ที่ปรึกษากฎหมายแฉเพิ่ม พฤติการณ์ "ล้มแชร์แครอท" มีการดำเนินคดีตรวจสอบมานานแล้ว โดยผู้เสียหายมีหลายจังหวัด ไม่ใช่เฉพาะพระสงฆ์
จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้มีการแฉขบวนการแชร์ลูกโซ่ "แชร์แครอท" พฤติการณ์คล้าย Forex 3D แอบอ้างชนชั้นสูง หลอกพระร่วมลงทุน ได้รับความเสียหายหลายราย ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 21 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายสุพจน์ ดำรงเลิศตระกูล อายุ 48 ปี ซึ่งรับปรึกษากฎหมาย ร้องทุกข์ ร้องเรียน ปัญหาทุจริต คอร์รัปชัน โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ถนนบ้านกอก ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้นำคลิปซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของโบรกเกอร์รายหนึ่ง ที่เป็นผู้หลอกพระสงฆ์ร่วมลงทุนเทรดตามที่มีการเปิดเผยเรื่องราวในโซเชียล
โดยคลิปดังกล่าวนั้น เป็นบรรยากาศขณะที่เจ้าของโบรกเกอร์ ได้บรรยายชักชวนลงทุนเทรด บอกว่ามีผลตอบแทนมหาศาล ถ้าลงทุนไม่ถอนทิ้งไว้ 10 ปี ก็จะมีเงินสูงถึง 300 ล้านบาท ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมอัดคลิปวิดีโอเอาไว้ และมอบให้กับตัวแทนผู้เสียหายนำไปเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความเอาผิด เนื่องจากไม่สามารถถอนเงินคืนได้ตั้งแต่ปี 2565 พร้อมกันนี้ ผู้เสียหายยังได้ส่งภาพขณะที่เจ้าของโบรกเกอร์ดังกล่าวเปิดอบรม และเปิดโครงการต่างๆ ที่มีพระสงฆ์เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่ปรากฏคลิปหลักฐานที่เป็นคำพูดชักชวนพระสงฆ์ลงทุนเทรดในแพลตฟอร์มโบรกเกอร์ดังกล่าว
นายสุพจน์ กล่าวว่า กรณีแชร์แครอทล้มนั้น ผู้เสียหายไม่ใช่เฉพาะพระสงฆ์ แต่มีผู้เสียหายจากหลายๆ จังหวัดที่มาปรึกษาทางกฎหมายกับตนเอง เป็นเรื่องของการเทรดค่าเงิน ซึ่งข้อมูลของเรามีความพร้อมตั้งนานแล้ว และได้ส่งข้อมูลแจ้งความกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ไปทั้งหมดแล้ว
...
กระทั่งมีการตรวจสอบพบว่า เป็นการหลอกลวงเทรดฟอเรกซ์ เหมือนการหลอกฟอเรกซ์อื่นๆ ที่มีการตรวจสอบพบดำเนินการเอาผิดมาก่อนหน้านี้ โดยผู้เสียหายหลายคนมาร้องเรียนให้ช่วยเรื่องทางกฎหมายกับตน เพราะมีสำนักงานด้านฝ่ายกฎหมายคอยช่วยเหลือประชาชนด้วย
จากการหาข้อมูลหลักๆ ทราบว่า ขอนแก่นนั้นเป็นแหล่งที่มาของโบรกเกอร์ดังกล่าว มีสำนักงานตั้งอยู่ในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ปัจจุบันทราบว่าขายให้กับเจ้าของคนใหม่ไปแล้ว โดยสร้างแพลตฟอร์มปลอม ว่ามีการเทรด Forex จริงในตลาดเทรด ในการเข้าลงทุน จะมีการสร้างเครือข่ายการระดมทุนให้คนเข้า Copy Trade, Trade เองในตลาด แต่เป็นแพลตฟอร์ม Forex ปลอม ไม่มีการเทรดจริง ใช้การระดมคนเข้าเทรดโดยมีโบรกเกอร์ที่แจ้งว่า สามารถรับการเทรดเงินสกุลดอลลาร์ได้
แต่ความเป็นจริงนั้นไม่ได้รับการรับรองให้เทรดได้ โดยแต่ละโบรกเกอร์จะเชื่อมกับต่างประเทศ และกฎหมายของประเทศไทยมีการแจ้งเตือนมาแล้ว จะไม่มีที่ไหนเทรดได้นอกจากกลุ่มธนาคาร กลุ่มตลาดหลักทรัพย์ หรือกลุ่มไฟแนนซ์ต่างๆ นอกนั้นไม่สามารถทำได้ ซึ่งแกนนำและวิทยากรบางคนที่รู้ว่ามีความไม่ชอบมาพากล ได้ถอนตัวออกมาและมาให้ข้อมูลกับเราพร้อมหลักฐานที่เป็นความจริง
ในช่วงแรกที่มีผู้เสียหายมาปรึกษา 3 คน มีการเข้าแจ้งความ จนทางเจ้าของโบรกเกอร์ได้โทรศัพท์ติดต่อมาหาขอรายชื่อคนที่ไปแจ้งความ เพื่อจะขอจ่ายเงินคืน และก็ได้เงินคืนทันทีทั้งหมด ทั้งพยาบาล ทั้งอาจารย์ รายละ 300,000-900,000 บาท แต่เป็นการจ่ายเงินคืนแบบโอนให้ผ่านบุคคล ไม่ใช่มาจากระบบการเทรด ซึ่งความเป็นจริงระบบนี้ จะต้องมีการจ่ายมาจากต่างประเทศ
หลังจากนั้นมีผู้เสียหายกว่า 100 ราย ที่ทราบว่าได้เงินคืน ก็พากันเข้ามาพบตนเอง ให้ช่วยประสานงานทางกฎหมายให้ แต่สุดท้ายแล้วก็ทำได้เพียงประสานงานต่อไปให้ทาง DSI สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กระทั่งมีข่าวแชร์แครอทที่ปรากฏในสื่อต่างๆ
แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่การเล่นแชร์ แต่เป็นการเทรดลงทุน ที่หลอกลวงขึ้นโดยเจ้าของโบรกเกอร์ที่เคยบวชเรียนมาก่อน จะมีการอบรมที่ มจร.หลายๆ จังหวัดในภาคอีสาน และมีการจัดกิจกรรมโครงการคล้ายกับอคาเดมี ที่มีพระสงฆ์มาอบรมหลายรูป และจะเชิญชวนให้อยากลงทุนเทรดให้ได้รับผลกำไร ทีมงานส่วนใหญ่จะเป็น ดร. และเรียนมาทางสายโรงเรียนวัด หรือทางมหาวิทยาลัยสงฆ์เป็นส่วนใหญ่
การที่ให้พระมาอบรม หรือมีโครงการปฏิบัติธรรม ส่วนใหญ่ข้อมูลที่ตนมีคือ แผนการในการรวมพระสงฆ์มารับข้อมูลจูงใจให้ร่วมลงทุนเทรด เพราะทุกๆ การจัดโครงการ หรือการอบรม มักจะได้เงินจากพระมาลงทุนตลอด และไม่ใช่เฉพาะพระ แต่มีบุคคลอื่นๆ ในกลุ่มเป้าหมายที่เป็นข้าราชการ ครูเกษียณระดับผู้อำนวยการ บางรายมีนามสกุลดังระดับประเทศ แต่บางรายไม่กล้าเปิดเผยไม่กล้าเอาเรื่องต่อ เพราะกลัวครอบครัวรู้ว่าเอาเงินเก็บทั้งชีวิตมาลงทุนต่อ หมดไปเกือบล้านก็มี
จากข้อมูลการตรวจสอบของทาง DSI พบว่ามีผู้เสียหายที่มียูเซอร์ในระบบรวมๆ แล้วกว่า 2 พันราย และแต่ละรายจะมีการลงทุนคนละ 1 พอร์ต โดย 1 พอร์ตเท่ากับ 10,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นเงินไทยจำนวน 316,000 บาท มูลค่าความเสียหายรวมแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมกับผู้เสียหายที่ยังตรวจสอบไม่ได้
กระทั่งมีผู้เสียหายออกมาร้องกับทางเพจอีซ้อ และอี้ แทนคุณ ให้ผลักดันเรื่องนี้ให้มีการตรวจสอบขึ้นมาใหม่อีกครั้ง หลังเงียบไปเกือบ 1 ปี และที่ผ่านมาตนเองก็ยังเคยถูกเจ้าของโบรกเกอร์ดังกล่าว ฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท ที่ได้มีการโพสต์เตือนภัยไปในโซเชียลมีเดียต่างๆ แต่สุดท้ายเขาก็ได้ขอถอนฟ้องไป โดยให้เหตุผลว่าไม่อยากเป็นคดีด้วย และขอยุติเรื่องนี้ ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้กล่าวหาใคร รวมทั้งมีแถลงการณ์ของโบรกเกอร์ออกมาถึงผู้เสียหายว่า อย่าดำเนินคดีกับทางบริษัทเพื่อจะได้มีเงินมาคืน
...
