หยามตำรวจพญาไท สองผู้ต้องหาคดียาเสพติด ก่อเหตุระทึกกลางดึก ออกอุบายยืมมือถือจากรอง สวป.โทร.หาเพื่อนให้ขับรถเก๋งสีแดงมาจอดรอหน้า สน.พญาไท อาศัยจังหวะเผลอกระชากรองสวป.เข้าไปในห้องขังรุมสกรัมแล้วยัดใส่ซังเต ก่อนวิ่งขึ้นรถหลบหนี คล้อยหลังไม่ถึงสี่ชั่วโมงทั้งหมด ทนแรงกดดันไม่ไหว ต้องเข้ามอบตัวที่ สภ.สีดา จ.นครราชสีมา ด้าน ผบก.น.1 สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบด่วน ไขข้อข้องใจมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นหรือไม่

สองผู้ต้องหาคดียาเสพติดแหกห้องขังรุมสกรัมรอง สวป.สน.พญาไท จนอ่วม เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 19 ก.ย. ขณะที่ ร.ต.ต.รุ้งระวี สืบเหล่างิ้ว รอง สวป.สน.พญาไท ปฏิบัติหน้าที่สิบเวรหน้าห้องขัง ตั้งแต่ 00.00-08.00 น. โดยมีผู้ต้องขังรวมทั้งหมด 4 คน ระหว่างนั้นนายอ้น ประเสริฐ อายุ 23 ปี และนายนิพนธ์ จานนอก อายุ 31 ปี สองผู้ต้องหาคดีร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายน้ำหนัก 80 กิโลกรัม ถูกตำรวจ บก.สส.บช.น. จับกุมตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย. นำตัวมาฝากขังไว้ที่ สน.พญาไท เพื่อสอบสวนขยายผล ทั้งคู่โบกมือส่งสัญญาณผ่านกล้องวงจรปิดเรียก ร.ต.ต.รุ้งระวีขอความช่วยเหลือโดยต้องการยากันยุง ร.ต.ต.รุ้งระวีตอบว่า ไม่มี นายอ้นจึงเอ่ยปากขอยืมโทรศัพท์มือถือโทร.หาญาติ ร.ต.ต.รุ้งระวีเปิดประตูลูกกรงชั้นแรกเข้าไปห้องขังชั้นใน แล้วเปิดประตูห้องขังชั้นที่ 2 เพื่อยื่นโทรศัพท์มือถือให้ผู้ต้องหาใช้โทร.หาญาตินานประมาณ 2 นาที จังหวะที่คนร้ายยื่นโทรศัพท์มือถือคืน นายอ้นอาศัยจังหวะกระชากตัว ร.ต.ต.รุ้งระวีเข้าไปในห้องขังชั้นใน ทั้งคู่ช่วยกันล็อกคอและรุมสกรัม ร.ต.ต.รุ้งระวีจนล้มลงกับพื้น จากนั้นทั้งคู่รีบออกจากห้องขังโดยปิดประตูล็อกกลอนชั้นนอกชั้นใน วิ่งหลบหนีไปทางด้านหน้าโรงพัก มีรถเก๋งสีแดงพรรคพวกของคนร้ายมาจอดรอรับก่อนขับหลบหนีไปทางแยกศรีอยุธยาอย่างรวดเร็ว ขณะที่ ร.ต.ต.รุ้งระวีโทรศัพท์ไปหา พ.ต.ท.หญิง ดรุณี ประเสริฐ รอง ผกก. (สอบสวน) หน.งานสอบสวน สน.พญาไท ที่เข้าเวรอยู่ในห้องสอบสวนให้มาช่วยเปิดประตูห้องขัง เบื้องต้นพบ ร.ต.ต.รุ้งระวีได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

...

จากนั้นตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท ร่วมกับตำรวจ บก.สส.บช.น. ติดตามตัวคนร้าย โดยโทรศัพท์เข้าไปที่เบอร์โทรศัพท์ที่คนร้ายโทร.หาก่อนแหกห้องขัง คาดปลายสายเป็นคนเดียวกับโชเฟอร์ที่ขับรถเก๋งสีแดงมารับคนร้ายหลบหนีที่ริมถนนศรีอยุธยา พบคนร้ายใช้เส้นทางถนนมิตรภาพมุ่งหน้า จ.นครราชสีมา หลังเหตุการณ์ผ่านไปหลายชั่วโมงโชเฟอร์รถเก๋งสีแดงยอมรับสาย ตำรวจเจรจากดดันกระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น. โชเฟอร์คนดังกล่าวขับรถเข้าไปที่ สภ.สีดา จ.นครราชสีมา พาคนร้ายทั้งคู่เข้ามอบตัวและติดต่อให้ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท เดินทางไปรับตัวกลับมาสอบสวน เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งคู่ยอมรับสารภาพพร้อมขอโทษที่ต้องทำให้เดือดร้อนและยอมรับโทษในเหตุที่ก่อ

ต่อมาเวลา 14.30 น. พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เดินทางมาสอบปากคำ 2 ผู้ต้องหาด้วยตัวเอง ก่อนเปิดเผยว่า คดีนี้ผู้ต้องขังทั้ง 2 คือนายอ้นและนายนิพนธ์ถูกตำรวจสืบนครบาลจับกุมตัวได้พร้อมยาไอซ์น้ำหนัก 80 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ก่อนถูกแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองและถูกนำมาฝากควบคุมตัวไว้ที่สน.พญาไท เนื่องจากสืบนครบาลไม่มีสถานที่ควบคุม จากนั้นเวลา 11.00 น. วันที่ 18 ก.ย. ตำรวจสืบนครบาล เบิกตัวผู้ต้องขังทั้งสองคนไปสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวกลับมาฝากควบคุมที่ สน.พญาไท ในเวลา 23.00 น. มีตำรวจสิบเวรที่เฝ้าบริเวณหน้าห้องขังและเปลี่ยนเวรในเวลาเที่ยงคืนโดยมี ร.ต.ต.รุ้งระวีเป็นสิบเวรห้องขัง

พล.ต.ต.อัฏธพรกล่าวต่ออีกว่า จากการสืบสวนพบรถเก๋งสีแดงมาจอดรอรับผู้ต้องหาทั้งคู่ที่หน้า สน.พญาไท เป็นคนเดียวกับที่เอาของใช้มาให้ตอนเที่ยงคืนกว่า ตอนนี้ทราบตัวบุคคลนี้ว่าเป็นชายอายุ 27 ปี ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนยอมรับว่าชายคนดังกล่าวเป็นบุคคลที่ช่วยเหลือหลบหนีต้องออกหมายจับมาลงโทษต่อไป

“ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพมีการวางแผนที่จะหลบหนี มีผู้ที่เกี่ยวข้องคือชายคนที่มารับและยังต้องตรวจสอบต่อไปอีกว่ามีเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจหรือไม่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ขณะนี้ผมสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาเพื่อให้เกิดความกระจ่าง ส่วนผู้ต้องหาทั้งคู่จะถูกดำเนินคดีแยกไปเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วยคดียาเสพติดและคดีหลบหนีการควบคุมต้องดำเนินคดีคู่ขนานกันไป” พล.ต.ต.อัฏธพรกล่าว

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่