ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ ถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ บาดเจ็บสาหัส ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร รับตัว ก่อนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้เสียชีวิต ด้านนายกสภาทนายความ ติงควรนำผู้ต้องหาเข้ารักษาตัวก่อน ชี้ ตำรวจอาจเข้าข่าย กระทำประมาทให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายได้ 


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 ส.ค. 67 ขณะที่ พ.ต.ท.ศรัณยพงษ์ ทองปาน สว.สอบสวน สน.วัดพระยาไกร ควบคุมตัวผู้ต้องหา 2 ราย ประกอบด้วยนายลิกิต เชิดชู อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน ชาว จ.อุบลราชธานี 1 และผู้ต้องหาชายคดียาเสพติดอีก 1 ราย ไปที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อทำการฝากขังเป็นเวลา 12 วัน โดยขึ้นไปบนชั้น 2 เพื่อฟังการพิจารณาคดี ภายหลังผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้มีคำสั่งรับฝากขัง แต่ในขณะควบคุมตัวนายลิกิตไปยังห้องควบคุมของราชทัณฑ์ ชั้น1 ภายในอาคารศาลฯ ระหว่างเดินไปยังห้องฝากขังเพื่อรอรถเรือนจำมารับ นายลิกิตมีอาการหมดสติล้มลงกับพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจศาล จึงช่วยกันทำการปั๊มหัวใจ และได้ประสานการสนับสนุนรถพยาบาลจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมาร่วมทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วย ใช้เวลาเกือบ1 ชั่วโมง แต่ไม่เป็นผลเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

  

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งไปยังพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ พนักงานอัยการ และฝ่ายปกครองเข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบตามร่างกายมีร่องรอยเขียวช้ำ หน้าตาบวมปูด แต่ไม่มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ทำให้เสียชีวิตแต่อย่างใด  

  

ด้าน พ.ต.ท.ศรัณยพงษ์ กล่าวว่า นายลิกิต เป็นผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน ก่อเหตุช่วงเวลา 22.00 น. วันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา บริเวณร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าพระราม 3 เรสซิเด้นท์ แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนช่วงเวลา 00.42 น. วันที่ 23 ส.ค. โดยพฤติการณ์ที่เกิดเหตุ ขณะที่นายครรชิต ทรงเสี่ยงชัย อายุ 56 ปี ผู้เสียหาย กำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ในที่เกิดเหตุ นายลิกิต ผู้ต้องหาเดินเข้ามาด้านหลังและชกต่อยที่ใบหน้าผู้เสียหายหลายครั้ง ทำให้ผู้เสียหายสลบ ล้มลงกับพื้น ท่ามกลางลูกค้าหลายคน ก่อนที่นายลิกิตจะคว้ากระเป๋าผู้เสียหายมารื้อค้นทรัพย์สิน เจ้าของร้านค้าจึงได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ พลเมืองดีผ่านมา จึงช่วยกันจับตัวและได้รุมประชาทัณฑ์ด้วยความโกรธแค้น จนสามารถควบคุมตัวนายลิกิตไว้ได้ในสภาพสะบักสะบอม แล้วโทรศัพท์แจ้งตำรวจสายตรวจ สน.วัดพระยาไกร ให้ไปรับเพื่อนำตัวไปดำเนินคดี

...

 

ด้าน พ.ต.อ.รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผกก.สน.ยานนาวา กล่าวว่า พื้นที่ที่พบศพอยู่ในความรับผิดชอบของ สน.ยานนาวา เบื้องต้น จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดด้านในศาล ไม่พบว่าผู้ตายถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด สำหรับพฤติการณ์ของผู้ตายนั้นจากการตรวจสอบ พบว่าเป็นคนเร่ร่อนก่อเหตุชิงทรัพย์เมื่อ 2 วันก่อน แล้วถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ช่วยกันจับตัวส่งตำรวจ สน.วัดพระยาไกร และถูก ตร.สน.วัดพระยาไกร ตรวจสอบไม่พบประวัติอาชญากรรมแต่อย่างใด โดยหลังจากนี้ ทาง สน.ยานนาวา จะทำเรื่องส่งศพไปผ่าชันสูตร ที่ นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป


ขณะที่ ดร.วิเชียร ชุปไธสง นายกสภาทนายความ เผยว่า ผู้ต้องหาทุกคนเมื่อถูกจับ กฎหมาย ป.วิอาญา บอกว่า เขาย่อมมีสิทธิขอพบทนายความ และขอเข้ารักษาพยาบาลทันทีได้ คดีนี้ผู้ต่องหาถูกทำร้ายในระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงานตำรวจ และพบเห็นอาการสภาพได้ทันทีว่าเขาต้องพบแพทย์ แต่กลับนำตัวมาส่งศาล และหิ้วมาในสภาพแบบนั้น เบื้องต้นเห็นว่าน่าจะเข้าข่ายเป็นความผิดอาญาฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายเป็นอย่างน้อย และในทางแพ่งก็อาจเป็นความผิดฐานละเมิดตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจาก สตช. แต่จะฟ้องตัวเจ้าหน้าที่โดยตรงไม่ได้


ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจจะอ้างว่า ไม่ทราบว่าผู้ต้องหาบาดเจ็บ อาการโคม่าจึงไม่นำส่งรพ.จะฟังขึ้นหรือไม่ ดร.วิเชียร กล่าวว่า อันนี้ต้องพิสูจน์ว่ารู้หรือไม่รู้