ระยอง สาวใหญ่ถูกฆ่าตัดนิ้ว ที่แท้เป็นแม่ยายอัยการ ที่หายตัวไปขณะกลับจากไปทอดกฐิน ที่สำนักสงฆ์พื้นที่ อ.สัตหีบ ชลบุรี พร้อมสร้อยคอทองคำ และแหวนเพชร คาดถูกลวงมาฆ่าชิงทรัพย์ ทิ้งศพอำพรางข้ามจังหวัด ล่าสุดชุดสืบสวนรู้เบาะแสคนร้าย

จากกรณีเมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 15 พ.ย.67 พบศพผู้หญิงอายุประมาณ 50 ปี อวบอ้วนผมสั้น สูงประมาณ 155 ซม. สวมเสื้อลายดอกสีฟ้าเข้มกางเกงขายาวสีครีมนอน เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าอยู่ริมถนนลูกรังภายในสวนปาล์ม ม.3 ต.ป่ายุบ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ตรวจสอบสภาพศพ พบบาดแผลที่หน้าถูกของแข็งทุบจนแตกยุบ ท้ายทอยมีบาดแผลถูกฟัน นอกจากนี้นิ้วนางทั้งสองข้างถูกตัดขาดหายไป ใกล้กันพบรองเท้าสีน้ำตาล 1 คู่ ลิปสติก แว่นตา ที่คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยไม่พบหลักฐานว่าเป็นใครมาจากไหน คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ก่อนจะนำศพส่งชันสูตร ชาวบ้านเห็นรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ คาดเป็นรถคนร้าย ตร.เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง เพื่อคลี่คลายคดี ตามที่เสนอไปแล้ว

เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 16 พ.ย. ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ ผกามาศ ร้อยเวร สภ.วังจันทร์ ระยอง ได้เปิดเผยว่า ทราบชื่อผู้เสียชีวิตแล้ว คือ นางวรรณา คือห์เนอร์ อายุ 65 ปี โดยบุตรสาวคือ น.ส.วรรณรัตน์ แสงแก้ว อายุ 35 ปี ได้เข้าแจ้งความว่ามารดาได้หายตัวไป โดยแจ้งความที่ สภ.สัตหีบ ชลบุรี เมื่อเวลา 11.21 น.วันที่ 16 พ.ย.67

ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ ได้กล่าวว่า หลังจากที่มีการเสนอข่าวเกี่ยวกับพบศพผู้เสียชีวิตถูกฆาตกรรมตัดนิ้วนางทั้งสองข้าง ปรากฏว่าต่อมา น.ส.วรรณรัตน์ ได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต จึงมีการส่งภาพผู้เสียชีวิตให้ตรวจสอบ ปรากฏว่า น.ส.วรรณรัตน์ ก็ถึงร่ำไห้ เพราะเป็นมารดาที่หายตัวไป โดยก่อนที่มารดาจะหายตัวไป ขณะกลับจากไปทอดกฐินที่สำนักสงฆ์ ซอยเย็นฤดี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยกลับมาที่บ้านเพื่อนที่อยู่ใกล้สำนักสงฆ์ หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย สอบถามเพื่อนก็ไม่มีใครพบเจอ ตามหาก็ไม่พบ จนกระทั่งได้ไปแจ้งความไว้ หลังแจ้งความเห็นข่าว จึงติดต่อสอบถาม ก็พบว่าเป็นมารดาตัวเอง

...

ก่อนที่ผู้เสียชีวิตหายตัวไป ได้ใส่สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท สร้อยข้อมือหนัก 3 บาท แหวนเพชร 2 วง และเงินในกระเป๋าอีกจำนวนหนึ่ง คาดว่าคงจะถูกคนร้ายเอาไปทั้งหมด

สำหรับ น.ส.วรรณรัตน์ รับราชการสำนักอัยการแห่งหนึ่ง โดยมีสามีเป็นอัยการ กำลังเดินทางมาที่ สภ.วังจันทร์ เพื่อมาดูศพมารดา พร้อมทั้งกล่าวถึงการกระทำอันโหดเหี้ยมของคนร้าย ที่ถึงกับตัดนิ้ว และทำกันถึงตาย ต้องการให้จับคนร้ายมาลงโทษให้ได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้าย คาดลวงมาจาก อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แล้วพาข้ามจังหวัดมาทิ้งศพในสวนปาล์ม

