“ผกก.สน.บางซื่อ” เครียดหนัก แจงชัดปมเงิน 39 ล้าน รับรู้จัก “ทนายตั้ม” มา 5 ปีมองเป็นคนดี ยันไม่มีเส้นเงินเอี่ยว แม้เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับ "บิ๊กโจ๊ก" แต่ต่างคนต่างทำหน้าที่ พร้อมยอมรับก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสได้คุยกับบิ๊กโจ๊ก บิ๊กโจ๊กบอกว่าได้เลิกคบกับทนายตั้มไปนานแล้ว เพราะรู้ว่าเป็นคนยังไง

กรณีที่เมื่อวันที่ 23 พ.ค.66 ที่ผ่านมา มีผู้เสียหาย คือ นางสาวสารินี อายุ 30 ปี ภรรยาของนายนุ คนสนิทของทนายตั้ม ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางซื่อ ว่าถูกดูดเงินจากบัญชีที่ใช้โอนบิทคอยน์ เพราะโอนเงินไปให้สแกมเมอร์ ที่อ้างเป็นดาราจีนตามที่ทนายตั้มอ้างว่า นางจตุพรหรือเจ๊อ้อยวานให้โอนเงินเป็นสกุลบิทคอยน์ ทั้งนี้ในรายละเอียดบันทึกประจำวันระบุว่า นางสาวสารินีมีกระเป๋าเงินออนไลน์ชื่อบัญชีหนึ่งใน Gmail และโอนเงินสกุลบิทคอยน์ให้กับบุคคลไม่ทราบชื่อสกุล โดยใช้วิธีสแกนคิวอาร์โค้ดบัญชีหนึ่ง จำนวน 7 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 2,276,400 บาท ต่อมาถูกระงับเข้าไม่ได้ แต่มีข่าวว่า ทนายตั้มแจ้งเจ๊อ้อยว่าถูกดูดเงินจากกระเป๋าดิจิทัลไป 39 ล้าน จนเป็นข่าว ต่อมาตำรวจพบข้อพิรุธการแจ้งความที่ สน.บางซื่อ ในเรื่องนี้ของผู้เสียหาย และรวมถึงข้อสงสัยในการรับแจ้งความของ พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ เป็นเหตุให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ เปิดเผยว่า ยืนยันว่ารู้จักกับทนายตั้ม 5 ปีแล้ว ตอนนั้นภาพพจน์ของทนายตั้มเป็นคนดี เพราะบอกว่าเป็นมูลนิธิทนายประชาชน โดยทนายตั้มมักจะไหว้วานให้ตัวเองลงบันทึกประจำวันมาแล้วหลายเรื่อง ส่วนกรณีเรื่องที่เกิดขึ้น ทนายตั้มโทรมาบอกว่าจะมีคนเข้ามาลงบันทึกประจำวัน ยืนยันว่าตนเองก็ไม่รู้ถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องของคดี จนกระทั่งมาตกเป็นข่าวถึงมารู้ว่าใบบันทึกประจำวันที่ทนายตั้มให้พรรคพวกมาลงไว้ถูกนำไปหลอกเจ๊อ้อย

...

ยอมรับว่าตอนนี้รู้สึกเครียดและกังวล หลังถูกสังคมโจมตีว่าตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับทนายตั้ม ยืนยันว่าเรื่องนี้สามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินของตนเองได้เลย ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง

นอกจากนี้ยังถูกสังคมโยงไปถึงว่าเพื่อนร่วมรุ่นกับ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร. หรือบิ๊กโจ๊ก ยอมรับว่าเป็นเพื่อนกับบิ๊กโจ๊กและสนิทกันมาก แต่ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวเองก็มีโอกาสได้คุยกับบิ๊กโจ๊ก โดยบิ๊กโจ๊กบอกว่าได้เลิกคบกับทนายตั้มไปนานแล้ว เพราะรู้ว่าเป็นคนยังไง

พ.ต.อ.ภูวดล ยืนยันว่า ที่ผ่านมาตัวเองทำมาหากินสุจริต รับราชการเป็นตำรวจ และเปิดร้านขายราดหน้ามานานกว่า 10 ปีแล้ว และที่ผ่านมาก็เคยนำราดหน้าจากร้านตัวเองไปเลี้ยงลูกน้องในที่ทำงานที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ.