ศาลแขวงพระนครเหนือ เลื่อนนัดพิจารณาคดี มือตบ “ทนายธรรมราช” ไป 25 พ.ย.นี้ หลัง “ธรรมราช” เรียกค่าเสียหายหลักแสน โดยจำเลยรับสารภาพคดีอาญา แต่ปฏิเสธค่าเสียหาย พร้อมพิจารณาอนุญาตให้จำเลยได้ประกันตัว หลังผู้เสียหายยื่นคัดค้าน ด้าน “ทนายธรรมราช” ยอมรับเป็นเรื่องจริง สั่งซื้ออาวุธปืนจากสวัสดิการของสภาทนายความ เพื่อใช้ป้องกันตัวเอง

กรณีนายจารุเวศ พงษ์ฉวี อายุ 28 ปี ใช้มือตบปากนายธรรมราช สาระปัญญา หรือ ทนายธรรมราช จนล้มไปกับพื้น ขณะกำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ในการดำเนินคดี “อาจารย์เบียร์คนตื่นธรรม” ข้อหาเหยียดหยามศาสนา เหตุเกิดบริเวณหน้าศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน รับตัวนายจารุเวศไปดำเนินคดี ก่อนนายจารุเวศยื่นหลักทรัพย์เงินสด 45,000 บาท ขอประกันตัวไป

ความคืบหน้าที่ ศาลแขวงพระนครเหนือ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ได้นำตัวนายจารุเวศ พงษ์ฉวี อายุ 28 ปี หรือเต้ย ผู้ต้องหาในคดีทำร้ายร่างกายนายธรรมราช สาระปัญญา หรือ ทนายธรรมราช ส่งพนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวง 1 เพื่อยื่นฟ้องศาลแขวงพระนครเหนือ

โดยนายจารุเวศกล่าวว่า ตนก่อเหตุไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เนื่องจากเห็นทนายโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับ “อิสลามขี่หมู” แต่เมื่อฟังแล้วพบว่าพูดไม่ตรงประเด็น จึงบันดาลโทสะก่อเหตุขึ้น ยืนยันว่าไม่ได้มีการเตรียมการมาก่อนและไม่มีใครว่าจ้าง สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งห้ามไม่ให้มีการแถลงข่าวในพื้นที่ดังกล่าว ตนขอโทษสื่อมวลชนและสถานที่ราชการที่ทำให้ต้องได้รับความเดือดร้อน

ด้านนายธรรมราช ได้เดินทางมายังศาลแขวงพระนครเหนือ เปิดเผยว่า มาในฐานะโจทก์ร่วม ตนสันนิษฐานเหตุที่เกิดขึ้นมีผู้อยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน เพราะตนและผู้ต้องหาไม่เคยรู้จักกันมาก่อนส่วนที่ต้องหาอ้างว่า ตนไปดูหมิ่นศาสนาอิสลาม ไม่เป็นความจริง อาจจะฟังรายละเอียดไม่ครบถ้วนจึงเกิดความเข้าใจผิด โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนสั่งซื้ออาวุธปืนจากสวัสดิการของสภาทนายความจริง เพื่อใช้ป้องกันตัวเอง ส่วนการดำเนินคดี ยืนยันว่าจะไม่มีการยอมความและจะยื่นฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายหลักแสน เนื่องจากได้รับบาดเจ็บบริเวณอวัยวะสำคัญ

...

ต่อมาเวลา 11.32 น. วันเดียวกันพนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวง 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจารุเวศ พงษ์ฉวี อายุ 28 ปี เป็นจำเลยต่อศาลแขวงพระนครเหนือ ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ขณะที่นายธรรมราชยื่นคำร้องขอเรียกค่าสินไหมทดแทนจากจำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44/1

ศาลอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังอีกครั้งหนึ่ง หลังจากจำเลยแต่งทนายความเข้ามาแล้ว และอธิบายคำร้องค่าเสียหายที่ผู้เสียหายได้ยื่นเข้ามาให้จำเลยฟัง จำเลยขอให้การรับสารภาพในส่วนคดีอาญา ปรากฏตามคำให้การจำเลยฉบับลงวันที่วันนี้ รับเป็นคำให้การของจำเลย ส่วนค่าสินไหมทดแทนนั้น จำเลยประสงค์จะยื่นคำให้การต่อสู้คดี จึงเห็นควรให้จำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีภายใน 15 วัน นับแต่วันนี้ หากไม่ยื่นภายในกำหนดถือว่าไม่ติดใจ

ส่วนคดีอาญาพนักงานอัยการโจทก์ และจำเลยแถลงไม่ติดใจสืบพยาน แต่เนื่องจากยังมีเรื่องค่าสินไหมทดแทนในส่วนแพ่ง และจำเลยยังไม่ได้ยื่นคำให้การต่อศาล และจำเลยเพิ่งได้รับคำร้องเรียก ค่าสินไหมทดแทนในวันนี้ จึงเห็นควรให้โอกาสจำเลยยื่นคำให้การต่อศาลภายใน 15 วัน จึงให้เลื่อนไปนัดพร้อมเพื่อสอบคู่ความในส่วนของพยานหลักฐานที่จะนำมาสืบในเรื่องค่าเสียหายอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 25 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น. ส่วนความผิดทางอาญานั้น ไว้รอมีคำพิพากษาพร้อมกัน และเห็นควรให้หมายขังจำเลยไว้ในระหว่างพิจารณา

ภายหลังจำเลยได้ยื่นคำร้องขอประกันตัว ผู้เสียหายยื่นคัดค้านการประกันตัว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้จำเลยได้ประกันตัวไประหว่างพิจารณา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนนายพี ผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 ราย เบื้องต้นปฏิเสธข้อกล่าวหา จึงมีความเห็นทางคดีส่งอัยการในช่วงปลายเดือนนี้