พร้อมกันนี้ ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับผู้เสียหาย 2 คน ซึ่งทั้งสองคนให้ข้อมูลตรงกันว่า เริ่มเข้าไปลงทุนจากการชักชวนของคนใกล้ตัว ที่ทราบว่ามีการลงทุนรับผลตอบแทนแบบการเทรดเงิน โดยการทำงานของโบรกเกอร์นั้น จะมีการตั้งแผนธุรกิจให้กับแม่ทีมต่าง ๆ แบบลักษณะแชร์ลูกโซ่ว่า ถ้าหาลูกค้าเข้ามาเทรด หรือนำเงินเข้ามาในระบบได้ จะได้รับเงินค่าชักชวน ให้มีการชวนต่อและมีการนำรถเบนซ์ รถหรูราคาแพงต่าง ๆ มาเป็นสิ่งจูงใจให้แม่ทีมหาลูกค้านำเงินมาลงทุนมาก ๆ
โดย 1 พอร์ตเท่ากับ 10,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นเงินไทยจำนวน 316,000 บาท โดยลูกทีม คือ ผู้เสียหาย ที่ถูกหลอกให้เข้ามาลงทุน โดยคิดว่าจะได้กำไรจากการเทรดเอง Copy Trade สุดท้ายโบรกปลอม ไม่ได้มีการเทรดจริง แต่นำเงินไปใช้ในเรื่องอื่น จึงนำเงินจากคนใหม่มาจ่ายให้คนเก่า สุดท้ายไปไม่ได้เพราะหาเงินจากคนใหม่มาจ่ายคนเก่าไม่ได้
และแม่ทีมยังทำหน้าที่ระดมคนให้ไปดำเนินการแปะเทรดระดมทุน คือ ลงเงินขั้นต่ำ 300,000 จะได้รับดอกเบี้ย 6% ทุกเดือน เป็นเวลา 1 ปี จะได้รับเงินต้นคืน แต่สุดท้ายก็ไม่จ่ายเงินให้สักบาท มีคำชักชวนสวยหรู บอกหากลงทุนเทรดไม่ถอน 10 ปี ก็จะมีเงิน 300 ล้านบาท ทั้งยังมีข้อมูลที่สร้างความน่าเชื่อถือจนสามารถหลอกได้สำเร็จ ทำให้มีคนหลงเชื่อเปิดพอร์ตเพิ่มอีกมากมายหลายคน เวลาที่ผู้เสียหายขอถอนเงิน แต่ถอนไม่ได้ ก็มีการสอบถามแอดมินไป ก็ได้รับตอบว่าหุ้นตก แต่ลักษณะตัวเลขนั้นมีความผิดปกติ
เวลาที่ทักท้วงหรือสอบถามไปจะดิ่งลงอย่างเห็นได้ชัด และมาทราบว่าเป็นการหลอกลวง โดยเป็นการกดเอาเองไม่ใช่จากระบบเทรด กระทั่งได้มีการพูดคุยกันกับผู้เสียหายคนอื่นๆ ที่ลงทุนเทรดเงินเหมือนกัน ก็เป็นในลักษณะเดียวกัน จนได้ไปปรึกษา และขอความช่วยเหลือจากนายสุพจน์ เพื่อให้ช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย แต่จนถึงตอนนี้ทางคดีก็เงียบไปและยังไม่ได้เงินคืน ซึ่งผู้เสียหายส่วนใหญ่ลงทุนไปคนละ 1-6 พอร์ต พอร์ตละ 316,000 บาท
...
อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่ปรากฏนั้นพบว่าผู้เสียหายยังเป็นในส่วนของฆราวาส ซึ่งมีคลิปหลักฐานในการอบรมและชักชวนลงทุนเทรดโดยเจ้าของโบรกเกอร์ แต่ในส่วนของพระสงฆ์ที่ปรากฏภาพการอบรมยังไม่มีคลิปหลักฐานที่เป็นคำพูดเจ้าของโบรกเกอร์ในการชักชวนพระสงฆ์ลงทุนแต่อย่างใด
และเรื่องดังกล่าวนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น และคณะสงฆ์ฝ่ายปกครองระดับจังหวัด และในเรื่องดังกล่าวนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เนื่องจากในช่วงที่มีการดำเนินคดีตรวจสอบจากหลายหน่วยงานตั้งแต่ปี 2565 ที่ผ่านมา ยังพบว่า เจ้าของโบรกเกอร์ดังกล่าว ยังคงหลอกชักชวนให้คนมาลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ทางผู้เสียหายจึงมีการส่งเรื่องต่อให้กับทางเพจอีซ้อ และทางคุณอี้แทนคุณ เพื่อให้มีการตรวจสอบขึ้นมาหลังจากพบว่า ที่ผ่านมาคดีสำคัญๆ โดยเฉพาะคดีของบริษัทดิไอคอน มีการตรวจสอบที่ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว.