"สืบนครบาล" รวบ "ตุ่น ขาใหญ่สะพานสูง" แก๊งขายรถจำนำ แล้วกลับมาโจรกรรม ขณะที่เจ้าตัวให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่เตรียมสืบสวนขยายผลต่อไป

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 ก.ย. 2567 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังจับกุม นายพัฒนรัตน์ หรือ "ตุ่น" อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.543/2567 ลงวันที่ 24 ก.ย.67 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่น โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม จับกุมได้ภายในบ้านพักของผู้ต้องหา แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กทม.

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากผู้เสียหายประกาศโพสต์ว่า มีความประสงค์จะขอซื้อรถยนต์มาใช้ในกิจวัตรประจำวันทั่วไป กระทั่งมีนายหน้าเป็นหญิงลักษณะคล้ายทอม เข้ามาติดต่อแจ้งว่าสามารถติดต่อและจัดหารถยนต์ตามที่ผู้เสียหายต้องการได้ โดยเป็นรถปิกอัพโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทาดำ ตกลงซื้อรถคันดังกล่าว ต่อมาเมื่อถึงกำหนดส่งมอบรถปรากฏว่า นายหน้าได้นำรถพร้อมกุญแจ 1 ดอกให้ผู้เสียหายขับรถมาจอดไว้บริเวณหน้าบ้านของตนเอง ต่อมามีคนร้ายมาแอบลักขับรถที่จอดไว้ไป จึงเข้าแจ้งความที่ สน.ธรรมศาลา

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า กลุ่มผู้ต้องหาที่เข้ามาลักรถผู้เสียหายไปเป็นกลุ่มเดียวกันกับบุคคลที่จัดหาและนำรถยนต์มาขายต่อให้แก่ผู้เสียหาย เชื่อว่าเป็นกุญแจที่ผู้ต้องหากับพวกจัดทำขึ้นมาใหม่ก่อนเข้าจับกุม

ทั้งนี้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธอ้างว่า ตนไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการลักรถของผู้เสียหายแต่อย่างใด แต่รับว่าเป็นผู้จัดหารถยนต์มาขายต่อให้แก่ผู้เสียหายจริง ชุดจับกุมไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากจากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมการรับซื้อขาย และรับจำนำรถยนต์เป็นจำนวนมาก รถดังกล่าวอาจจะเป็นรถที่ได้ใช้ หรือได้มาจากการกระทำความผิดหรือไม่ อย่างไรจะสืบสวนขยายผลต่อไป

...

ทางด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ขอฝากเตือนไปยังเจ้าของ ผู้ครอบครองยานพาหนะทุกท่านที่มีความประสงค์จะขายหรือจำนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ควรให้ความสำคัญ ระมัดระวังในการตรวจสอบและดำเนินการโดยเฉพาะการทำนิติกรรมสัญญาขอให้มีความรอบคอบและรัดกุม เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพ หรือตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยโดยการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจจะเป็นความผิดตามกฎหมายมีทั้งโทษจำคุกและโทษปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ แล้วแต่กรณี หรือหากพบเห็นเหตุสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.