ชุดสืบสวน ปคม.รวบ “เจ๊จ๋า ปากน้ำ” ผู้ต้องหาคนสำคัญแก๊งค้ามนุษย์ หลอกลวงคนไทยและแรงงานต่างด้าวลงเรือประมงถาวรไม่ได้กลับขึ้นฝั่ง สอบพบส่งต่อเหยื่อเปลี่ยนขึ้นเรือประมงเป็นทอดๆ พร้อมทำร้ายเยี่ยงทาส ไม่พอใจจับโยนทะเลปล่อยให้ตาย ความแตกเพราะเรือสินค้าสัญชาติเวียดนามพบเหยื่อ 3 คนโดยบังเอิญระหว่างลอยคออยู่กลางทะเลมาเลเซีย ช่วยชีวิตไว้ได้ แฉอยู่ในทะเลมา 3 วันโดยไม่รู้ชะตากรรม สอบสวนให้การรับสารภาพร่วมแก๊งค้ามนุษย์ส่งลงเรือประมงนรกจริง แต่ไม่รู้ว่ามีการทำร้ายและพยายามฆ่าด้วยการจับโยนทะเล

ตำรวจ กก.1 บก.ปคม.บุกจับ “เจ๊จ๋า ปากน้ำ” ตัวการสำคัญแก๊งค้ามนุษย์รายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ก.ย. พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. สั่งการให้ พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม. และ พ.ต.ท.บุรินทร์ กะปิตถา สว.กก.1 บก.ปคม.นำกำลังจับกุมนางสมปอง สร้อยทอง หรือเจ๊จ๋า อายุ 62 ปี ภายในวัดโพธิยาราม (ทองคง) ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2295/2557 ลงวันที่ 19 ธ.ค.2557 ข้อหาสมคบค้ามนุษย์จากการบังคับใช้แรงงาน ข้อหาร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ข้อหาร่วมกันเพื่อจะเอาคนลงเป็นทาส หรือให้มีฐานะคล้ายทาส นำเข้าในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร และข้อหาขายจำหน่าย หรือหน่วงเหนี่ยวกักขังบุคคลหนึ่งบุคคลใด

สืบเนื่องจากเมื่อปี 2555 ตำรวจ บก.ปคม.ได้รับการประสานจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการว่า มีผู้เสียหายถูกนายหน้าจัดหาแรงงานหลอกพาไปทำงานบนเรือประมง อ้างว่ารายได้ดี แต่เมื่อไปถึงย่านปากน้ำสมุทรปราการ กลับถูกนางสมปอง หรือ “เจ๊จ๋า ปากน้ำ” พาตัวไปยังร้านคาราโอเกะของตนเองแล้วบังคับให้เซ็นสัญญาทาส กักขังไว้ในห้องพักข่มขู่ไม่ให้หลบหนี หลังจากนั้นถูกส่งตัวไปขึ้นทำงานบนเรือประมง และถูกส่งต่อไปยังเรือลำอื่นเป็นทอดๆจนไม่ได้กลับขึ้นฝั่งเลย ระหว่างนั้นยังถูกไต้ก๋งเรือบังคับใช้แรงงานอย่างหนัก ถูกทำร้ายปางตาย สุดท้ายถูกจับโยนทิ้งกลางทะเลพร้อมพวกรวม 3 คน ช่วงเรือลอยลำอยู่กลางทะเลน่านน้ำประเทศมาเลเซีย เหยื่อต้องลอยคออยู่ในน้ำนานกว่า 3 วัน ก่อนได้รับการช่วยเหลือจากเรือสินค้าสัญชาติเวียดนามที่ผ่านมาพอดี จนสามารถรอดชีวิตกลับมาได้

...

หลังจากรับเรื่องพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม. รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวน 5 คน พร้อมติดตามจับกุมไปได้แล้วบางส่วน และสอบสวนพบว่า “เจ๊จ๋า” เป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ แต่กลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่าไม่รู้จักชื่อนามสกุลจริงของเจ๊จ๋า พนักงานสอบสวนตัดสินใจให้ผู้ต้องหาบอกเล่าตำหนิรูปพรรณสเกตช์ภาพเอาไว้ แล้วสืบสวนตรวจสอบต่อจนทราบชื่อนามสกุลจริงของเจ๊จ๋า ทำให้ผู้ต้องหารายสำคัญหนีรอดมาได้เป็นเวลากว่า 10 ปี นอกจากนี้ ยังตรวจสอบจนทราบว่า ผู้ต้องหายังวนเวียนหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ แต่ไปทำอาชีพอื่น จนสามารถตามจับกุมตัวได้ในที่สุด ทั้งที่เป็นหมายจับผู้ต้องหาตามภาพสเกตช์เท่านั้น

สอบสวนนางสมปอง หรือเจ๊จ๋า ยอมรับสารภาพว่า เคยร่วมขบวนการส่งคนไทยและแรงงานต่างด้าวขึ้นไปทำงานบนเรือประมงที่บังคับใช้แรงงานมาหลายราย แต่ไม่ทราบว่าแรงงานที่ส่งไปถูกทำร้ายทารุณ และพยายามฆ่าด้วยการจับโยนทิ้งทะเล นอกจากนี้ ยังรับว่าเคยถูกตำรวจ จ.สมุทรปราการ จับกุมดำเนินคดีข้อหาค้ามนุษย์มาแล้ว ถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปี หลังพ้นโทษออกมาเปลี่ยนไปประกอบอาชีพอื่น แต่มาถูกจับดำเนินคดีข้อหาค้ามนุษย์อีกครั้ง หลังสอบสวนเบื้องต้นคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่