"ชัยวัฒน์" หอบหลักฐานมอบ "บิ๊กเต่า" ตำรวจ ปปป. ตรวจสอบ-เอาผิด เจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดินโคราช ออกหนังสือ ส.ป.ก. เอื้อนายทุนรุกที่ป่าทับลาน

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 25 ก.ค. ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก. ปปป.) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบกรณีกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ ออกหนังสือรับรองที่ดิน ส.ป.ก.ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มนายทุนเข้าถือครองประกอบธุรกิจโดยมิชอบ โดยนำเอกสารราชการเรื่องการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน รวมถึงภาพถ่ายทางอากาศ และรายละเอียดการออกโฉนดที่ดิน มามอบให้ประกอบการพิจารณา

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ตนและคณะได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบข้อมูลว่า มีการออกเอกสารสิทธิมิชอบ  2 แห่ง ใน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เขตป่าสงวนอุทยานแห่งชาติทับลาน แต่กลับพบว่ามีความพยายามจากเจ้าหน้าที่รัฐ จ.นครราชสีมา ในการออกเอกสารสิทธิ์เป็นที่ดินส.ป.ก. ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในแนวเขตที่สามารถกระทำได้ จึงได้มีการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำมาปรึกษากับรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง 

...

“สำหรับการนำข้อมูลมาพิจารณาเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ สังกัดสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา (ส.ป.ก.นครราชสีมา) ประมาณ 14 ถึง 15 คน โดยหนึ่งในนั้นพบมีหน้าที่เป็นรองเลขาธิการ ส.ป.ก. และมีความเชื่อมโยงกับกรณีที่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ บก.ปปป. จับกุมนายอัครเดช ซึ่งออกเอกสารสิทธิ์ให้ 13 นอมินีครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.โคราชกว่า 600 ไร่ เพื่อรองรับน้ำเสียของนายทุน  รวมถึงกลุ่มผู้ชงเรื่องสังกัดสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินอีกด้วย”

นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จึงจะสามารถแจ้งดำเนินคดีเอาผิดกลุ่มบุคคลเหล่านี้ ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำ จัดการ รักษาทรัพย์ใดๆ ร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

...

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า หลังได้รับข้อมูลดังกล่าวแล้ว จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาติดตามการทำงานโดยจะมี เจ้าหน้าที่สังกัด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และกรมป่าไม้ เข้ามาร่วมด้วยอีกทั้งจะมีการนำข้อมูลชุดที่ได้ ไปเปรียบเทียบกับข้อมูลที่นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย รมว.เกษตรและสหกรณ์ มีอยู่ ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงลึก เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาเอาผิดกับบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป