ภาพ : นายอนุศาสตร์ สอนศิลป์พงศ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น

ศาลจังหวัดขอนแก่น นัดฟังคำพิพากษา "เอกราช ช่างเหลา" สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย คดีโกงสหกรณ์ครู 18 ธ.ค. เจ้าตัวกลับทันที

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 7 ตุลาคม 2567 นายอนุศาสตร์ สอนศิลป์พงศ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว หลังศาลจังหวัดขอนแก่น นัดฟังคำพิพากษา นายเอกราช ช่างเหลา สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย คดียักยอกทรัพย์สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 431 ล้านบาท ซึ่งศาลมีการพิจารณาคดีตั้งแต่เวลา 14.30 น. จนถึงช่วงเย็นวันเดียวกัน ว่า ศาลจังหวัดขอนแก่นได้นัดฟังคำพิพากษา แต่จำเลย ซึ่งก็คือ นายเอกราช ช่างเหลา ได้ยื่นคำให้การขอปฏิเสธคดีอาญา จากที่เคยรับสารภาพเพื่อสู้คดี ซึ่งคดีดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นเมื่อครั้งนายเอกราช ช่างเหลา เป็นผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เป็นความผิดทางอาญา จนทำให้สหกรณ์มียอดเงินขาดบัญชีตั้งแต่ปี 2554 – 2562 เป็นเงินจำนวน 431,826,070.43 บาท

และเพื่อเป็นการปิดบังอำพรางการกระทำความผิดของตนเอง ยังได้ทำการปลอมแปลงรายการในเอกสารสมุดคู่ฝากบัญชีเงินฝากประจำของสหกรณ์ และจัดทำหรือรับรองรายงานสถานะทางการเงินเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี อันเป็นความเท็จ เพื่อให้สหกรณ์และสมาชิกหลงเชื่อว่า สหกรณ์มียอดเงินคงเหลือตามที่ระบุในเอกสารดังกล่าวจริง เป็นการกระทำต่อเนื่องตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554 จนถึงเดือนสิงหาคม 2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับแล้ว และ นายเอกราช ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2562 แต่ทางเราไม่ยอม

ซึ่งศาลก็พิจารณาแล้วไม่อนุญาต เพราะมีการรับสารภาพมาแล้ว และมีการจ่ายเงินมาตั้งแต่ปี 2565-2566 และทางจำเลยได้รับสารภาพยืนยันมาแล้ว โดยทางศาลได้ถาม เมื่อวันที่ 26 มี.ค.67 ว่า จำเลยยังยืนรับสารภาพหรือไม่ ซึ่งจำเลยได้ยืนยันที่จะรับสารภาพ จึงไม่มีเหตุอันควรที่จะมาต่อสู้ในคดีอาญา เพราะสารภาพแล้ว และในคดีเดียวกันนี้ ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษา ในวันที่ 18 ธ.ค.2567 เวลา 09.00 น.

...

ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ยังกล่าวกล่าวถึงเงิน ที่ทางจำเลยยินดีที่จะรับผิดชอบในทางแพ่ง ซึ่งในชั้นศาลนั้นทางจำเลยได้มีการอ้างถึงกรณีจะขายที่ดินเพื่อนำเงินมาชดใช้ให้กับทางสหกรณ์ โดยหลักฐานของจำเลยที่นำมาในชั้นศาล กรณีที่มีคนมาติดต่อขอซื้อที่ดินในราคา 300 ล้านบาท ตรงนี้ไม่อาจที่จะเห็นหลักฐานได้ เพราะเป็นในส่วนของจำเลยนำมาแถลงต่อศาลเอง จึงเป็นเรื่องของจำเลยซึ่งเราไม่ทราบ

"การขายที่ดินเป็นเพียงข้ออ้างของจำเลยเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับในส่วนของทางสหกรณ์แต่อย่างใด แต่หลักๆ แล้ววันนี้ ทางจำเลยได้ขอปฏิเสธและจะสู้คดีอาญา แต่ศาลไม่อนุญาต จึงนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 18 ธ.ค. 2567 ตามกำหนดเดิม ทำให้กระบวนการย้อนกลับไป ที่จำเลยจะต้องชำระเงินให้กับทางสหกรณ์เป็นระยะ และศาลนัดฟังผลการชำระเงินพร้อมนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 18 ธ.ค. 2567 เมื่อกระบวนการกลับไป ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษาทันที และในส่วนของยอดหนี้ทั้งหมดนั้น ทางด้านจำเลยได้ชำระหนี้ให้กับทางสหกรณ์มาแล้ว 100 ล้าน กับอีก 5 แสนกว่าบาท แต่ไม่ได้รวมกับในส่วนของดอกเบี้ยที่ยังคงค้างดอกเบี้ยอยู่ 19 ล้านบาท"

ขณะที่นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย หลังลงจากศาล ได้ขึ้นรถตู้กลับออกไปทันที