ยิ่งสาวยิ่งลึก เจ้าหน้าที่ความมั่นคงบุกล็อกตัวหนุ่มผู้ช่วยช่างโยธา อบต.ธารโต จ.ยะลา เข้าศูนย์ซักถาม หลังพบเป็นคนขับรถกระบะของ อบต.ธารโต เป็นคนสุดท้าย ก่อนมีพรรคพวกโทร. สอบถามหากุญแจรถจนถูกคนร้ายขโมยไปก่อเหตุคาร์บอมบ์หน้าแฟลตตำรวจ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา “ผบช.ภ.9” ชี้เป้าเป็นบุคคลน่าสงสัยที่สุด เพราะเป็นน้องเขยของแนวร่วมโจรใต้ตัวเอ้

ไฟใต้ยากจะดับง่ายๆ เพราะคนของรัฐกลายเป็นไส้ศึกให้กลุ่มโจรลอบทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ กรณีคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องซุกถังแก๊สขนาด 16 กก. น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 80 กก. พร้อมน้ำมันเบนซิน 2 แกลลอน ยัดรถกระบะโตโยต้า 4 ประตู สีน้ำเงิน ทะเบียน กข 3320 เบตง ขององค์การบริหารส่วนตำบลธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา ขับไปจอดริมถนนหน้าแฟลตตำรวจ สภ.บันนังสตา ถนนบันนังสตาวิถี เขตเทศบาลตำบลบันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา ตั้งเวลาจุดชนวนระเบิดไว้เวลา 10.15 น. ของวันที่ 30 มิ.ย. แรงอัดระเบิดส่งผลให้ไฟลุกไหม้รถยนต์ รถ จยย.ที่จอดอยู่ในรัศมี 50 เมตร เสียหายกว่า 30 คัน กำแพงคอนกรีตรั้วแฟลตถล่ม ประตูหน้าต่างห้องพักพังยับ มีเหยื่อสังเวยความอำมหิตคือ นางรอกีเย๊าะ สะระนะ อายุ 45 ปี ครูโรงเรียนตาดีกา หมู่ 2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา ขี่รถ จยย.ผ่านเส้นทางกลับจากจ่ายตลาดซื้อกับข้าวไปทำอาหารกลางวันเลี้ยงเด็กที่โรงเรียน ถูกแรงระเบิดฉีกร่างสิ้นใจหน้ารถ จยย.ฮอนด้า ทะเบียน ขงฉ 849 ยะลา และยังมี ผู้บาดเจ็บทั้งตำรวจและชาวบ้านอีก 34 ราย

ความคืบหน้าในการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) เผยแพร่ข้อมูล หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ร่วมประจำจังหวัดยะลา ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ เข้าบังคับใช้กฎหมายตรวจสอบและติดตามบุคคลต้องสงสัยที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องประกอบในรถยนต์ (คาร์บอมบ์) บริเวณหน้าแฟลตที่พักตำรวจ สภ.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อช่วงสายวันที่ 30 มิ.ย. หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ พบเป็นรถยนต์ทางราชการของ อบต.ธารโต ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมพบบุคคลต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับรถยนต์ดังกล่าว มีส่วนเชื่อมโยงกับ กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมตัว นายมุสตอฟา มะและ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 3 บ้านจาเราะแป ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา เป็นผู้ช่วยช่างโยธาขององค์การบริหารส่วนตำบลธารโต จับกุมได้ช่วงค่ำวันเกิดเหตุ

...

จากผลการซักถามเบื้องต้นพบว่า นายมุสตอฟา เป็นคนใช้รถยนต์คันดังกล่าวเป็นคนสุดท้าย หลังจากนั้นมีนายมะรอปี หะมะ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104/2 หมู่ 7 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เป็นคนโทร.หานายมุสตอฟา สอบถามหากุญแจรถยนต์ และทราบข้อมูลจากนายมุสตอฟาว่า นายมะรอปี เป็นคนที่ออกจากสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล ธารโตเป็นคนสุดท้ายด้วย แต่หลังเกิดเหตุนายมะรอปี หายตัวไป อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลและติดตามตัว นายมะรอปี เพื่อมาให้ข้อมูลกรณีต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ

สำหรับในขั้นตอนการปฏิบัติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กำชับ ให้เจ้าหน้าที่พูดคุยและสร้างความเข้าใจเพื่อให้รับทราบถึงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งให้ ปฏิบัติด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม คำนึงถึงหลักสิทธิ มนุษยชนให้มากที่สุด เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนายมุสตอฟา ไปยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 อ.รามัน จ.ยะลา เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถามและขยายผลต่อไป

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร.06-1173-2999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่า ผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือ การสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

กอ.รมน.ภาค 4 สน. ยังได้ขอความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการใช้อากาศยานที่ใช้การควบคุมการบินจากภายนอก (Drone) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ห้ามอากาศยานที่ใช้การควบคุมการบินจากภายนอก ทำการบินเข้าไปในบริเวณฐานปฏิบัติการ จุดตรวจ รวมทั้งที่ตั้งของหน่วยงานด้านความมั่นคง ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหาร หรือห้ามการใช้อากาศยานในลักษณะ ใช้ติดตาม เฝ้าตรวจ สอดแนมการปฏิบัติงานของหน่วยงานด้านความมั่นคง โดยให้ยึดถือตามประกาศอย่างเคร่งครัด ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อย และการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลและของรัฐเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุระเบิด ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.รณน สุระวิทย์ ผกก.สภ.บันนังสตา พ.ต.ต.วรวิทย์ ณ นคร สว. (สอบสวน) สภ.บันนังสตา ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จุดเกิดเหตุ พบว่า รถกระบะคาร์บอมบ์ เป็นยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีน้ำเงิน ทะเบียน กข 3302 ยะลา สถานะปกติยังไม่มีการแจ้งหาย คนร้ายขับรถมาจอดที่จุด เกิดเหตุ จากนั้นครู่หนึ่ง มีชายสวมชุดดำ เสื้อแขนยาว สีดำ ทับเสื้อด้านในสีส้ม สวมหมวกกันน็อกสีดำปิดบัง ใบหน้า ขี่รถ จยย. มาจอดรับผู้ขับรถก่อเหตุพาหลบหนีไป

ผบช.ภ.9 กล่าวว่า ตรวจสอบต่อมาพบว่าเป็น รถกระบะของ อบต.ธารโต ได้สั่งการ พ.ต.อ.ธนพล เยาวพักตร์ ผกก.สภ.ธารโต ประสาน อบต.ธารโต ร่วมไล่ดูกล้องวงจรปิดของสำนักงานพบว่ารถคันดังกล่าว ถูกขับออกไปช่วงเย็นวันที่ 29 มิ.ย. มุ่งหน้าเข้า จ.ยะลา แต่เลี้ยวขวาไปทางบ้านศรีท่าน้ำ หมู่ 4 ต.ธารโต ไปออกบ้านบือซู หมู่ 6 ต.บันนังสตา และตอนสาย วันที่ 30 มิ.ย. รถกระบะคันดังกล่าวมีคนร้ายขับจาก ถนนศรีบางลาง ผ่านบ้านกาโสด หมู่ 5 ต.บันนังสตา แล้วนำไปจอดจุดเกิดเหตุเวลา 10.13 น. จนเกิดระเบิดขึ้น

พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์กล่าวอีกว่า สภ.ธารโต ได้ประสาน นายอารี สาแม นายก อบต.ธารโต และผู้เกี่ยวข้องราว 10 ราย มาร่วมสอบปากคำ พบว่ารถคาร์บอมบ์มีผู้ถือกุญแจ 3 ราย ในจำนวนนี้มีนายมุสตอฟา มาและ อายุ 27 ปี บ้านอยู่หมู่ 3 บ้านขาเราะแป เป็นผู้ช่วยช่างงานโยธา อบต.ธารโต เป็นบุคคลที่น่าสงสัยมากที่สุด เพราะเป็นน้องเขยของ นายแวอุสมาน แวโมง ผู้ก่อเหตุความไม่สงบคนสำคัญ ที่มีหมายจับ ตาม ป.วิอาญา คดีความมั่นคง ได้ประสาน หน่วยงานความมั่นคง นำตัวนายมุสตอฟาไปยังศูนย์ ซักถามในพื้นที่เพื่อดำเนินการสอบขยายผลต่อไป

