โจรใต้เหิมก่อเหตุคาร์บอมบ์ ข้าง สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี แรงระเบิดทำให้ตัวอาคารสั่นสะเทือน กระจกแตกกระจาย ซากรถกระเด็นขึ้นไปบนหลังคาบ้าน ก่อนเกิดเหตุคนร้ายเข้าปล้นรถกระบะของ อบต. จับเจ้าหน้าที่ 4 คนมัดมือมัดเท้าขังอยู่ในห้อง ด้านหน่วยงานความมั่นคงเชื่อเป็นฝีมือ “อับดุลเลาะ มูดอ” มือระเบิดที่เคยก่อเหตุมาแล้วในพื้นที่ เคยชิงรถกระบะของ อบต.มาแล้ว 1 คัน ส่วนที่ จ.นราธิวาส กำลัง 3 ฝ่ายคุมเข้มสกัดป่วนคดีตากใบ ขณะที่รัฐบาลเร่งประชุมหาแนวทางสันติสามจังหวัดชายแดนใต้
เหตุโจรใต้เหิมชิงรถกระบะก่อเหตุคาร์บอมบ์ข้างโรงพัก เปิดเผยเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 24 ต.ค. ร.ต.ท.วีรพงศ์ ทองงาม รอง สว. (สอบสวน) สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ในโรงพักเกิดเหตุระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ตัวอาคารของโรงพักทั้ง 4 ชั้นสั่นสะเทือนและมีเศษกระจกแตกตกเกลื่อนกระจายตกลงพื้น เมื่อไปตรวจสอบพบว่าคนร้ายก่อเหตุคาร์บอมบ์ถนนข้างโรงพักติดกับที่ว่าการอำเภอปะนาเระ หมู่ 1 ต.ปะนาเระ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในโรงพักรีบหนีออกจากตัวอาคาร เพลิงลุกไหม้ซากรถกระบะที่ใช้เป็นรถคาร์บอมบ์ เจ้าหน้าที่ปิดกั้นตัวอาคารและปิดถนนในรัศมี 200 เมตร เพื่อความปลอดภัย
ต่อมา พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ปานบุญทอง ผกก.สภ.ปะนาเระ มาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นายมนชัย หนูสาย นายอำเภอปะนาเระ ขณะเกิดเหตุอยู่ภายในบ้านพักฝั่งตรงข้ามที่ว่าการอำเภอห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 50 เมตร พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ระวังเหตุซ้ำซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้น ไฟลุกไหม้รถกระบะคาร์บอมบ์ประมาณ 30 นาทีจึงสงบ ตรวจสอบเบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงตำรวจสายตรวจ และ อส.เฝ้าเวรที่ป้อมมีอาการหูอื้อเท่านั้น
ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบซากรถกระบะมิตซูบิชิ แบบ 4 ประตู สีเทา ทะเบียน กค 4052 ปัตตานี เป็นรถของ อบต.บ้านน้ำบ่อ อ.ปะนาเระ สภาพเหลือแต่ซาก แรงระเบิดทำให้ชิ้นส่วนรถกระจัดกระจายไปทั่ว บางชิ้นกระเด็นตกลงหลังคาบ้านพักของนายมนชัย หนูสาย นายอำเภอปะนาเระ นอกจากนี้ แรงระเบิดยังทำให้ผนังอาคารไม้ที่ว่าการอำเภอปะนาเระหลังเก่าพังเสียหาย กระจกอาคารอำเภอหลังใหม่แตกทุกบาน กำแพงพัง เช่นเดียวกับกระจกอาคารโรงพักทั้ง 4 ชั้นแตกเสียหายหมด รถยนต์และรถ จยย.หลายคันเสียหายไปด้วย
...
