แม่ “จ่าพั้นซ์” นิมนต์พระเชิญ วิญญาณลูกชายจากผับมรณะ กลับ ไปทำพิธี ลั่นจะไม่เผาศพหากยัง ไม่ได้รับความยุติธรรม เมียเหยื่อ กระสุนร่วมยื่นคัดค้านการประกันตัวมือยิง ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาไป ศาลฝากขังก่อนได้รับการประกันตัว เจ้าตัวสำนึกผิด เอ่ยขอโทษครอบครัวผู้ตาย “กต.ตร.สภ.หัวหิน” สั่งปลด จากตำแหน่งที่ปรึกษาทันที ขณะที่นายอำเภอเสนอผู้ว่าฯประจวบคีรีขันธ์ สั่งปิดสถานที่เกิดเหตุ 5 ปี

จากเหตุสะเทือนขวัญ นายจักรกฤษ หรือเซ็น วรวงศ์พาณิชกุล อายุ 34 ปี ที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ใช้ปืนพก 9 มม. จ่อยิง จ.ส.อ.โรจชนะภณ หรือจ่าพั้นซ์ โรจน์ชนะภานิช อายุ 31 ปี นายสิบการข่าวกรมนักเรียน โรงเรียนทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เสียชีวิตภายในร้าน TINY Club ซอยหัวหิน 80 ถนนเพชรเกษม เขตเทศบาลเมืองหัวหิน กระสุนลูกหลงยังถูกนักเที่ยวชายอีก 3 คนบาดเจ็บ เหตุเกิด ราว ตี 4 วันที่ 18 ส.ค. หลังเกิดเหตุนายจักรกฤษนำปืนทูตมรณะเข้ามอบตัวกับตำรวจ และให้การรับสารภาพว่ายิงจ่าพั้นซ์เสียชีวิตจริง พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่น และผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน ไม่ให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและเป็นคดีอุกฉกรรจ์

ความคืบหน้าของคดีเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะ กต.ตร.สภ.หัวหิน มีคำสั่งที่ 2/2567 ให้ปลดนายจักรกฤษ วรวงศ์พาณิชกุล ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษา คณะ กต.ตร.สภ.หัวหิน มีผลตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป ขณะเดียวกัน นายอำเภอหัวหินทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เสนอปิดผับ TINY Club สถานที่เกิดเหตุเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากไม่มีใบอนุญาตเปิดสถานบริการเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และปล่อยปละละเลยให้ผู้มาใช้บริการพกพาอาวุธเข้าไปจนเกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นดังกล่าว

...

ต่อมาเวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน คุมตัวนายจักรกฤษ วรวงศ์พาณิชกุล ผู้ต้องหาที่อยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำกางเกงขาสั้น ใบหน้าอิดโรยและมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด ไปขออำนาจศาลจังหวัดหัวหิน ฝากขังผัดแรกพร้อมคัดค้านการประกันตัว ระหว่างถูกคุมตัวออกจากห้องขังมาขึ้นรถยนต์เดินทางไปศาล นายจักรกฤษตอบคำถามผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆว่า “ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ส่วนรายละเอียดจะให้ข้อมูลภายหลัง” ด้านการต่อสู้คดี ผู้ต้องหาเตรียมทนายความไว้ถึง 4 คน ช่วยแก้ต่างสู้คดีให้

ขณะเดียวกัน นางสุภรดา วรรณพันธุ์ ผอ.ร.ร.บ้านวังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ มารดา จ.ส.อ.โรจชนะภณ หรือจ่าพั้นซ์ ผู้เสียชีวิต พร้อมครอบครัว นิมนต์พระสงฆ์จากวัดวังก์พง มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ จ.ส.อ.โรจชนะภณ ตรงจุดที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในผับที่เกิดเหตุ นางสุภรดากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ยังทำใจไม่ได้ เรื่องที่เกิดขึ้นมันเร็วมาก ขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้กำลังใจ โดยเฉพาะผู้สื่อข่าวที่เผยแพร่ข่าวให้ต่อเนื่อง คิดว่าลูกชายคงไม่ตายฟรี เย็นวันนี้สามีและลูกสาวจะนำร่างจ่าพั้นช์กลับจากผ่าพิสูจน์วิถีกระสุนที่ รพ.ตำรวจ มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดวังก์พง ครอบครัวจะยังไม่เผาศพจนกว่าจะได้รับความยุติธรรม ส่วนทางคดีคงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ครอบครัวจะคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาล และทุกช่องทาง หวังว่าลูกชายจะได้รับความเป็นธรรม

น.ส.บัวบูชา ภรรยาจ่าพั้นซ์ กล่าวว่า วันนี้ตนพร้อมญาติและหัวหน้างานจ่าพั้นช์ เป็นนายทหารศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ รวมกว่า 10 คน ร่วมยื่นคำร้องคัดค้านการประกันตัวต่อศาลจังหวัดหัวหิน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นบุคคลมีอิทธิพลและมีเงิน รู้จักกับนักการเมืองท้องถิ่น เกรงคดีจะไม่ได้รับความยุติธรรม ส่วนกรณีข่าวลือว่าครอบครัวผู้เสียชีวิตเรียกร้องเงินนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ครอบครัวเพียงต้องการเรียกร้องความยุติธรรมให้ผู้เสียชีวิตเท่านั้น และไม่ต้องส่งคนมาเจรจา ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ตามแนวทางของชุดสืบสวนสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุจ่าพั้นซ์เข้าไปเที่ยวในผับกับเพื่อน ระหว่างไปเข้าห้องน้ำได้เดินชนกับหญิงสาวที่มาดื่มกินร่วมโต๊ะกับนายเซ็น จ่าพั้นซ์ได้ขอโทษและแยกย้ายกลับไปโต๊ะตัวเอง แต่นายเซ็นที่อยู่ในอาการมึนเมาไม่พอใจ คิดว่าถูกผู้ตายหยามศักดิ์ศรี ประกอบกับพกปืนติดตัวเข้ามาในผับด้วย ได้ลุกจากโต๊ะปรี่เข้าไปหาจ่าพั้นซ์แล้วชักปืนรัวยิงจนเหยื่อเสียชีวิต และกระสุนลูกหลงปลิวไปถูกนักเที่ยวบาดเจ็บอีก 3 คน จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่านายเซ็นเป็นคนมีฐานะ ชอบยิงปืนและสะสมปืน ส่วนผับเกิดเหตุเป็นของคนมีสีในพื้นที่ ทำให้กล้าเปิดบริการถึงเช้าทุกวัน เคยถูกร้องเรียนแต่เรื่องเงียบไม่มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการจับกุม

ต่อมาในช่วงเย็น ภายหลังทนายความยื่นหลักทรัพย์วางเป็นหลักค้ำประกันตัวไว้ ศาลจังหวัดหัวหินอนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาได้ เนื่องจากหลังก่อเหตุได้เข้ามอบตัวและไม่มีพฤติการณ์หลบหนี

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่