***แฟ้มภาพ***

ประธานศาลปกครองสูงสุด เตรียมให้นำคดี "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ผบ.ตร., คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) และ นายกรัฐมนตรี ปมสั่งให้ออกจากราชการ เข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดลงมติชี้ขาด พรุ่งนี้

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีหมายเลขดำที่ ฟ.117/2567 พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ยื่นฟ้อง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.), นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-3 ต่อศาลปกครองสูงสุด ที่ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานว่าคดีนี้ประธานศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเตรียมให้นำคดีเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด พรุ่งนี้ (13 พ.ย.) โดยหลักเกณฑ์ที่จะนำเข้าที่ประชุมคดีใหญ่จะเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจมีผลกระทบเป็นวงกว้าง และมีประเด็นข้อกฎหมายอันสำคัญ

สำหรับองค์คณะที่พิจารณาคดีนี้ในศาลปกครองสูงสุด จะประกอบด้วยตุลาการจากศาลปกครองสูงสุด จำนวน 5 คน เป็นองค์คณะ เมื่อประธานศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้นำคดีเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด องค์คณะทั้ง 5 จะมีหน้าที่สรุปข้อเท็จจริงเสนอความเห็นต่อที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด เพื่ออภิปรายพิจารณาและมีมติเป็นคำพิพากษาคำสั่งต่อไป สำหรับที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดในปัจจุบันมีตุลาการศาลปกครองสูงสุดประมาณ 20 กว่าคน

สำหรับคดีนี้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ฟ้องว่า เดิมผู้ฟ้องคดีดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 178/2567 ลงวันที่ 18 เม.ย. 2567 ให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน กรณีถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน กรณีมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ชื่อ BNKMASTER จนถูกดำเนินคดีอาญาและถูกศาลอาญาออกหมายจับ ในความผิดฐานสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการทำผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน

...

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ เห็นว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงได้ยื่นอุทธรณ์ต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ต่อมาผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ได้มีหนังสือ ที่ ตช 0083(อธ)/933 วันที่ 5 ส.ค. 2567 เรื่อง แจ้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์ เรื่องดำที่ อธ. 100/2567 เรื่องแดงที่ อธ. 33/2567 โดยมีคำวินิจฉัยยกอุทธรณ์และยกคำขอวิธีการชั่วคราวฯ