สืบนครบาล นำกำลังร่วมจับกุม "เจมส์ บางบอน" หลังวางแผนสะกดรอยตำรวจระดับ "สารวัตร" นานกว่า 10 วัน ย่องเบาเข้าห้องพักคอนโดฯ 8 ครั้ง รื้อค้นขโมยเพียงทรัพย์สินที่มีมูลค่าน้อย แต่ทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงกลับไม่ถูกขโมยไป เตรียมขยายผลอย่างละเอียด

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 สิงหาคม 2567 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธิติพงษ์ สียา ผกก.สส.บก.น.9 พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รอง ผกก.กก.สส.บก.น.5  พ.ต.ท.ธนโชติ นุ้ยเล็ก สว.กก.สส.บก.น.9 พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้ว สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. 

นำกำลังร่วมกันจับกุมนายมนัสวิน ทองคำ หรือ "เจมส์ บางบอน" อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 179 พุทธมณฑลสาย 1 ซอย 5 แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 647/2567 ลงวันที่ 25 ก.ค. 67 ข้อหา ลักทรัพย์ของผู้อื่นในเวลากลางคืนในเคหสถาน และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต่างกรรมต่างวาระ

จับกุมตัวได้ที่ริมป่าข้างคลอง แนวรอยต่อระหว่าง จ.ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ ต.หอมศีล อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา

...

สืบเนื่องจากมีคนร้ายรายหนึ่งวางแผนกระทำการบางอย่างกับนายตำรวจระดับ "สารวัตร" สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยนายตำรวจผู้เสียหายถูกคนร้ายสะกดรอยมาเป็นเวลานานกว่า 10 วัน และยังถูกแอบเข้าไปรื้อค้นในห้องพักกว่า 8 ครั้ง วันที่ 17, 19, 20, 21, 22, 24, 26, 27 มิ.ย. 67 (8 วัน) เรื่องราวซับซ้อนนี้แดงขึ้นเมื่อคืนวันที่ 27 มิ.ย. 67 เวลาประมาณ 21.00 น. เมื่อนายตำรวจผู้เสียหายได้กลับเข้ามาที่ห้องพักในคอนโดฯ ชื่อดังย่านบางแค แล้วพบว่าข้าวของบางอย่างถูกขยับเขยื้อน และเมื่อตรวจสอบในห้องโดยละเอียด ทำให้ทราบว่ามีสิ่งของบางอย่างหายไป ลงมือสืบสวนเบื้องต้นด้วยตัวเองแล้วพบว่ามีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น "บุกเดี่ยว" เข้ามาในห้องพักของตนเองกว่า 5 นาที ก่อนหลบหนีออกไป หลังทราบเรื่องนายตำรวจผู้เสียหายรีบเดินทางไปแจ้งความ สน.เพชรเกษม ดำเนินคดี แรกเริ่มเหมือนจะเป็นคดีลักทรัพย์ทั่วไป แต่ที่สร้างความฉงนใจคือ "คนร้ายขึ้นคอนโดฯ ไปได้อย่างไร" ทั้งที่ภายในคอนโดฯ มีระบบความปลอดภัยที่หนาแน่น 

ชุดสืบสวนเริ่มสืบสวนโดยละเอียด ไล่ไทม์ไลน์ย้อนหลังไปจนได้ข้อมูล นายตำรวจผู้เสียหายได้ถูกคนร้ายสะกดรอยเฝ้าดูพฤติกรรมมาเป็นเวลากว่า 10 วันแล้ว และยิ่งไปกว่านั้น คนร้ายยังแอบย่องเข้าไปในห้องของนายตำรวจผู้เสียหายมาแล้วกว่า 7 ครั้ง ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุในครั้งที่ 8 โดยคนร้ายสะกดรอยจนทราบที่เก็บ "คีย์การ์ดสำรอง" ของนายตำรวจผู้เสียหายที่ถูกเก็บไว้ใน Mail Box (ช่องตู้ไปรษณีย์) ที่อยู่ชั้นล่างของอาคารคอนโดฯ และใช้จังหวะเมื่อนายตำรวจผู้เสียหายเดินทางออกไปทำงาน หรือไม่อยู่ที่ห้องพัก คนร้ายจะแอบไปหยิบคีย์การ์ดสำรองดังกล่าว ทำให้สามารถขึ้นตึกและเข้าไปภายในห้องพักได้ แล้วเมื่อเสร็จภารกิจลับจะนำคีย์การ์ดนั้นมาเก็บไว้ที่เดิม เสมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น และที่สร้างความสงสัยให้กับนายตำรวจผู้เสียหายที่สุดคือ "คนร้ายทราบชั้นห้องพัก" ได้อย่างไร เสมือนคนร้ายทราบข้อมูลของนายตำรวจผู้เสียหายอย่างละเอียดยิบ อีกทั้งทรัพย์สินที่มีมูลค่ามากภายในห้องพักกลับไม่ถูกขโมยไป เสมือนคนร้ายไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์ แต่อาจมีเจตนาแอบแฝงที่ร้ายมากไปกว่านั้น ชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. และ กก.สส.บก.น. 9 ร่วมกันเร่งสืบสวน ใช้เวลากว่า 1 เดือน สืบสวนติดตามคนร้ายรายนี้ เพราะพฤติกรรมสุดจะซับซ้อนเสมือนเลียนแบบมาจากภาพยนตร์ กระทั่งได้สืบสวนจนทราบตัวคนร้ายและได้มีการออกหมายจับ คือ นายมนัสวิน หรือ "เจมส์ บางบอน"

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งทีมไล่ล่าติดตามจับกุมตัวคนร้าย โดยการสืบสวนติดตามพบว่าหลังจากก่อเหตุในวันสุดท้าย (27 มิ.ย. 67) คนร้ายได้หายตัวไปเป็นคนไร้ตัวตน ต่อมาได้สืบทราบว่าคนร้ายร่อนเร่พเนจรไปนอนตามป้ายรถเมล์ ปั๊มน้ำมัน ชุดสืบสวนติดตามไล่ล่าตีล้อมวงจนคนร้ายไปจนมุมที่ริมป่าข้างคลอง แนวรอยต่อระหว่าง จ.ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ ต.หอมศีล อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

นายมนัสวิน หรือ "เจมส์ บางบอน" ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ตนจบการศึกษาชั้น ม.6 และต่อ ปวช. สายช่างก่อสร้าง แต่เรียนไม่จบ ในปัจจุบันเป็นคนตกงานและไม่เป็นที่ยอมรับของครอบครัว ชอบร่อนเร่ไปพักอาศัยตามที่ต่างๆ ไปเรื่อย ส่วนคดีตนไม่ได้หวังปองร้าย ไม่ได้รับงานใครมา ตนแค่มานั่งสังเกตการณ์บริเวณใต้อาคารคอนโดฯ ที่เกิดเหตุบ่อยๆ แล้วเห็นว่าห้องของนายตำรวจผู้เสียหายมักซ่อนกุญแจและคีย์การ์ดสำรองไว้ในช่อง Mail Box ตนเป็นคนตกงานและทางบ้านของภรรยาไม่ค่อยยอมรับ ตั้งใจจะขึ้นไปนอนบนห้องของผู้เสียหายขณะที่เขาไม่อยู่เท่านั้น ไม่ได้คิดจะสอดแนมหรือปองร้ายใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนที่มาถูกจับกุมที่นี่ไม่ได้หลบหนีมา แต่ได้งานทำใหม่ที่นี่ ส่วนที่ไม่ได้อยู่ละแวกบางบอนเช่นเดิมนั้น เพราะหลังก่อเหตุตนมีความรู้สึกว่าเหยื่อน่าจะรู้ตัว และมีเจ้าหน้าที่บางส่วนมาติดตาม จึงออกร่อนเร่เดินเท้าไปอย่างไร้จุดหมายและมาถูกจับกุม

...

ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม เคยก่อคดี 3 คดี 1. วันที่ 9 ส.ค. 62 ถูกจับกุมข้อหา มียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองฯ พื้นที่ สน.หลักสอง 2. วันที่ 8 ธ.ค. 66 ก่อเหตุ ลักทรัพย์ฯ ขโมยซองผ้าป่า พื้นที่ สน.ท่าข้าม และ 3. วันที่ 23 พ.ค. 67 ก่อเหตุ ลักทรัพย์ฯ ขโมยนาฬิกาในห้างสรรพสินค้า พื้นที่ สน.ภาษีเจริญ 

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะยังเป็นที่น่าสงสัยอยู่หลายประเด็น ว่าเหตุใดผู้ต้องหาจึงแอบสะกดรอยแล้วยังเข้าไปสอดแนมในห้องนายตำรวจผู้เสียหายอีกกว่า 7 ครั้ง ก่อนจะลงมือในครั้งที่ 8 โดยสิ่งที่ขโมยไปนั้นก็เป็นเพียงทรัพย์สินที่มีมูลค่าน้อย แต่ทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงกลับไม่ถูกขโมยไป เสมือนไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์ อีกทั้งแผนประทุษกรรมของคนร้ายมีลักษณะใจเย็น ช่ำชอง และที่สำคัญคือรู้ว่าเป็นห้องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ยังกล้าที่จะลงมือกระทำ หลังจากนี้เราจะมีการขยายผลโดยละเอียดต่อไป และขอให้คดีนี้เป็นการเตือนภัยให้กับประชาชน แม้จะเป็นคอนโดฯ ที่มีระบบความปลอดภัยที่แน่นหนาก็ตาม ให้หลีกเลี่ยงการเก็บคีย์การ์ด หรือของสำคัญไว้ในตู้ไปรษณีย์ หรือตู้ Mail Box หรือหลีกเลี่ยงการซ่อนกุญแจไว้ตามที่ต่างๆ ใกล้ประตูหน้าบ้านของท่าน เพราะการกระทำดังกล่าวอาจตกอยู่ในสายตาของผู้ไม่ประสงค์ดีลักษณะนี้อีก และหากท่านใดมีเบาะแสในลักษณะนี้ สามารถส่งข้อมูลเพิ่มเติมมาได้ที่เพจสืบนครบาล IDMB ได้ตลอด 24 ชม.

...

ก่อนควบคุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป