ศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิต “บรรยิน ตั้งภากรณ์” คดีฆาตกรรมอำพราง “เสี่ยจืด-ชูวงษ์ แซ่ตั๊ง” นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระดับประเทศ เหตุเกิดปี 58 พี่สาว “เสี่ยจืด” เผยไม่ยอมให้น้องชายตายฟรีเลยสู้คดีจนถึงที่สุด ระหว่างศาลอ่านคำพิพากษาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เห็นเจ้าตัวนั่งอมยิ้มยังไม่สลด
ที่ศาลอาญาพระโขนง เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 มิ.ย. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีดำ ที่ อ.4915/2559 ที่พนักงานอัยการและนางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยาของเสี่ยจืด-นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระดับประเทศกับพวกเป็นโจทก์ที่ 1-5 มีนางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ เป็นผู้รับมอบอำนาจยื่นฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต สส.นครสวรรค์ หลายสมัย เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งประโยชน์ อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ตาม ป. อาญา ม.289 (4),(7)
กรณีเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.58 นายชูวงษ์ แซ่ตั๊งอายุ 50 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ตรวจการ เล็กซ์ซัส สีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กรุงเทพมหานคร ชนต้นไม้ ขณะเกิดเหตุมี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ จำเลยเป็นคนขับ ส่วนนายชูวงษ์นั่งที่เบาะด้านข้างคนขับ เหตุเกิดริมถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ระหว่างซอย 48 กับซอย 50 เขตประเวศ กทม. โจทก์มีพยานหลักฐานเชื่อว่าจำเลยกับพวกร่วมกันฆาตกรรมอำพรางนายชูวงษ์ แต่จำเลยให้การปฏิเสธอ้างเป็นอุบัติเหตุ เหตุเกิดที่ ต.บางโฉลง กับ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และแขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. ต่อเนื่องกัน เหตุจูงใจมาจากการวางแผนทุจริตโอนหุ้นมูลค่า 228 ล้านบาท จากบัญชีของนายชูวงษ์ไปเข้าบัญชีหญิงสาวคนสนิทของจำเลยสองคนกับญาติ ถูกแยกไปดำเนินคดีในข้อหาปลอมเอกสารและฟอกเงินที่ศาลอาญากรุงเทพใต้
...
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 ม.ค.64 การกระทำของจำเลยกับพวกเป็นการร่วมกันกระทำโดยเจตนาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและเพื่อเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิด เพื่อปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนได้กระทำไว้ คบคิดกับพวกด้วยการวางแผนและลงมือฆ่าผู้ตาย ปกปิดการกระทำโดยสร้างเรื่องและอำพรางคดีว่าสาเหตุการตายของนายชูวงษ์เกิดจากอุบัติเหตุ พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ป.อาญา ม.289 (4), (7) ประกอบ ม.83 ให้ลงโทษประหารชีวิต
ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ส.ค.65 เห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริงที่ยื่นอุทธรณ์มาฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยพิพากษายืน จำเลยยื่นฎีกาศาลฎีกาพิเคราะห์ตามประเด็นที่จำเลยต่อสู้มาทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ทุกประเด็นไม่อาจรับฟังหักล้างพยานโจทก์ได้ ที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาประหารชีวิตจำเลยศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย พิพากษายืน
หลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จ นางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ พี่สาวของเสี่ยจืด-นายชูวงษ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ครอบครัวไปทำบุญให้น้องชายที่ตายครบ 9 ปี ที่วัดบรมสถล หรือวัดดอน พอดีทนายความโทร.มาบอกว่าวันนี้ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษา เดินทางมาฟังคำพิพากษาคนเดียว ฝั่งจำเลยไม่มีใครมา เป็นการอ่านผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จากศาลไปเรือนจำบางขวาง เห็นนายบรรยินนั่งอมยิ้มตลอดไม่สะทกสะท้านไม่สลด ศาลอ่านนานสองชั่วโมง พิเคราะห์ประเด็นที่จำเลยฎีกามานับสิบประเด็น แต่ศาลเห็นว่าฟังไม่ขึ้นทุกประเด็น พิพากษายืนให้ประหารตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ส่วนคดีอื่นๆทยอยตัดสิน บางคดีก็ถึงที่สุดไปแล้ว อย่างคดีโอนหุ้นจำเลยถูกจำคุกไปคนละ 20 ปี กับ 11 ปี ตนไม่ยอมให้น้องต้องมาตายฟรีเลยสู้กับคดีนี้จนถึงที่สุด และเห็นได้ว่าคดีฆาตกรรมแม้ไม่มีประจักษ์พยาน แต่พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ นิติเวช พยานผู้เชี่ยวชาญ ก็สามารถคลี่คลายคดีได้
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่