ครอบครัวเศร้า เล่ามูลเหตุสุดสลด หลังสามีเก่ามาง้อเมียแต่ไม่สำเร็จ ก่อนบุกบ้านยิงดับ 4 ศพ ต่อหน้าลูก 2 ขวบ

จากกรณีเหตุสุดสลด สามีเก่าตามง้อเมียไม่สำเร็จ หึงหวงหลังรู้เมียมีผัวใหม่ บุกบ้านยิงเมียพร้อมญาติดับ ก่อนใช้อาวุธปืนยิงตัวเองตายตาม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (สามีเก่าตามง้อเมียไม่สำเร็จ หึงหวงหลังรู้มี "สามีใหม่" บุกบ้านยิงดับ 4 ศพ)

ล่าสุด วันที่ 21 กันยายน 2567 ร.ต.อ.พงษ์พิชิต ธนาพันธุ์ภักดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.มัญจาคีรี ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันตายที่บ้านเลขที่ 139 หมู่ 10 บ.ขามป้อม ต.โพนเพ็ก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมประสานกู้ภัยร่วมเก็บศพผู้ตาย

จากนั้นเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้าแคมรี่สีดำ ทะเบียน กท-157 หนองคาย จอดอยู่บนถนนหน้าบ้าน ส่วนจุดที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว มี 2 ห้องนอน มีรั้วรอบอยู่ทางด้านทิศเหนือของหมู่บ้าน ที่มี 2 ห้องนอน จากการตรวจที่เกิดเหตุ พบศพ นางจรวยพร หรือ ยายจั่น แฝงฤทธิ์ อายุ 50 ปี ยายของน้องเบส และมารดาของ น.ส.หมิว ถูกยิงที่ลำตัว 2 นัด นอนหงายตายอยู่บนเตียงนอน และพบศพ น.ส.คลิตา หรือ หมิว แฝงฤทธิ์ อายุ 28 ปี ถูกยิงที่ศีรษะ 2 นัด นอนเสียชีวิตอยู่ข้างที่นอนปลายเท้าของอดีตสามี และพบศพ นายนพดล อันทักษะ อายุ 40 ปี ถูกยิงที่ปากนอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนข้างเตียงนอน

นอกจากนี้ ยังพบศพ นายพลพิพัฒน์ ทองยศ หรือ เบส อายุ 18 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำ ในขณะเดียวกันก็มีเด็กหญิง วัย 2 ขวบ บุตรของ นายนพดล และ น.ส.หมิว นั่งตัวสั่นด้วยความตกใจอยู่ข้างศพมารดา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงอุ้มออกมาให้เพื่อนบ้านดูแล

...

นางอร แฝงฤทธิ์ อายุ 68 ปี ย่าของน้องเบส และ น.ส.หมิว เผยว่า บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านของนางเยาวลักษณ์ มารดาของน้องเบส แต่มารดาไม่อยู่บ้านเพราะไปค้าขายอยู่ในกรุงเทพฯ กับสามี น้องเบสจึงเฝ้าบ้านคนเดียวและเรียนหนังสืออยู่ชั้น ม.6 เวลากินน้องเบสจะไปกินที่บ้านยาย ซึ่งก็คือยายจั่น ส่วน น.ส.หมิวนั้น เป็นน้องสาวของนางเยาวลักษณ์ และมีสามีชื่อนายนพดล ชาวจังหวัดหนองคาย มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน วัย 2 ขวบที่ตำรวจพบอยู่ในที่เกิดเหตุ

ส่วนสาเหตุการตายในครั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่ามาจากความหึงหวง โดยก่อนหน้านี้ทราบว่า น.ส.หมิว เคยมีสามีมาแล้ว 1 คน มีลูกด้วยกัน 2 คน แต่เลิกกันไปนานแล้ว จนมาได้สามีใหม่ชื่อ นายนพดล ชาวจังหวัดหนองคาย และสามีไม่ชอบให้ภรรยาไปไหนคุยกับชายใด และถูกสามีทำร้ายร่างกายเป็นประจำ ต้องหนีกลับมาอยู่กับพ่อแม่ที่บ้านขามป้อม สามีก็ตามมาง้อก็กลับไปอยู่ด้วยกันอีก เป็นแบบนี้มา 3-4 ครั้งแล้ว

ล่าสุดเมื่อประมาณ 10 วันที่ผ่านมา น.ส.หมิว ก็หอบลูกสาวกลับมาอยู่กับพ่อแม่อีก และบอกว่าเลิกกับสามีแล้ว และได้พาลูกสาวมาอยู่ที่บ้านพี่สาว มาอยู่กับน้องเบสที่เป็นหลานชายได้ประมาณ 4 วัน นายนพดลก็มาตามง้อขอคืนดีอีก จึงเชื่อว่า ผัวเมียทะเลาะกัน นางจั่นคนเป็นแม่ยายเข้าห้ามปราม จึงถูกยิงตายก่อนคนแรก จากนั้นน่าจะยิง น.ส.หมิว เป็นศพที่ 2 และยิงน้องเบสเสียชีวิตในห้องน้ำเป็นศพที่ 3 จากนั้นก็ฆ่าตัวตายตามหนีความผิด

นางอำพร ชาวกุดรัง อายุ 56 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ช่วงประมาณ 08.00 น. ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 8 นัด แต่ไม่ได้รัวทีเดียว ค่อยๆ ยิงทีละนัด ก่อนที่จะหยุดไป ห่างกันประมาณ 10 นาที ก็ได้ยินอีก 2 นัด ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจไม่ได้เอะใจว่าทำอะไรกัน ไม่คิดว่าจะยิงปืน แต่ลูกชายบอกว่าเป็นเสียงปืน ในใจคิดว่าไม่ใช่เขายิงกันตายแล้วเหรอ จึงรีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านทันที กระทั่งพบว่ามีคนตาย 4 ศพ เหลือเพียงลูกสาวของคนยิงที่ยังมีชีวิตอยู่ ยังเคราะห์ดีพ่อไม่ยิงลูกตายไปด้วย แต่สงสารหลานชายคนตายที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ถูกยิงตายไปด้วย

ทางด้าน พ.ต.อ.พิชัย นาขันดี ผกก.สภ.มัญจาคีรี กล่าวภายหลังตรวจที่เกิดเหตุว่า จากการสอบถามชาวบ้านและญาติที่สนิทกับฝ่ายครอบครัวคนตาย ทราบว่า นายนพดล เป็นอดีตสามี น.ส.หมิว ที่เลิกกันไปประมาณ 1 ปี แล้ว ฝ่ายชายได้ติดตามมาง้อขอคืนดีบ่อยครั้ง และการก่อเหตุที่อดีตสามียิงอดีตภรรยากับอดีตแม่ยายและหลานตายในครั้งนี้

จากการสืบสวนมูลเหตุในเบื้องต้น ทราบว่า นายนพดล ทราบว่า น.ส.หมิว อดีตภรรยามีสามีใหม่ จึงได้เกิดความหึงหวง เมื่อง้อขอคืนดีไม่สำเร็จ จึงใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิง อดีตแม่ยาย และ น.ส.หมิว อดีตภรรยา และ นายพลพิพัฒน์ ญาติของอดีตภรรยาจนถึงแก่ความตาย หลังจากนั้น นายนพดล ได้ใช้อาวุธปืน ยิงตัวเองตายตามในห้องนอนที่เกิดเหตุดังกล่าว.