ลุงวัย 62 คุมอารมณ์ไม่อยู่ ยิงผัวเมีย แทงซ้ำ ตายกลางตลาดที่จะนะ อ้างมาแย่งที่ขายของ ทั้งที่ตัวเองมาขายก่อน หลังเกิดเหตุยืนรอมอบตัว
วันที่ 23 ก.ย. 67 ร.ต.อ.รัฐศักดิ์ เตี้ยนวล รอง สว.(สอบสวน) สภ.จะนะ จ.สงขลา รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท และยิงกันบริเวณหน้าร้านทองแห่งหนึ่ง ถนนราษฎร์รักษ์ เขตเทศบาลตำบลบ้านนา อ.จะนะ ซึ่งเป็นย่านการค้ากลางเมืองจะนะ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบผู้ถูกยิง 2 ราย เป็นสามีภรรยากัน ทราบชื่อ นางสีตีแอเส๊าะ อะหมาน อายุ 64 ปี ชาว จ.สงขลา นอนเสียชีวิตอยู่บนถนน ที่ลำตัวมีร่องรอยถูกยิงและแทงหลายแผล ใกล้กันพบผู้บาดเจ็บคือ นายอาดือนัน มูซอ อายุ 44 ปี ชาว จ.ปัตตานี ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะฟอร์ดสภาพเก่าสีแดงของทั้งสองคน ซึ่งเป็นรถขายลองกอง และสตอ จอดอยู่ริมถนน ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับตำรวจอยู่ ทราบว่า นายหวน แซ่ตั้น อายุ 62 ปี ชาว จ.สงขลา พร้อมกับอาวุธปืนขนาด .38 และมีดปาดตาลอีก 1 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปที่ สภ.จะนะ
...
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ปกติที่ตรงนี้ นายหวน จะมาขายของประจำ แต่พักหลังสองผัวเมียมาจอดรถขายทับที่ และในตอนเกิดเหตุทั้งสองฝ่ายมีปากเสียงกัน นายหวน จึงชักอาวุธปืนออกมากระหน่ำยิงสองผัวเมียหมดลูกโม่ 6 นัด และยังใช้มีดปาดตาลกระหน่ำแทงฝ่ายหญิงอีกหลายครั้ง จนเสียชีวิตกลางถนน
ด้าน นายหวน ให้การว่า สาเหตุที่ก่อเหตุ เพราะผัวเมียคู่นี้มาแย่งที่ขายของ เพราะปกติที่หน้าร้านตรงนั้น ตนขายผลไม้เป็นประจำ แต่ช่วงหลังผัวเมียคู่นี้ขับรถกระบะมาจอดขายทับที่ และทุกครั้งก็จะขับรถมาจอดขายก่อน เมื่อมาขอให้เลื่อนไปขายที่อื่น ผัวเมียคู่นี้ก็พูดจาท้าทายบอกว่าเขามาจอดก่อน และไม่ใช่ที่ของตน ใครทันใครขาย ทั้งยังถามด้วยว่า มีปัญหาอะไรไหม ซึ่งทุกครั้งที่มาขอให้เลื่อนก็จะพูดประมาณนี้ สุดท้ายวันนี้คุมอารมณ์ไม่อยู่ จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น และยอมมอบตัวแต่โดยดี
ขณะที่ญาติของ นายหวน ซึ่งตามไปที่โรงพัก เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ปกติลุงหวนก็ไม่ค่อยสบายอยู่แล้ว แต่ยังมาขายของเป็นประจำ แต่ว่าถูกสองผัวเมียคู่นี้ ซึ่งปกติจะขายอยู่ในตลาด แต่กลับมาจอดรถแย่งที่ขายของตรงนี้ ลุงหวนก็น่าจะบันดาลโทสะ ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ส่วนทางคดี ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน และเตรียมแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับ นายหวน ผู้ก่อเหตุต่อไป.