ตร.ไซเบอร์ลุยล้าง 2 เว็บพนันใหญ่ช่วงฟุตบอลยูโร 2024 บุกตะครุบสองผัวเมียนายทุนจีน พร้อมกลุ่ม ผู้ต้องหาชาติเดียวกันและคนไทยรับหน้าที่คอยกดเงิน ยึดทรัพย์สินกว่า 287 ล้านบาท ชุดสืบสวนเปิดปฏิบัติการตรวจค้น 2 พื้นที่เป้าหมายใจกลางเมืองหลวง ก่อนไล่ยึดทรัพย์ที่ได้จากการฟอกเงิน ทั้งบ้าน ห้องชุดคอนโดหรู รถยนต์ราคาแพง สินค้า แบรนด์เนม เงินสด และอายัดเงินในบัญชี ตะลึงแค่ครึ่งปีมีเงินหมุนเวียนถึง 1,400 ล้านบาท จ่อขยายผล ล่าเครือข่ายที่เหลือ

ทลาย 2 เว็บไซต์พนันใหญ่นายทุนจีนช่วงมหกรรมลูกหนังยูโร 2024 เงินหมุนเวียนกว่า 1.4 พันล้านบาท ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 21 มิ.ย. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 และ พ.ต.อ.สรกฤช พันธ์ศรี ผกก.3 บก.สอท.3 ร่วมกันแถลงผลเปิดปฏิบัติการ “SHUTDOWN EUROBET” บุกค้น 2 จุด ทลายเครือข่าย 2 เว็บไซต์พนันรับแทงผลฟุตบอลการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 หรือยูโร 2024 ยึดทรัพย์สินกว่า 287ล้านบาท

พล.ต.ท.วรวัฒน์เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 มีการเล่นพนันทายผลฟุตบอลกันอย่างเข้มข้น บช.สอท.ในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักในการตรวจสอบและเฝ้าระวังการกระทำผิดผ่านเว็บไซต์หรือสื่ออินเตอร์เน็ตที่โฆษณาประชาสัมพันธ์ ชักชวน หรือจัดให้ลักลอบเล่นการพนันออนไลน์ ชุดสืบสวน บก.สอท.3 ได้ตรวจสอบพบเว็บไซต์ wm88.vip และเว็บไซต์ x-stand.com ลักลอบเปิดให้คนเข้ามาทายผลการแข่งขันฟุตบอลเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินเว็บไซต์ทั้ง 2 เครือข่าย พบเงินหมุนเวียนในช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย.2567 ถึง 1,400 ล้านบาท

...

ต่อมาตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขอศาล อาญาออกหมายค้นเป้าหมาย 2 จุดในพื้นที่ กทม.และออกหมายจับผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดทั้งขบวนการในเครือรวม 64 ราย แยกเป็น 5 กลุ่มประกอบด้วยกลุ่มผู้ทำหน้าที่บัญชีรับโอนเงิน 11 ราย กลุ่มผู้ต้องหาทำหน้าที่บัญชีพักเงินหมุนเวียน 37 ราย กลุ่มผู้ต้องหาทำหน้าที่บัญชีซื้อขายเหรียญ 6 ราย กลุ่มผู้ต้องหาทำหน้าที่ผู้ทำหน้าที่กดเงิน 4 ราย และกลุ่มผู้ต้องหาชาวต่างชาติ 6 ราย เป็นชาวจีน 5 ราย และชาวกัมพูชา 1 รายซึ่งเป็นผู้รับผลประโยชน์

จุดแรกตรวจค้นบ้านเลขที่ 333/3 หมู่บ้านควอร์เตอร์ เป็นโครงการหมู่บ้านหรู ซอยแสงทอง แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. จับกุมนายจาง เซียง อายุ 42 ปี และนางฮุยชิง จาง อายุ 37 ปี สองผัวเมียชาวจีน พร้อมยึดและอายัดของกลางหลายรายการ เช่น โฉนดห้องชุดในคอนโดมิเนียมหรู 11 ฉบับ เงินสด 13,830,000 บาท ธนบัตรดอลลาร์ 3,200 ดอลลาร์ ธนบัตรจีน 25,400 หยวน รถยนต์เบนท์ลีย์ มูลค่า 20,000,000 บาท รถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์ มูลค่า 3 ล้านบาท รถยนต์ GWM Tank 500 มูลค่า 2 ล้าน สัญญาซื้อขายบ้านหรูราคา 88,000,000 บาท เจ้าหน้าที่อายัดเงินฝากในบัญชี 86,749,572 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดกว่า 260,000,000 บาท

ส่วนเป้าหมายที่ 2 ตรวจค้นห้องพักหรูภายในเซ็นเตอร์พ้อยท์ เรสซิเด้นท์ ย่านพร้อมพงษ์ ซอยสุขุมวิท 39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. จับกุมนายเซีย จุน อายุ 36 ปี สัญชาติจีน ทำหน้าที่ฟอกเงิน นายโชคชัย แซ่เหยิน อายุ 29 ปี นายภูมิ เมษดี อายุ 46 ปี นายจตุรงค์ แซ่หย่าง อายุ 29 ปี และนายภูเบศ แซ่เฉิน อายุ 27 ปี ทำหน้าที่คนกดเงิน ตรวจยึดและอายัดของกลาง ประกอบด้วยรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด 5 คัน มูลค่าประมาณ 20,000,000 บาท เงินสด 2,260,000 บาทธนบัตรต่างประเทศมูลค่า 50,000 บาท คอมพิวเตอร์ mac pro 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง และรถ จยย. 1 คัน รวมมูลค่ากว่า 22,000,000 บาท

ด้าน พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 กล่าวว่า สำหรับนายจาง เซียง และนางฮุยชิง จาง สองสามีภรรยาชาวจีนเป็นผู้รับผลประโยชน์และเป็นเจ้าของเว็บ แต่ยังให้การปฏิเสธว่าเป็นเจ้าของเว็บ ทั้งคู่เดินทางเข้าประเทศไทยกว่า 4 ปี หลักฐานสำคัญที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบข้อมูลว่าผู้ต้องหาจะซื้อบัญชีม้าก่อนนำมาใช้ในการรับโอนเงินจากธุรกิจเว็บพนัน จากนั้นจะนำเงินสดไปซื้อทรัพย์สินต่างๆเช่น บ้าน ห้องชุดคอนโดหรู รถยนต์หรูและกระเป๋าแบรนด์เนม นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลอีกว่านำรถตู้อัลพาร์ดทั้ง 5 คัน ให้นักธุรกิจชาวจีนที่เดินทางมาเมืองไทยเช่าเพื่อฟอกเงินอีกทางหนึ่งด้วย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหากลุ่มผู้ต้องหาในความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.3 ดำเนินคดี พร้อมทั้งขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีทั้งหมด

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่