ภรรยาหนุ่มวิน จยย. เหยื่อ 6 ล้อคลั่งชนดับกลางกรุง เล่านาทีรู้ข่าว บอกไม่ต้องห่วงลูก ให้อโหสิกรรมคนที่ทำ จะได้ไม่ต้องจองเวรกัน

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นาย พร้อมรถจักรยานยนต์ 2 คัน ไล่ติดตามรถบรรทุก 6 ล้อคันหนึ่ง ซึ่งคนขับมีลักษณะคลุ้มคลั่ง ขับรถวนรอบระหว่างตึกมาลีนนท์ ถนนพระราม 4 มุ่งหน้าแยกพระโขนง ก่อนที่จะกลับรถขับกลับมาทางตึกมาลีนนท์ และมุ่งหน้าขาออก จนกระทั่งขับฝ่าไปถึงสมุทรปราการ ไกล 30 กม. ก่อนกระโดดหนีลงคลองบางน้ำจืด 

โดยมีรายงานว่า ระหว่างทางนั้น ผู้ก่อเหตุได้ไปกลับรถบริเวณโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ซึ่งอยู่ในพื้นที่ สน.คลองตัน ในจุดดังกล่าวได้ไปชนรถจักรยานยนต์คันอื่นเพิ่มขึ้นอีก ได้รับบาดเจ็บ 1 คน เสียชีวิต 1 ศพ ต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายประวิทย์ มากพิชัย อายุ 39 ปี อาชีพวินจักรยานยนต์รับจ้าง ในพื้นที่ของ สน.คลองตัน ก่อนหลบหนีขึ้นทางด่วนไปลงแถวบางพลี ก่อนจะติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ น.ส.เสาวลักษณ์ ภรรยาของ นายประวิทย์ ผู้เสียชีวิต เผยว่า สามีทำอาชีพขับวินมอเตอร์ไซค์มาประมาณ 10 ปีแล้ว เมื่อวานมีคุณครูที่โรงเรียนของลูกโทรมาบอกว่ายังไม่มีใครไปรับลูกที่โรงเรียน ซึ่งครูพยายามติดต่อไปทางสามี แต่ติดต่อไม่ได้ ตัวเองเริ่มสังหรณ์ใจ เพราะโทรไปแล้วเขาไม่รับ ซึ่งปกติเขาจะรับสายตลอด อีกทั้งลูกติดเขามาก และเขาก็ไม่น่าที่จะปล่อยให้ลูกรอเขานานขนาดนั้น กระทั่งมารู้ข่าวว่า สามีถูกรถบรรทุกชนเสียชีวิต ซึ่งสามีเป็นเสาหลักของครอบครัว และอยากบอกกับเขาว่าไม่ต้องเป็นห่วงลูก และอโหสิกรรมให้คนที่ทำ เพราะไม่อยากให้เขาห่วง หรือไปจองเวรจองกรรมกับใคร และไปสู่ภพภูมิที่ดี ไม่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้อีก

...

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ ทางครอบครัวได้ไปติดต่อรับศพนายประวิทย์ ผู้เสียชีวิต ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลจุฬาฯ พร้อมเผยสั้น ๆ ว่า ตั้งแต่เกิดเรื่อง ยังไม่มีญาติของผู้ก่อเหตุติดต่อเข้ามาขอโทษ มีเพียงบริษัทประกันของรถคันก่อเหตุเท่านั้นที่ติดต่อมาพูดคุยพร้อมกับขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนก็อยากจะให้ทางครอบครัวผู้ก่อเหตุติดต่อเข้ามาพูดคุย ขอโทษ หรือรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ หลังจากครอบครัวรับศพแล้ว จะเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดมักกะสัน โดยจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 3 วัน และฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน 2567 เวลา 16.30 น.