ตำรวจเรียกสอบเจ้าของร้านเคมีภัณฑ์ ยังติดใจคำให้การขายเมทานอลให้ 2 พี่น้องผลิตเหล้าเถื่อน ในขณะเดียวกันพบคลัสเตอร์เพิ่ม 3 จุด รวมเป็น 21 จุด

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 4 ก.ย. 67 ที่ห้องประชุม ชั้น 3 กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 (บก.น.3) พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของแต่ละ สน. ร่วมกันประชุมเพื่อสรุปผลคดีคลัสเตอร์ยาดองมรณะ ที่มีผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย และบาดเจ็บ 36 ราย รวมทั้งหมด 44 ราย ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง

พล.ต.ท.อัคราเดช เปิดเผยหลังการประชุมว่า วันนี้เป็นการประชุมถึงความคืบหน้าของสำนวนการสอบสวนในการลักลอบจำหน่ายสุรายาดอง ในพื้นที่ บก.น.2-3-4 ในส่วนของนครบาลได้ตั้งคณะทำงานไว้แล้ว โดยมี พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ เป็นประธานคณะทำงาน โดยได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปขยายผลร้านเคมีภัณฑ์ที่จำหน่ายสารเคมีให้กับ 2 ผู้ต้องหา (เอส-อาร์ท) นำไปผลิตเหล้าเถื่อน

โดยที่ผ่านมาทาง บก.น.3 ได้มีการเชิญเจ้าของร้านเคมีภัณฑ์แห่งที่ 2 ที่อยู่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ มาให้ข้อมูลแล้ว เบื้องต้นจะมีการตรวจสอบใบอนุญาตเปิดกิจการ ใบอนุญาตการซื้อขายเคมีภัณฑ์ รวมทั้งเอกสารการซื้อขายในวันเกิดเหตุ ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อตามคำกล่าวอ้างของเจ้าของร้านที่ระบุว่าได้ขายเอทานอลให้ผู้ต้องหา ส่วนนี้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ส่วนการที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การว่าได้สั่งซื้อเอทานอล ถือว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาในคำให้การ แต่ตำรวจก็ไม่ได้ปักใจเชื่อเนื่องจากมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน ว่าพบสารเมทานอลในเลือดของผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต และยังพบพยานหลักฐาน เป็นสารเมทานอลในบรรจุภัณฑ์ที่เกิดเหตุ

...

ดังนั้น ตำรวจจึงสอบสวนถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดโดยละเอียด ถ้าพบใครมีความผิด จะดำเนินการโดยไม่มีข้อละเว้น นอกจากนี้ในการสอบสวน เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บ 36 ราย และเสียชีวิต 8 ราย โดยแต่เดิมมีซุ้มยาดองเพียง 18 จุด และได้มีการขยายผลเพิ่ม พบอีก 3 จุด รวมเป็น 21 จุด ที่เพิ่มมาใหม่คือ สุวินทวงศ์ 1, รามอินทรา 99, หทัยราษฎร์ 50

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าสำนวนคดีทั้งหมดมีความคืบหน้าไปกว่า 90% และเตรียมส่งสำนวนให้พนักงานอัยการสั่งฟ้องได้ภายในต้นเดือน พ.ย.นี้