รวบแล้วอดีตนักมวยไทยก่อเหตุยิงขู่ตำรวจหนีหมายจับหลายคดีในท้องที่ สน.บางซื่อ จนมุมคาด่านตรวจในพื้นที่ สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา หลังเหมาแท็กซี่ในราคา 8 พันบาทให้ไปส่งหาลูกที่ จ.อำนาจเจริญ แฉพฤติกรรมสุดแสบ ก่อนหน้านี้ก่อเหตุลักทรัพย์ไล่ดะมาตั้งแต่ จ.มหาสารคาม จ.ขอนแก่น จ.สระบุรี และ กทม. อ้างหาเงินซื้อยาเสพ

กรณีนายสันติ เจ๊ะอะหลี อายุ 39 ปี อดีตนักมวยไทย ผู้ต้องหาตามหมายจับของ สน.เตาปูนหลายคดี หลบหนีการจับกุมของตำรวจปีนรั้วเข้าไปในบ้านของสองพี่น้องนายแพทย์ในซอยอินทามระ 29 แยก 1 ท้องที่ สน.บางซื่อ ก่อนกระโดดระเบียงหนีตำรวจหายไปในความมืด ส่วน น.ส.พจณี หรือพจน์จะนี บุญหลง อายุ 42 ปี พอรู้ข่าวสามีถูกตามจับก่อเหตุเบี่ยงเบนความสนใจ ใช้ปืนขู่ตำรวจเดินขึ้นรถสายตรวจ 191 บังคับพาไปส่งที่บ้านเกิด จ.อุบลราชธานี ระหว่างทางเปลี่ยนใจลงรถหลบหนีเข้าพงหญ้าย่าน อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา กระทั่งตัดสินใจมอบตัว ตรวจค้นพบยาไอซ์จำนวนหนึ่ง หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 และตำรวจฝ่ายสืบสวนพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เร่งติดตามตัวนายสันติ เจ๊ะอะหลี ผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดี

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อกลางดึกวันที่ 7 ต.ค.พ.ต.ท.อภิวัฒน์ อาจอินทร์ รอง ผกก.สส.สน.เตาปูน ประสานข้อมูลไปยัง พ.ต.ท.กู้เกียรติ คิดกล้า สวป.สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา หลังพบเบาะแสผู้ต้องหารายนี้เตรียมหลบหนีไปที่ จ.อำนาจเจริญ เป็นบ้านของ น.ส.พจณี หรือพจน์จะนี บุญหลง อายุ 42 ปี ภรรยา พ.ต.ท.กู้เกียรติสั่งการให้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่ สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา กระทั่งเวลา 01.49 น. พบรถแท็กซี่คันต้องสงสัยขับเข้ามาที่จุดตรวจ ตำรวจเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น นายสันติไหวตัวเปิดประตูด้านหลังรถแท็กซี่วิ่งหลบหนี ตำรวจวิ่งติดตามไปจับกุมตัวได้หลังนายสันติวิ่งสะดุดขาตัวเองล้มได้รับบาดเจ็บ คุมตัวส่ง รพ.เทพรัตน์ นครราชสีมา รักษาเบื้องต้น ผลการตรวจค้นในตัวพบปืนสั้น 2 กระบอก ชนิดลูกโม่ .38 และออโตเมติก 9 มม. อย่างละ 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน .38 และ 9 มม. รวม 32 นัด ขณะนี้อยู่ระหว่างการควบคุมตัวนายสันติเดินทางมายัง สน.บางซื่อ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จะเดินทางมาสอบปากคำด้วยตัวเอง

...

ที่ สน.บางซื่อ เวลา 14.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 และตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนายสันติ เจ๊ะอะหลี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 4903/2567 พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวนบก.สส.บช.น. กก.สส.บก.น.2 สน.บางซื่อ และ สน.เตาปูน สืบสวนติดตามคนร้ายจากกล้องวงจรปิด พบหลังก่อเหตุผู้ต้องหาหลบหนีไปที่แฟลตห้วยขวาง เพื่อไปเอาเงินที่ฝากไว้กับเพื่อน 27,000 บาท เปลี่ยนชุดเป็นพนักงานส่งอาหาร สวมหมวกนิรภัยสีดำเต็มใบเดินออกมานั่งรถ จยย.รับจ้างมาที่ซอยรามคำแหง 53 เดินเท้ามาตามถนนเลียบคลองแสนแสบมาถึงซอยรามคำแหง 65 และต่อเนื่องจนถึงซอยลาดพร้าว 112 ถอดชุดพนักงานส่งอาหารทิ้งแล้วนั่งรถแท็กซี่หนีไปที่ จ.ปทุมธานี ก่อนนั่งรถแท็กซี่มาที่ห้องพักรายวันในพื้นที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พักอยู่ประมาณ 2 วัน เหมารถแท็กซี่ในราคา 8,000 บาท เพื่อหลบหนีไปยังภาคอีสาน แต่ถูกจับกุมตัวได้ที่ จ.นครราชสีมา

สอบสวนนายสันติรับสารภาพว่า ติดยาเสพติด ก่อเหตุหลายครั้งเพื่อหาเงินซื้อยาเสพ ยืนยันวันเกิดเหตุหลบหนีเอง ส่วนทรัพย์สินที่ได้จากการลักทรัพย์จะเอาเงินหรือทรัพย์สินไปฝากไว้กับภรรยา เพื่อให้ภรรยาแปลงทรัพย์สินที่ขโมยมาได้เป็นเงินแต่ภรรยาไม่ได้ร่วมก่อเหตุ ที่เอาปืนจี้ตำรวจหลบหนีเพราะเกิดความ เครียดทะเลาะกับตนมา สำหรับปืนที่ใช้ก่อเหตุนายสันติอ้างว่า ได้มาจากเพื่อน แต่จากการตรวจสอบพบเป็นปืนที่ได้มาจากการลักทรัพย์ เจ้าหน้าที่ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนสาเหตุที่นายสันติหลบหนีไปที่ จ.ยโสธรและเดินทางต่อไป จ.อำนาจเจริญ นั้นก็เพื่อต้องการพบลูกจากนั้นจะติดต่อขอเข้ามอบตัวแต่มาถูกจับกุมเสียก่อน ส่วนที่ยิงปืนขู่ตำรวจในวันเกิดเหตุเพราะวิ่งหลบหนีตำรวจจนเหนื่อย ก่อนปีนเข้าบ้านผู้เสียหายเพราะต้องการหาน้ำดื่มเท่านั้น เตรียมคุมตัวนายสันติส่งไปตรวจร่างกายหาสารเสพติดที่ รพ.ตร.และนำตัวไปฝากขังในวันพุธที่ 9 ต.ค.

ตรวจสอบพบนายสันติมีหมายจับติดตัว 4 หมายจับ ประกอบด้วย 1.หมายจับศาลจังหวัดอำนาจเจริญ (หนีประกันศาล) ความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานฯ 2.หมายจับศาลอาญา (สน.เตาปูน) ความผิดฐานลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน 3.หมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น (สภ.เมืองขอนแก่น) ความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานฯ และ 4.หมายจับศาลอาญา (สน.บางซื่อ) ความผิดฐาน พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ จากการสืบสวน พบคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ต่อเนื่องในหลายท้องที่ โดยเมื่อวันที่ 14 ก.ย.67 ก่อเหตุลักทรัพย์ได้เงินสด 900 บาท สุรา 1 ขวดในพื้นที่ สภ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 16 ก.ย.67 ก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อวันที่ 18 ก.ย.67 ก่อเหตุลักทรัพย์ 14 รายการ มูลค่ากว่า 3 แสนบาทในพื้นที่ สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา และในวันเดียวกันยังไปก่อเหตุบุกรุกเคหสถานในพื้นที่ สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี และวันที่ 27 ก.ย.67 ก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ สน.เตาปูน ทั้งนี้ ผู้ต้องหาไล่ก่อเหตุ มาตั้งแต่ จ.มหาสารคาม จ.ขอนแก่น จ.สระบุรี จนมาก่อเหตุที่ กทม.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่