ส่วนบรรยากาศบริเวณหน้าแฟลต สภ.บันนังสตา จุดเกิดเหตุคาร์บอมบ์ กอ.รมน. ภาค 4 สน. พร้อมเจ้าหน้าที่ พิสูจน์หลักฐาน 10 จ.ยะลา และเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ภ.จ.ยะลา เข้าตรวจสอบจุด เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานที่ยังหลงเหลือในจุดเกิดเหตุ ไปเปรียบเทียบกับการก่อเหตุของคนร้ายในจุดอื่นๆที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบันนังสตาได้จัดตั้งกองอำนวยการรับแจ้งความเสียหาย มีประชาชน ที่บ้านเรือนและทรัพย์สินได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้เดินทางมาลงชื่อเพื่อขอรับการ เยียวยาจากภาครัฐหลายสิบรายแล้ว

...

ขณะเดียวกัน นายอำพล พงศ์สุวรรณ ผวจ.ยะลา พร้อมด้วยนายเชาวลิต สิทธิฤทธิ์ นอภ.บันนังสตา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.บันนังสตา และเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการเยียวยาจังหวัดยะลา เดินทางลงพื้นที่ เกิดเหตุ ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่และประชาชน ที่ รพ.บันนังสตา สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คาร์บอมบ์ จากข้อมูลยังยืนยันมีผู้เสียชีวิตเพียง 1 ราย คือ นางรอกีเยาะห์ สะระนะ อายุ 45 ปี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนทั้งสิ้น 34 ราย เป็นตำรวจ 23 นาย ประชาชน 11 ราย ส่วนใหญ่บาดเจ็บเล็กน้อย เช่น โดนกระจกบาด หูอื้อ แน่นหน้าอก ทุกรายอาการปลอดภัยแล้ว

ช่วงสายวันเดียวกัน นายรอมดอน หะยีอาแว ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต.จ.ยะลา พร้อมกลุ่มงานเยียวยา เดินทางไปบ้านเลขที่ 154/1 หมู่ 2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัว นางรอกีเย๊าะ สาระนะ อายุ 45 ปี ครูสอนตาดีกามัสยิดกำปงดาแล หมู่ 2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา ผู้เสียชีวิตจากเหตุคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจ สภ.บันนังสตา

นายรอมดอน หะยีอาแว ผช.เลขาฯ ศอ.บต. กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอให้กำลังใจครอบครัว รวมถึงไปถึงบุตรของผู้เสียชีวิต จากนี้หากมีเรื่องที่ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือหรือเข้ามาดำเนินการ ยินดีจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในเรื่องของสิทธิด้านการศึกษาของบุตรทั้ง 3 คน จะดำเนินการตามหลักเกณฑ์จนจบปริญญาตรี จากนั้นได้มอบข้าวสาร 1 กระสอบ พร้อมเงินช่วยเหลือเยียวยาในกรณีเสียชีวิต จำนวน 500,000 บาท ให้แก่ ทายาท 4 ราย ได้แก่ สามี และบุตรอีก 3 คน พร้อม สิทธิอื่นๆที่จะได้รับตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ เยียวยาที่ภาครัฐกำหนด

ต่อมามีรายงานว่า หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง จ.ยะลา เข้าบังคับใช้กฎหมายตรวจสอบและติดตามบุคคลต้องสงสัยที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ ทราบชื่อนายมะรอปี หะมะ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104/2 หมู่ 7 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ภายหลังนายมุสตอฟา มะและ ผู้ช่วยช่างโยธา อบต.ธารโต ที่ถูกควบคุมตัวก่อนหน้านั้นให้การพาดพิงว่า นายมะรอปี โทรศัพท์สอบถามหากุญแจรถยนต์คันที่ใช้เป็นคาร์บอมบ์ และเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากที่ทำการ อบต.ธารโต เจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปควบคุมตัวนำตัวไปสอบขยายผลยังหน่วยซักถาม กรม ทพ.41 ค่ายวังพญา ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่