ผู้การนิติเวชยันขั้นตอนตรวจ พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลศพที่คาด เป็นสาวจีนที่หายตัวและพบอยู่ในป่าพื้นที่แปดริ้ว ต้องใช้เวลา 1 อาทิตย์ ถึงรู้ผล เพราะสภาพที่พบเน่าเปื่อยมาก แต่หากจะใช้ร่องรอยทำศัลยกรรมของศพที่พบตรงกับ สาวจีนที่หายไป เพื่อนำไปขอออกหมายจับสามารถนำไปใช้ได้ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนด้าน “รองนพศิลป์” ระบุ จากหลักฐานและวงจรปิดที่พบมุ่งปม ชู้สาวและชิงทรัพย์ โดยผู้ตายและชายต้องสงสัยรู้จักกันมาก่อน ส่วนเรื่องเรียกค่าไถ่ตรวจสอบละเอียดแล้ว เป็นเรื่องเข้าใจคลาดเคลื่อนระหว่างเพื่อนผู้ตายที่แจ้งความและครอบครัว ขั้นตอนจากนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับและขอหมายแดงทำเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป

กรณีพบร่างผู้เสียชีวิตบริเวณป่ารกร้างริมทางพื้นที่ ต.บางพระ อ.เมืองฉะเชิงเทรา คาดอาจจะเป็น น.ส.หยาน รุ่ยหมิน อายุ 38 ปี สาวชาวจีนที่หายตัวไปมีแนวโน้มจะถูกฆาตกรรม โดยนายชิงหยาน หม่า เพื่อนชายชาวจีนที่ปรากฏพบอยู่ด้วยกันในวงจรปิด ชุดสืบสวนพบชิ้นส่วนและร่องรอยการทำศัลยกรรมของผู้เสียชีวิต ตรงกับประวัติการทำศัลยกรรมของ น.ส.หยาน รวมถึงหลักฐานวงจรปิดที่ปรากฏว่าเป็นเส้นทางที่นายชิงหยาน หม่า ผู้ต้องสงสัยขับรถเข้ามาวนเวียนและจอดรถเอาไว้ ก่อนจะหลบหนีออกนอกประเทศเมื่อวันที่ 3 ก.ค. จากนั้นนำร่างส่งให้กับสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ตรวจสอบดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับญาติและคราบเลือดที่เก็บได้จากรถยนต์ผู้ต้องสงสัยเช่าไป รวมถึงคราบเลือดภายในบ้านพักย่านสุขุมวิทที่พบคราบเลือดที่อ่างน้ำและที่นอน

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 14 ก.ค. พล.ต.ต.สุพิไชย ลิ้มศิวะวงศ์ ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา เปิดเผยว่า ขั้นตอนการตรวจพิสูจน์พันธุกรรมยืนยันอัตลักษณ์บุคคลยังไม่สามารถที่จะสรุปผลได้ในวันนี้ เนื่องจากสภาพศพที่พบค่อนข้างเน่าเปื่อยจำเป็นต้องหาชิ้นเนื้อส่วนที่สมบูรณ์ที่สุด และไขกระดูกต้นขาร่างผู้เสียชีวิตนำไปเปรียบเทียบดีเอ็นเอของญาติผู้สูญหายว่าตรงกันหรือไม่ โดยจะเร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุดคาดว่าใน 1 สัปดาห์จะรู้ผล แต่ส่วนที่สามารถยืนยันได้ใกล้เคียงที่สุดขณะนี้คือชิ้นส่วนและร่องรอยการทำศัลยกรรมของศพที่ตรงกับผู้สูญหาย ส่วนนี้มองว่าหากจำเป็นต้องนำไปใช้ประกอบสำนวนออกหมายจับสามารถนำไปใช้เบื้องต้นได้ก่อน แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบในคดี

...

ด้านการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุ ก่อนนี้เมื่อเที่ยงวันเดียวกัน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เผยว่า ขณะนี้ทางญาติ น.ส.หยาน รุ่ยหมิน พร้อมกับสถานทูตจีนประจำประเทศไทย ได้เดินทางมายัง สน.บางรัก ขอหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีกับคนร้ายชายชาวจีน พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับ ต้องรอผลการตรวจ DNA เปรียบเทียบจากโรงพยาบาลตำรวจอย่างละเอียด เนื่องจากสภาพที่พบอยู่ในลักษณะเน่าเปื่อย ไม่สามารถตรวจได้จากชิ้นเนื้อ ต้องตรวจจากโครงกระดูกที่พบและนำมาเปรียบเทียบกับ DNA ของบิดาของ น.ส.หยาน ทั้งนี้ ในส่วนของผู้เสียชีวิตและผู้ต้องสงสัยชายชาวจีนจากพยานหลักฐานพบว่าทั้ง 2 คนนัดหมายเจอกันที่สุขุมวิท 12 ก่อนที่จะช่วยกันยกกระเป๋าขึ้นรถไปด้วยความสมัครใจ ไม่มีการใช้กำลังประทุษร้ายและภาพยังปรากฏชัดเจนอีกว่าทั้ง 2 คน จอดรถและลงจากรถจับมือกันไปซื้อของที่ตลาดคลองเตย เชื่อว่าทั้ง 2 คนรู้จักกันมาก่อนและไปด้วยกันด้วยความสมัครใจ

พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวอีกว่า ในส่วนของวีแชตที่มีการกล่าวถึงการอุ้มรีดค่าไถ่นั้น สอบปากคำญาติของ น.ส.หยานพบว่าเป็นการสื่อสารคลาดเคลื่อนระหว่างเพื่อน น.ส.หยานเป็นผู้แจ้งกับครอบครัว เนื่องจากว่า น.ส.หยานหายตัวไปหลายวัน เพื่อนผู้แจ้งเชื่อว่าน่าจะโดนลักพาตัวเกรงว่าจะตกอยู่ในอันตราย ได้ติดต่อไปทางครอบครัวของ น.ส.หยาน สื่อสารว่าถูกอุ้มไปรีดค่าไถ่ ทางญาติสอบถามว่าแล้วต้องทำอย่างไร เพื่อนผู้แจ้งบอกเพียงแค่ว่าให้เตรียมเงินมา 1 ล้านหยวนไว้ก่อน ทั้งนี้ ทางตำรวจได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่าไม่ได้มีการอุ้มรีดค่าไถ่จากคนร้ายตามที่เพื่อนผู้แจ้งเข้าใจผิด ดังนั้นประเด็นในการสืบสวนชัดเจนว่าผู้ตายรู้จักกับผู้ต้องสงสัยชายชาวจีนและสมัครใจไปด้วยกันเหลือเพียง 2 ประเด็นที่ตำรวจตั้งข้อสันนิษฐานคือ ชู้สาวและ ประสงค์ต่อทรัพย์อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ และขอหมายแดงเพื่อทำเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป

รอง ผบช.น.กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งหมดพบว่าคดีดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากรข้ามชาติหรือการอุ้มรีดค่าไถ่ แต่มุ่งเน้นในเรื่องส่วนตัวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีมาตรการป้องกัน คัดกรอง บุคคลต่างชาติเข้าประเทศเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยตั้งศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย และประสานงานกับทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ที่ถือเป็นด่านแรกที่คนร้ายจะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่