ตำรวจ สภ.ท่าชี ตามจับโจ๋โหด ก่อเหตุแทงดับหนุ่มน้อยวัย 18 ปี เหตุหึงตามตื๊อแฟนสาว หลังทราบผู้ตายเป็นแฟนเก่า-พยายามตามง้อขอคืนดี จึงสวมรอยแชตนัดผู้ตายออกมาเจอ ก่อนใช้มีดสั้นเสียบใต้ราวนมดับสนิท

เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 11 ส.ค. 67 พ.ต.ท.ศุภวิชญ์ สมมะลวน สว.สอบสวน สภ.ท่าชี รับแจ้งเหตุคนถูกทำร้ายเสียชีวิต บนถนน ม.8 ต.ควนศรี อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.ศิรชัย เกิดศรี ผกก.สภ.ท่าชี กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธา บ้านนาสาร

ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 1 ราย นอนจมกองเลือดอยู่บนถนน สภาพถูกแทงด้วยของมีคมใต้ราวนมซ้าย 1 แผล ส่วนมือขวากำมือพกสั้นไว้แน่น 1 เล่ม ทราบชื่อต่อมาคือ นายชาคริส อายุ 18 ปี ชาว อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี

จากการสอบถามเพื่อนผู้ตาย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ชวนตนขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านพัก บอกว่าอดีตแฟนสาวนัดมาพบที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ปรากฏว่าเมื่อมาถึงมีวัยรุ่นชาย 2 คน และผู้หญิง 1 คน ซึ่งเคยเป็นอดีตแฟนเก่าของผู้ตาย ก่อนที่ 1 ใน 2 วัยรุ่นชาย ซึ่งทราบว่าเป็นแฟนหนุ่มคนปัจจุบันของอดีตแฟนสาวผู้ตาย จะตะโกนถามผู้ตายว่า "มึงเก่งนักเหรอ ที่มายุ่งกับแฟนกู" ทันใดนั้นก็ตรงเข้าใช้อาวุธมีดแทงผู้ตายจนล้มลงเสียชีวิตทันที ส่วนผู้ก่อเหตุพากันหลบหนีไปหลังเกิดเหตุ จากนั้นตนจึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ

...

ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสืบสวนทราบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุคือ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ชาว อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี, น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี อดีตแฟนสาวของผู้ตาย และนายอภิเชษฐ์ อวยสวัสดิ์ อายุ 20 ปี พี่ชายของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นคนขับรถจักรยานยนต์พาไปก่อเหตุ

ต่อมา ชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.ต.วีระศักดิ์ ลาชโรจน์ สว.สส. ได้ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ และแฟนสาวได้ที่บ้านพักในพื้นที่หมู่ 3 ต.ควนศรี อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ส่วนนายอภิเชษฐ์ หลบหนีไปได้

จากการสอบสวน นายเอ ผู้ก่อเหตุ ให้การว่า ผู้ตายซึ่งทราบว่าเคยคบหากับ น.ส.บี แฟนสาว ได้พยายามติดต่อ น.ส.บี ผ่านทางแชตเฟซบุ๊ก ตนทราบจึงบล็อกการติดต่อ แต่ผู้ตายยังพยายามติดต่อมาทางแชตโปรแกรมอื่น ตนจึงสวมรอยเป็นแฟนสาว และนัดให้ผู้ตายมาเคลียร์ในที่เกิดเหตุ และลงมือก่อเหตุดังกล่าว

เบื้องต้น พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" ก่อนจะนำตัวเข้ากระบวนการสอบสวนทางสหวิชาชีพ พร้อมทั้งจะออกหมายจับ นายอภิเชษฐ์ ในข้อหาเดียวกัน และเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป