ตร.ไซเบอร์ ตามรวบแก๊งคอลฯ หลอกเงินลูกรองหัวหน้าพรรคดังเพิ่ม อ้างรับจ้างจากชาวจีนเปิดบัญชีม้า ข้ามไปโอนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน หมดความหมายถูกเฉดหัวส่ง

วันที่ 15 พ.ย. 67 พล.ต.ต.จิรวัฒน์ พยุงธรรม รรท.ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 บก.สอท.5 นำหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าจับกุมตัวนายสุเทพ หรือนกยูง จูม่วง อายุ 55 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี ในความผิดฐาน “ร่วมกัน ฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคม 2567 น.ส.ปภาวี เดชเดโช อายุ 19 ปี ลูกสาวของนายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้เสียหาย เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ ว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงิน โดยมีโทรศัพท์โทรมาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม โทรมาสอบถามว่าได้เปิดบัญชีของธนาคารกรุงไทยให้ผู้ต้องหาที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม จับกุมตัวได้ใช่หรือไม่ ซึ่งทางผู้เสียหายตอบปฏิเสธไปว่าไม่ได้เปิดบัญชีตามที่โทรมาสอบถามแต่อย่างใด โดยบุคคลที่อ้างตัวเป็นตำรวจยศ ร.ต.ท. แจ้งว่าเพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ ให้ติดต่อทางบัญชีไลน์ ชื่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้ใช้บัญชีไลน์ แจ้งว่าให้ส่งภาพถ่ายบัตรประชาชนทางข้อความไลน์ แล้วสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเงินในบัญชีแล้วบอกว่า เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ โดยให้โอนเงินมาตรวจสอบ จึงโอนเงินในครั้งแรก จำนวน 56,000 บาท

...

จากนั้นก็มีการเปิดวิดีโอคอลพูดคุย พบว่าแต่งกายในชุดเครื่องแบบตำรวจ จึงได้โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์อีก 100,000 บาท หลังจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินไปแล้ว 3 ครั้ง ก็ให้ผู้เสียหายเดินทางกลับบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อไปหาเงินไม่เช่นนั้นจะทำให้พ่อ รวมถึงญาติพี่น้องเสื่อมเสียชื่อเสียง และจะแบล็กเมล์รูปที่วิดีโอคอลกันไว้ สร้างความกลัวกับผู้เสียหาย จึงได้เดินทางกลับไปที่บ้าน เพื่อไปเอาเงินที่ยายแล้วโอนเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีก 393,000 บาท รวมเป็นเงินที่โอนไปทั้งหมด 650,000 บาท โดยทางผู้เสียหายเริ่มรู้สึกผิดสังเกต และทราบว่าตนเองถูกหลอกแล้วจึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีกับคนร้าย

ต่อมาทางตำรวจชุดสืบสวน บก.สอท.5 ทำการสืบสวนจนทราบว่ามีผู้เกี่ยวข้องในขบวนการที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า รองรับการโอนเงินให้กับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับ รวม 3 ราย ประกอบด้วย นางสุภาพ ชูสิทธิ์ อายุ 51 ปี และน.ส.สุนิษา ชูสิทธิ์ อายุ 26 ปี สองแม่ลูก ชาว จ.ชลบุรี ซึ่งจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้ และนายสุเทพ จูม่วง อายุ 55 ปี โดยติดตามจับกุมตัวนายสุเทพผู้ต้องหารายสุดท้ายได้ในพื้นที่หมู่บ้านหนองแจง หมู่ 7 ต.วังศาลา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

จากการสอบปากคำนายสุเทพ ให้การยอมรับว่า ได้รับจ้างจากนายหน้าชาวจีนในการเปิดบัญชีธนาคาร รวม 6 บัญชี ในราคา 1,500 บาท โดยเดินทางข้ามพรมแดนด้าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในการสแกนใบหน้า เพื่อถอนเงินที่เหยื่อโอนเข้าบัญชีธนาคารในฝั่งประเทศกัมพูชา ก่อนบัญชีถูกทยอยปิดหมดทั้ง 6 บัญชี จึงไร้ความหมาย ทางหัวหน้าชาวจีนไล่กลับบ้านฝั่งไทย ทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป