ตำรวจ สภ.ปลายพระยา เร่งล่าคนร้ายบุกยิง ส.อบต. กลางวันแสกๆ เสียชีวิตคาถนน ข้างร้านอาหารตามสั่งในพื้นที่ ม.2 ต.คีรีวง คาดคนร้ายเป็นมืออาชีพ-มีไม่ต่ำ 2 คน ตั้งปมขัดแย้งที่ดินสวนปาล์มหมดสัมปทาน
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 16 ก.ค. 67 พ.ต.ต.ปรมินทร์ มยะกุล สว.สอบสวน สภ.ปลายพระยา จ.กระบี่ รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต ข้างร้านขายอาหารตามสั่งแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 2 ต.คีรีวง อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบศพ นายประทีป จันทร์คง อายุ 52 ปี สมาชิก อบต.หมู่ 5 ต.คีรีวง ถูกยิงนอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนถนน สภาพถูกยิงหลายนัด กระสุนเข้าลำตัวฝั่งซ้ายทั้งหมด ใกล้กันพบหัวกระสุนตกอยู่ 3 หัว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามพยานในเหตุการณ์ทราบว่า คนร้ายมาด้วยกันไม่ต่ำ 2 คน เป็นชายอายุประมาณ 45-50 ปี สูงประมาณ 175-180 ซม. นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีกรมท่า ใช้รถเก๋งสีขาวไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน ขับมาจอดข้างร้านอาหาร ก่อนจะเดินเข้าไปที่ร้านขายของชำที่อยู่ติดกัน ทำทีไปซื้อเครื่องดื่มชูกำลัง โดยกล้องในร้านจับภาพไว้ได้ จากนั้นเดินเข้ามาที่ร้านอาหาร ซึ่งผู้ตายนั่งอยู่กับเพื่อน 2 คน ทำทีมาสั่งอาหาร เมื่อเดินมาใกล้ผู้ตายก็ชักปืนออกมายิงใส่ทันที 1 นัด โดยไม่พูดอะไร จากนั้นผู้ตายจึงรีบวิ่งหนีออกไปทางข้างร้าน คนร้ายยิงตามไปอีก 5 นัด จนผู้ตายล้มลง คนร้ายก็วิ่งกลับไปเอาปืนอีกกระบอกมาจากในรถ แล้ววิ่งตามไปกระหน่ำยิงซ้ำใส่คนตายอีก 5 นัด ก่อนจะวิ่งขึ้นรถแล้วขับหลบหนีไป
ด้าน นางแก้ว (นามสมมติ) แม่ค้าร้านอาหาร เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ คนตายพร้อมเพื่อน อบต.อีกคนมาที่ร้าน โดยบอกว่าเพิ่งกลับมาจากประชุมที่ อบต. ผู้ตายนั่งหันหน้าออกถนน ส่วนเพื่อนนั่งหันหลังออกถนน ขณะที่ตนกำลังหันไปผัดขัาวอยุ่นั้นก็เห็นคนร้ายเดินเข้ามาในร้าน ตนหันไปถามว่าจะสั่งอะไร คนร้ายก็ไม่พูด ตนจึงหันกลับไปผัดข้าว จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัด ผู้ตายก็วิ่งออกจากร้านไป ตอนนั้นคนร้ายบอกให้ตนอยู่เฉยๆ ตนก็หมอบลงเพราะตกใจ และเห็นคนร้ายวิ่งตามไปยิงใส่ผู้ตายอีกหลายนัด ก่อนจะวิ่งไปที่รถเอาปืนอีกกระบอกมายิงซ้ำไปอีกหลายนัด แล้วขึ้นรถเก๋งสีขาวหลบหนีไป
...
เบื้องต้นตำรวจตั้งปมสังหารไปที่ความขัดแย้งกันในกลุ่มม็อบเรียกร้องที่ดินทำกินในพื้นที่ อ.ปลายพระยา ซึ่งผู้ตายเป็นแกนนำกลุ่มชาวบ้านใน อ.ปลายพระยา เข้าไปจับจองพื้นที่สวนปาล์มหมดสัมปทาน เพื่อขอให้รัฐนำที่ดินมาจัดสรรให้ชาวบ้าน และไปขัดแย้งกับกลุ่มอิทธิพลอีกกลุ่มที่มีญาติเป็นอดีตมือปืนดังของภาคใต้ ซึ่งพาชาวบ้านอีกกลุ่มจากต่างพื้นที่เข้ามาจับจองสวนปาล์มดังกล่าวเช่นกัน ก่อนเกิดเหตุประมาณ 3-4 เดือน เคยมีปัญหาขัดแย้งกับกลุ่มดังกล่าวจนเกือบถูกยิงมาแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้ผู้ตายค่อนข้างระมัดระวังตัว เพราะรู้ว่ากำลังถูกปองร้าย กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว โดยคาดว่าคนร้ายเป็นมือปืนอาชีพ เพราะกล้าก่อเหตุเวลากลางวันในย่านชุมชน และพฤติกรรมการยิงหวังผลถึงชีวิต ซึ่งตำรวจกำลังเร่งติดตามเส้นทางหลบหนีของคนร้ายกลุ่มนี้ เพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.