จากนั้น พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ปานบุญทอง ผกก.สภ.ปะนาเระ สั่งการให้ชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบ ที่ทำการ อบต.บ้านน้ำบ่อ เมื่อไปถึงพบสิ่งผิดปกติ เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ดูแลด้านนอก อบต.ตรวจสอบ ภายในอาคารพบว่า เจ้าหน้าที่ อบต.และ รปภ.รวม 4 คน ถูกมัดมือมัดเท้าขังไว้ในห้องรีบเข้าไปช่วยเหลือก่อนนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.ปะนาเระ ทราบชื่อนายมูฮัมหมัดซอฟี มิงซู นายมาหามะ สาแม นายอาหะมะ อาแว และนายมะฮูเซ็ง วานิ ทั้ง 4 คนไม่ได้รับบาดเจ็บ
สอบสวนทราบว่า ช่วงเวลา 23.00 น. วันที่ 23 ต.ค. ก่อนเกิดเหตุคาร์บอมบ์ประมาณ 1 ชั่วโมง ขณะที่เจ้าหน้าที่ อบต.บ้านน้ำบ่อ 4 คนเข้าเวรดูแลความปลอดภัย ปรากฏว่า มีคนร้ายประมาณ 10 คน แต่งกายชุดดำปกปิดใบหน้าพร้อมอาวุธปืนสงครามบุกเข้ามาพร้อมข่มขู่ไม่ให้เสียงดัง ก่อนจะจับทั้ง 4 คนมัดมือมัดเท้าแล้วบังคับให้นำกุญแจรถกระบะคันดังกล่าวให้ จากนั้นคนร้ายรีบขับออกไปจากอบต. ขังทั้ง 4 คนไว้ในอาคาร
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบพฤติการณ์ของคนร้ายขับรถไปตามเส้นทางด้านหลังอำเภอ มีคนร้าย 1 คน ขี่รถ จยย.ตามหลัง และเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุคนร้ายจอดรถกระบะคาร์บอมบ์ที่ถนนคั้นกลางระหว่างที่ทำการอำเภอปะนาเระและ สภ.ปะนาเระ คนร้ายออกจากรถกระบะรีบขึ้นนั่งซ้อนท้ายรถ จยย.ก่อนจะขับหลบหนีกลับไปเส้นทางเดิม จากนั้นประมาณ 5 นาทีกดชนวนระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 20 กก.เสียงดังสนั่น
แนวทางการสืบสวนเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงระบุว่า เหตุครั้งนี้เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มนายอับดุลเลาะ มูดอ เป็นมือระเบิดที่เคยก่อเหตุมาแล้วในพื้นที่ เนื่องจากพบว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2556 คนร้าย เคยบุกเข้าไปปล้นรถกระบะของ อบต.บ้านน้ำบ่อมาแล้ว แต่ยังไม่พบว่ารถคันดังกล่าวนำไปก่อเหตุที่ใด แล้วมาก่อเหตุขโมยรถซ้ำอีก 1 คัน เชื่อว่าเหตุ คาร์บอมบ์ครั้งนี้น่าจะเชื่อมโยงกับคดีตากใบที่จะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.67 คนร้ายมีความพยายามตอบโต้เพื่อสร้างสถานการณ์
พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและการสิ้นสุดคดีความครบ 20 ปี เหตุการณ์ที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ในวันที่ 25 ต.ค.นี้ เวลาเที่ยงคืนเป็นเวลาสิ้นสุดของคดีความ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ หน่วยงานความมั่นคงต่างๆ เฝ้าติดตามในเรื่องของสถานการณ์ด้านการข่าวในพื้นที่ ยกระดับในการควบคุม พื้นที่มาตรการสูงสุด กอ.รมน.ภาค 4 ขอวิงวอนไปยังประชาชนทำความเข้าใจกับสถานการณ์ รวมถึงเหตุการณ์ตากใบที่เกิดขึ้นในปี 2547 ว่า เป็นการกระทำของกลุ่มขบวนการที่วางแผนมาเป็นอย่างดีในการปลุกปั่นเพื่อให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เจ้าหน้าที่มีความผิดพลาดในเรื่องของการควบคุมตัว ขณะนี้ใกล้ครบรอบ 20 ปีเหตุการณ์ตากใบ มีผู้ที่พยายามปลุกปั่นให้ประชาชนเข้ามารวมตัวกัน หรือการชักชวนเข้าร่วมชุมนุมตามสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่ง กอ.รมน.ภาค 4 สน.ขอให้ใช้วิจารณญาณ อย่าตกเป็นเหยื่อของผู้ที่ไม่หวังดี
สำหรับบรรยากาศในพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยเฉพาะ รอยต่อเข้าเขต อ.เมืองนราธิวาส กองกำลัง 3 ฝ่ายสนธิกำลังดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ตั้งแต่จุดตรวจต่างๆรอบอำเภอเมืองเน้นตรวจสอบรถยนต์และ รถ จยย.อย่างละเอียดทุกคัน ตรวจเอกสารการครอบครองรถเพื่อป้องกันรถที่ถูกโจรกรรมเพื่อใช้ก่อเหตุ ขณะเดียวกันนำกำลังลาดตระเวนเดินเท้าในเขตเทศบาลเมือง ตลาดสดและร้านค้า เพื่อดูแลความปลอดภัยเฝ้าสังเกตสิ่งผิดปกติ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยทุกจุด เป็นการเฝ้าระวังการฉวยโอกาสเพื่อก่อเหตุป่วนช่วงใกล้ครบรอบเหตุการณ์สลายการชุมชนหน้า สภ.ตากใบ ประกอบกับอายุความผู้ที่ถูกออกหมายจับในเหตุการณ์ดังกล่าวจะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.นี้ อาจสร้างสถานการณ์เพื่อกดดันเจ้าหน้าที่
...
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 23 ต.ค. เจ้าหน้าที่รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยเป็นกล่องสี่เหลี่ยม มีผ้าเทปพันสายไฟสีดำและเทปสีน้ำตาลพันไว้โดยรอบวางอยู่ที่เสาไฟฟ้าริมถนนตากใบ-หัวคลอง หมู่ 6 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 24 ต.ค. เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.ภ.จ.นราธิวาส เข้าตรวจสอบเป็นกล่องเปล่าไม่มีระเบิด คาดคนร้ายนำมาวางป่วนเมือง
ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษา และเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพ เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กมธ.สันติภาพ จชต.) มีนายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธาน กมธ. เป็นประธานการประชุม เชิญนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กำกับดูแลหน่วยงานด้านความมั่นคง นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่ง ชาติ (สมช.) ผอ.รักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) เข้าชี้แจงเพื่อพิจารณาศึกษาและวิเคราะห์กรณีคดีตากใบ
ทั้งนี้ ก่อนการประชุมตัวแทนเครือข่าย 45 องค์กรยื่นหนังสือเปิดผนึก ดังนี้ 1.ให้นายกฯกำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมจำเลยทั้ง 7 คน ในคดีตากใบ และส่งตัวจำเลยขึ้นสู่ศาลจังหวัดนราธิวาส 2.ให้ รมว.มหาดไทยกำชับพนักงานปกครอง จับกุมจำเลยทั้ง 7 คนตามหมายศาลโดยเร่งด่วน และส่งตัวจำเลยขึ้นศาลนราธิวาส 3.ให้ ผบ.ตร.กำชับตำรวจทั่วประเทศจับกุมจำเลยทั้ง 7 คนส่งศาลนราธิวาสให้ทัน
วันที่ 25 ต.ค. 4.ขอให้ กมธ.ศึกษากรณีที่เกิดขึ้นและเสนอแนวทางสร้างสันติภาพ ไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา 5.หากรัฐล้มเหลวในการนำตัวจำเลยขึ้นสู่ศาลจะเป็นตราบาป แต่รัฐบาลยังสามารถทำต่อด้วยกลไกอื่น เช่น ให้ ครม.แต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อความจริง มีอำนาจหน้าที่คล้ายกับคณะกรรมการ Truth and Recon ciliation ของแอฟริกาใต้ เพราะสามารถเชิญจำเลยทั้ง 7 และผู้ที่เกี่ยวข้องที่เป็นอดีตข้าราชการมาให้ความจริงแก่คณะกรรมการ ว่ามีบทบาทอย่างไรในกรณีตากใบ หากยอมรับว่ากระทำความผิดสามารถ ขอโทษและชดเชยต่อผู้ถูกกระทำ หรือต่อญาติผู้ถูกกระทำได้ ส่วนที่จำเลยใดไม่ให้ความร่วมมือให้ ครม. งดเงินบำนาญ หรือถอดยศจำเลยนั้นได้ และขอให้ ครม.มีมติให้หน่วยราชการในพื้นที่ให้ความร่วมมือกับญาติของผู้เสียชีวิตในกรณีตากใบจัดพิธีรำลึกเหตุการณ์ ดังกล่าวเป็นประจำทุกปี
...
ด้านนายจาตุรนต์แจ้งต่อที่ประชุมว่า นายภูมิธรรม แจ้งว่าติดภารกิจด่วน มอบหมายให้ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 มาชี้แจงแทน ต่อมา พล.ท. ไพศาลให้สัมภาษณ์หลังการชี้แจงว่า ในที่ประชุมไม่ได้สงสัยคดีตากใบ แต่ถามถึงแนวทางการรับมือหากคดีหมดอายุความ ทั้งเรื่องการประท้วงหรือความรุนแรงในพื้นที่ เรียนให้ทราบว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เน้นย้ำว่าให้ดูแลในพื้นที่ไม่ให้เกิดเหตุ และขอให้อยู่ในกรอบกฎหมายที่สามารถ จะทำได้ กมธ.เป็นห่วงว่าอาจมีมือที่สามมาสวมรอย ชี้แจงว่าได้ขอความร่วมมือจากผู้นำท้องถิ่นและหน่วยงาน ความมั่นคง ควบคุมพื้นที่ไม่ให้เกิดเหตุ อาจยกระดับความปลอดภัยให้สูงขึ้น ขบวนการเหล่านี้มีการสร้างสถานการณ์หล่อเลี้ยงสถานการณ์กันไว้แล้ว ที่เหลือเป็นการขับเคลื่อนมวลชนและประชาชนในพื้นที่ ห่วงเรื่องมือที่สามที่จะมาก่อเหตุร่วมกับสถานการณ์นี้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีสถานการณ์อะไรที่น่าวิตกกังวล