน ก็จะใช้แนวทางต่อสู้ตาม พ.ร.บ.ใหม่ ของการคุมขังนักโทษด้วยการย้ายไปคุมขังที่โรงพยาบาลด้านนอก

ส่วนกรณีที่มีกลุ่มตัวแทนจำหน่ายดิไอคอนถูกอายัดบัญชีเป็นจำนวนมากและได้รับความเดือดร้อน เกี่ยวกับเรื่องสถานะทางการเงินภายในครอบครัว ซึ่งมองว่าการกระทำดังกล่าวสร้างภาระให้กับผู้ที่ถูกอายัดในเรื่องของการดูแลครอบครัว โดยคาดว่าจำนวนน่าจะมีมากกว่า 100 คน ที่ได้เดินทางไปยื่นหนังสือที่กองปราบฯเมื่อวานนี้

สำหรับกรณีที่เจ๊พัช ที่ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ ทั้ง 18 บอสทราบข่าวแล้วโดยไม่มีท่าทีอะไร เพียงแต่ว่ารับทราบข้อมูลแล้ว แต่เชื่อว่าทางกรมราชทัณฑ์ก็จะดำเนินการแยกเจ๊พัชไปอยู่คนละแดนกับบอสต่างๆ แต่เวลาทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น อาบน้ำ กินข้าว ก็อาจจะต้องเจอกัน แต่เหล่าบอสไม่ได้อยากเจอ ซึ่งสาเหตุที่ 18 บอสถูกดำเนินคดี คาดว่า เจ๊พัช เป็นต้นเหตุทำให้ดิไอคอนแตก

สำหรับพฤติกรรมของ เจ๊พัช จะเข้าข่ายความผิด พยายามกรรโชกทรัพย์ ซึ่งมีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ซึ่งอาจจะไม่ต้องออกหมายจับ แต่ใช้เป็นหมายเรียกแทน ซึ่งกรณีดังกล่าวขึ้นอยู่กับดุลยพินิจในการพิจารณาของตำรวจ ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไม่