ตำรวจจับ "บอย ดอนตะโก" ขับกระบะซุกเฮโรอีน 24.5 กก. ซีลพลาสติกซ่อนในถังน้ำมัน ลักลอบนำเข้าจากชายแดนสังขละบุรี สารภาพได้ค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 80,000 บาท

ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและครบวงจรเริ่มตั้งแต่การตัดต้นตอการผลิตและจำหน่ายด้วยการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน การสกัดกั้น ควบคุมการลักลอบนำเข้าและตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด การปราบปรามและการยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างเด็ดขาด นั้น

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 ต.ค.67 พลตรี อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9, ผบ.กกล.สุรสีห์ พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้รับรายงานจากสายลับว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดมาในทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 323 จากอำเภอสังขละบุรี มุ่งหน้าอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี จึงสั่งการให้ พ.ต.อ. บัญชา ศรีรุจิเมธากร รรท. ผกก. สภ.ทองผาภูมิ ประสานบูรณาการกำลังทหาร ฉก.ลาดหญ้า, ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ, ตชด.13, บช.ปส., บก.ทล., ตม.กาญจนบุรี ฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจค้นขณะตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณสามแยกทองผาภูมิ

จนกระทั่งเวลา 10.15 น. คณะเจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะ โตโยต้า วีโก้ สีเทา หมายเลขทะเบียน บห 3619 กาญจนบุรี ตรงกับข้อมูลที่ได้รับรายงาน มี นายประกอบ รุ่งเลิศ หรือ ”บอย ดอนตะโก“ อายุ 58 ปี เป็นผู้ขับขี่ จึงได้เรียกให้หยุดและขอทำการตรวจค้น

...

ผลการตรวจค้นโดยละเอียดพบ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) บรรจุเป็นแพ็ค น้ำหนักประมาณแพ็คละ 350 กรัม จำนวน 70 แพ็ค (โดยนำ 2 แพ็ค มามัดรวมกัน เป็น 1 ก้อน) ห่อด้วยถุงพลาสติกใส พันด้วยเชือกฟาง น้ำหนักรวมประมาณ 24.5 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในถังน้ำมันของรถยนต์คันดังกล่าว จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมด้วย โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Apple รุ่น iPhone 12 Pro Max สีเทา จำนวน 1 เครื่อง และ รถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีโก้ สีเทา หมายเลขทะเบียน บห 3619 กาญจนบุรี จำนวน 1 คัน

ต่อจากนั้นจับกุมตัว นายประกอบ รุ่งเลิศ เป็นผู้ต้องหา โดยกล่าวหาว่า “จำหน่ายโดยการมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และมีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดีต่อไป

จากการซักถาม "บอย ดอนตะโก" ให้ข้อมูลว่ามีผู้ว่าจ้างให้ขับรถยนต์มาขนยาเสพติด จากอำเภอสังขละบุรี เพื่อนำมาส่งให้ในเขตอำเภอเมืองกาญจนบุรี จึงรับงานโดยได้ค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 80,000 บาทเมื่องานเสร็จ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเสียก่อน ซึ่งทางตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี จะได้สืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป.