สมุทรปราการ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์ ตามรวบแล้วโชเฟอร์แท็กซี่หื่น หวังเคลมสาว 16 แฟนลูกชายตัวเอง อ้างไม่ได้ตั้งใจ ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ


 ความคืบหน้าคดีโชเฟอร์แท็กซี่หื่นหวังเคลมแฟนลูกชายตัวเอง หลอกอ้างว่าเพื่อแลกกับการลบคลิปลับกับลูกชายตัวเอง

เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. วันที่ 1 กันยายน 2567 ที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ทางด้าน พ.ต.อ.ทศพล ทองใบ ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์, พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประยูร ปัตตุลี รอง ผกก.สส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ พ.ต.ต.วีระพันธ์ บุญหนัก สว.สส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ และชุดสืบสวน ได้เรียกนายสุริยา อายุ 57 ปี (พ่อน้องแบม นามสมมติ) น.ส.แบม (ผู้เสียหาย) อายุ 16 ปี และนายพัชรพล อายุ 16 ปี (ลูกชายนายสุทัศน์ ผู้ก่อเหตุ) เข้าพบตำรวจชุดสืบสวน เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมในการติดตามตัวนายสุทัศน์ ผู้ก่อเหตุ และสอบถามความคืบหน้าของคดี โดยทาง ร.ต.อ.สุวิทย์ ภูดอนนาง รอง สว.(สอบสวน) สภ.พระสมุทรเจดีย์ (เจ้าของคดี) ได้มีการแยกเป็น 2 ส่วน ฐานความผิดของผู้ก่อเหตุ

1. กระทำอนาจารผู้อื่น

2. ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ ข้อหานี้มีผู้เสียหายหรือผู้บาดเจ็บจำนวน 2 ราย (พลเมืองดีที่เข้าไปช่วยน้องแบม)

3. ทำลายทรัพย์สินผู้อื่นจนได้รับความเสียหาย (ประตูห้องเช่าถูกงัดและถูกทุบ เจ้าของห้องเช่าจะตามมาแจ้งความภายหลัง)

หลังเกิดเหตุเจ้าพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุไปแล้ว และตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับนายสุทัศน์ ผู้ก่อเหตุในฐานความผิด 1-2 ข้อหา

ผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลกับชุดสืบสวน และทราบจุดที่ผู้ก่อเหตุหลบหนีอยู่แถวย่าน จ.นนทบุรี จากนั้นทางชุดสืบสวนจึงได้ประชุมวางแผนจัดกำลังเพื่อเดินทางไปจับกุมผู้ก่อเหตุ

...

ล่าสุดสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุไว้ได้ คือ นายสุทัศน์ อายุ 46 ปี หลังไปขอพักอาศัยกับคนที่รู้จักกัน โดยขณะเข้าจับกุม ผู้ก่อเหตุพยายามวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไม่สามารถหนีได้ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้กระจายกำลังปิดล้อมพื้นที่ไว้จนสามารถจับกุมตัวไว้ได้ ซึ่งเป็นเพิงพักแท็กซี่ติดกับคลองประปา ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

จากนั้นชุดสืบสวนจึงได้คุมตัวผู้ต้องหากลับมาที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริงกับลูกสะใภ้หรือน้องแบม โดยมีการกอดหอม แต่ไม่ได้สอดใส่หรือสำเร็จความใคร่ เพราะน้องแบมลูกสะใภ้ไม่ยินยอม ส่วนผู้บาดเจ็บพลเมืองดีทั้ง 2 ราย ตนก็ยอมรับว่าได้ทำร้ายร่างกายจริง จากนั้นชุดจับกุมจึงได้ทำการแจ้งข้อหา

1. กระทำอนาจารผู้อื่น
2. ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บเป็นอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ
3. เสพสารเสพติดให้โทษประเภทที่ 1

จากนั้นชุดจับกุมจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายสุริยา อายุ 57 ปี (พ่อน้องแบม) เล่าว่า วันนี้ก็รู้สึกดีใจมากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ เพราะที่ผ่านมา ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง รู้สึกไม่ปลอดภัยเมื่อผู้ก่อเหตุยังไม่โดนจับกุม ผู้ก่อเหตุมีนิสัยชอบความรุนแรง หลังจากได้เห็นตัวผู้ก่อเหตุถูกจับ ตัวเองจึงไม่สามารถพูดออกมาเป็นคำได้ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ทำได้อย่างไรกับแฟนลูกทั้งที่เป็นลูกสะใภ้ตัวเอง ทั้งที่ตนเองก็คอยช่วยเหลือผู้ก่อเหตุตลอดที่ผ่านมา และยังค้ำรถแท็กซี่ให้ไปใช้หาเงินอีก ให้เงินใช้เวลาไม่พอจ่าย จนตอนนี้ก็ให้ลูกชายผู้ก่อเหตุมาอยู่อาศัย เพราะน้องไม่มีที่ไปแล้ว

“ก็อยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ ส่วนเรื่องคดีก็เป็นไปตามกฎหมาย ก็ยังมีติดใจอยู่บ้าง และไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องก่อเหตุเป็นจริง”

พ.ต.ท.ประยูร ปัตตุลี รอง ผกก.สส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีคนขับรถแท็กซี่ลวงลูกสะใภ้ไปอนาจารนั้น โดยตอนแรกได้รับแจ้งมาเป็นเพียงการทำร้ายร่างกาย และได้มีการสืบต่อโดยพบว่ามีการล่อลวงเด็กเยาวชน มีการทำร้ายร่างกายพลเมืองดีที่เข้าไปช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการสืบหารายละเอียด และหาตามตัวตามจุดต่าง ๆ ที่ผู้ก่อเหตุเคยไปพักอาศัย และใช้กลวิธีทุกวิถีทางเพื่อช่วยในการตามหาตัว จนทราบว่าผู้ก่อเหตุหนีไปอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี แถวปากเกร็ด เป็นเต็นท์ของแท็กซี่ จึงได้ทำการปิดล้อมและจับกุม และยอมรับตลอดทุกข้อกล่าวหา มีการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุมีการเสพยาเสพติดมาก่อนจะก่อเหตุ ส่วนเรื่องคลิปในห้องเป็นเรื่องที่กุขึ้นมา แต่เพื่อความแน่ใจ ตำรวจจะนำตัวผู้ก่อเหตุไปตรวจสอบภายในห้องนั้นอีกครั้ง และเรื่องการที่มีพลเมืองดีมาช่วยในเหตุครั้งนี้ ก็จะมีงานช่วยเยียวยาของกระทรวงยุติธรรมให้เป็นของตอบแทน

นายสุทัศน์ อายุ 46 ปี ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ในวันที่เกิดเหตุ ตนไม่ได้ตั้งใจจะไปทำแบบนั้นกับลูกสะใภ้ เพียงแค่จะไปยืมสายชาร์จเพื่อเอามาชาร์จแบต เพราะโทรศัพท์แบตหมด และเป็นเส้นทางผ่านพอดีจึงขับไปขอยืม แต่มันมีอยู่แวบหนึ่งคิดมากเรื่องต่าง ๆ ทั้งเรื่องเงินเรื่องค่าบ้านค่าใช้จ่าย จนมันรุมเร้า และปัญหาเกี่ยวกับแฟนเก่าลูกชายที่เคยพูดกับตนว่า ที่เลิกกันเพราะลูกชายตนเลี้ยงเขาไม่ได้ ยังมาขอเงินพ่อกินอยู่เลย ตนจึงรู้สึกแค้นอยู่ตลอดมา

...

ในวันเกิดเหตุตนเพียงจะไปปรึกษาลูกสาวเรื่องที่เล่ามาเพียงเท่านั้น แต่พอมาถึงห้องพัก ได้มีอารมณ์ชั่ววูบเกิดคิดไม่ดี จึงได้พยายามลองดูว่าลูกสาวจะเล่นด้วยหรือไม่ บอกอีกว่าช่วยตนหน่อยได้ไหมในเรื่องที่ผู้ใหญ่เขาทำกัน ลูกสะใภ้ก็ไม่ยอม เลยจะพากลับบ้าน แต่ลูกสะใภ้ไปบอกคนอื่นขอความช่วยเหลือ จึงเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นที่มีคลิปออกมา

“ส่วนเรื่องคลิปลับนั้นไม่มี เป็นเรื่องที่กุขึ้นมา น้อยใจลูก เพียงต้องการความสนใจจากลูกบ้าง ที่ผ่านมาตนเลี้ยงดูลูกจนเขาโตมาก็เริ่มติดผู้หญิง ติดเพื่อน ตนรู้สึกอายมากที่กระทำเช่นนั้นไป ถ้าสามารถกราบลูกได้ก็จะทำ”