ต่อมา เมื่อเวลา 14.00 น. น.ส.วรรณรัตน์ แสงแก้ว อายุ 35 ปี บุตรสาวของ นางวรรณา คือห์เนอร์ อายุ 65 ปี ผู้เสียชีวิตถูกตัดนิ้ว พร้อมด้วยนายสยาม มาลาเวช อายุ 42 ปี หลานชายผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่ สภ.วังจันทร์ ระยอง เพื่อให้ปากคำ พร้อมจะเดินทางไปยืนยันชี้ศพที่โรงพยาบาลวังจันทร์

น.ส.วรรณรัตน์ ได้กล่าวทั้งน้ำตา ว่า โหดร้ายเกินไป แม่เพิ่งไปทำบุญมา ทำไมถึงทำได้เพียงนี้

ด้านนายสยาม หลานชายผู้เสียชีวิต ได้เปิดเผยว่า ตอนเช้าแฟนผู้เสียชีวิตได้ไปส่งที่สำนักสงฆ์ ซอยเย็นฤดี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แล้วกลับมากับเพื่อนสองสามีภรรยาที่บ้านอยู่ใกล้กัน ลงรถยังไม่ทันเข้าบ้านได้มีโทรศัพท์โทรมาหาผู้ตาย แล้วก็มีคนมารับไปโดยไม่ทราบว่าเป็นใครมารับไป แล้วก็ติดต่อไม่ได้ ทางญาติทางลูกเคยเตือนไม่ให้ใส่ทองเพราะอันตราย แต่ก็ไม่ฟัง เสียใจมากกับการกระทำอันโหดร้าย ขอให้ตำรวจจับคนร้ายมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว

ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น.วันเดียวกัน น.ส.วรรณรัตน์ บุตรสาว และสามีชาวต่างชาติ อายุ 80 ปี ของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางไปดูศพภรรยา ร่ำไห้ด้วยความเสียใจ ต่อการจากไปโดยไม่ได้จากลา

ด้าน น.ส.วรรณรัตน์ ได้กล่าวว่า เสียใจมากต่อการจากไปของแม่โดยไม่ได้สั่งลา โดยปกติแล้วแม่จะชอบสวมใส่เครื่องประดับ แต่จะใส่เฉพาะงานที่ปลอดภัย ส่วนเวลากลางคืนหรือไปในที่เปลี่ยวก็จะไม่สวมใส่ไป ส่วนเพื่อนของแม่ทางตนเองก็จะทราบเฉพาะเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด ตนเองจะอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ จึงไม่ค่อยรู้จักเพื่อนแม่ทุกคน เวลาไปทำบุญแม่ก็จะบอกเพียงว่าไปทำบุญ ส่วนการโทรศัพท์มาหาแม่ก่อนหายตัวไปคงจะเป็นคนที่รู้จักกันจึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า ขณะนี้พอทราบเบาะแสบ้างแล้ว ได้ให้ชุดสืบสวนภาค 2 และชุดสืบสวน ภ.จว.ระยอง สืบสวน สภ.วังจันทร์ เร่งแกะรอยหารายละเอียดก่อนจะถูกพาตัวออกจากบ้านหลังกลับจากทำบุญ มีสายโทรศัพท์เข้ามาและมีรถเข้ามารับออกไป น่าจะเป็นคนรู้กัน หรือคนคุ้นเคย โทรศัพท์ก็หายไปด้วย คนร้ายน่าจะเอาไปด้วย

...

ด้านเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้รู้เบาะแสคนร้ายแล้ว โดยพบว่ามีผู้หญิงไปกับผู้เสียชีวิตก่อนจะหายตัวไป กำลังติดตามตัว เชื่อว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มคนร้ายที่ร่วมลงมือฆาตกรรมในครั้งนี้