สอบสวนกลางจ่อบุกเรือนจำ แจ้งข้อหาเพิ่มบรรดา 18 บอส “ดิ ไอคอน” เน้นข้อหาหลักผิด พ.ร.บ.ฟอกเงิน-พ.ร.ก.เงินกู้ฯ พิจารณาปมเข้าข่ายคดีพิเศษ ต้องส่งสำนวนให้ดีเอสไอหรือไม่

ความคืบหน้าคดี “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2567 รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจาก พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. มีคำสั่งให้ บก.ปอศ. เข้ามาร่วมสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ด้วย ล่าสุด พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. ได้หารือร่วมกับ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. เกี่ยวกับการต้องแจ้งข้อหากับบรรดาบอสทั้ง 18 คนเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับฐานความผิดที่จะแจ้งเพิ่มนั้น มีข้อหาร่วมกันกระทำผิดฐานฟอกเงินเป็นหลัก นอกจากนี้อาจมีข้อหาอื่น ๆ ประกอบ เช่น ความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงิน รวมไปถึงข้อหาย่อยอย่างอั้งยี่และซ่องโจร เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมเป็นขบวนการในลักษณะขององค์กรอาชญากรรมด้วย

โดยการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมนั้น ทีมสอบสวนจะมอบให้พนักงานสอบสวนจากคณะทำงานคดีดิ ไอคอน เข้าไปแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาทั้งหมดในเรือนจำ คาดว่าจะสรุปข้อหาทั้งหมดที่จะแจ้งเพิ่มเติมได้ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งชุดพนักงานสอบสวนจะประสานงานกับทีมสืบสวนที่มีตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เป็นตัวหลักในการตรวจสอบเส้นทางการเงินและสถานะทรัพย์สินของผู้ต้องหาแต่ละราย เพื่อให้ได้หลักฐานโยงไปสู่การกระทำความผิดฐานฟอกเงินด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากมีการแจ้งข้อหาฐานฟอกเงินแล้ว ทีมสอบสวนของ บช.ก. จะต้องหารือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ว่าจะมีการรับสำนวนไปดำเนินคดีต่อ ตามขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากว่าเข้าหลักเกณฑ์เป็นคดีพิเศษแล้ว ขณะนี้คาดว่าดีเอสไอก็กำลังพิจารณาอยู่ด้วย

ส่วนการขยายผลไปสู่การจับกุมผู้ต้องหากลุ่มที่สองนั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมหลักฐานและให้ชุดสืบสวนแกะรอย ซึ่งจะต้องมีการออกหมายเรียกหรือหมายจับผู้ต้องหาในกลุ่มต่อไปอย่างแน่นอน อาทิ กลุ่มแม่ข่ายต่าง ๆ รวมไปถึงกลุ่มพนักงานของบริษัทบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลงนามในเอกสารที่มีผลทางกฎหมาย แต่คงใช้เวลาตรวจสอบหลักฐานอีกสักระยะ

...