บิ๊กเต่า แถลงอีกรอบ ระบุลูกเรือน้ำมันเถื่อน 3 ลำ ยังเหลือ 8 คน ส่วนอีก 7 คน ติดค้างที่กัมพูชาซึ่งแวะจอดเพื่อขายน้ำมันของกลางที่นี่ แล้วรีบหนีเพราะรู้ว่าทางการไทยรู้แหล่งกบดาน ยืนยันน้ำมันของกลางในเรือถูกถ่ายขายไปหมดแล้ว คาดถึงฝั่งค่ำวันนี้เพราะเดินทางได้ช้า ต้องลากจูง "เรือดาวรุ่ง" ที่พังเสียหายเดินเครื่องไม่ได้
เวลา 15.30 น. วันที่ 17 มิ.ย. 2567 พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พลตำรวจตรี พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้เปิดเผยถึงติดตามจับกุมผู้ต้องหา พร้อมเรือขนน้ำมันเถื่อนที่หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ ว่า
"หลังจากเรือขนน้ำมันเถื่อนของกลาง 3 ลำ พร้อมลูกเรือ 15 คน หายไปเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ก็ได้สืบสวนจนทราบว่า เรือทั้งหมดถูกนำไปจอดที่ประเทศกัมพูชา เพื่อหลบซ่อน และขายน้ำมันของกลางทั้งหมดที่ประเทศกัมพูชา ส่วนลูกเรือทั้ง 15 คนได้มีการผลัดเปลี่ยนกันขึ้นฝั่งไปพักผ่อนและบางส่วนเฝ้าเรือ"
...
โดยระหว่างนี้ได้เปลี่ยนสีเรือซีฮอร์ส ที่เก๋งเรือ พื้นเรือ จากสีแดง เป็นสีเขียว เลี่ยงการตรวจจับ เพื่อนำเรือไปใช้ใหม่ ส่วนอีก 2 ลำ กำลังจะเปลี่ยนรูปพรรณเรือเช่นกัน แต่ยังไม่ทันดำเนินการก็ไหวตัวทันว่าเจ้าหน้าที่พบแหล่งกบดาน จึงได้นำเรือออกทะเลอย่างเร่งรีบ ทำให้ลูกเรือบางส่วนไม่ได้ขึ้นเรือ อยู่บนเรือเพียง 8 คน จากทั้งหมด 15 คน โดยจับได้บนเรือเจพี 4 คน เรือดาวรุ่ง 1 และเรือกำไลเงินหรือ Seahorse 3 คน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน และเครือข่ายเรือประมง เพื่อให้ค้นหาเรือทั้ง 3 ลำ ที่ลอยอยู่กลางทะเล
จนเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2567 ช่วง 06.00 น. เรือประมงเครือข่าย พบเรือของกลาง ทั้ง 3 ลำ ลอยกลางทะเล พื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ หรือ EEZ ห่างจากฝั่งสงขลา 90 ไมล์ทะเล จึงได้ส่งเรือตรวจการณ์ 3 ลำ ไปตรวจสอบ จึงพบว่าเป็นเรือของกลางจริง มีคนเรือที่ตำหนิรูปพรรณตรงกับผู้ต้องหา จึงได้แสดงตัวเข้าจับกลุ่มและตรวจยึดเรือ โดยพบว่า ในจำนวนนี้ 1 ลำ คือ เรือดาวรุ่ง พังเสียหายเดินเครื่องไม่ได้ มีการลากจูงอยู่กลางทะเล
เบื้องต้น กำลังนำเรือทั้ง 3 ลำกลับเข้าฝั่งที่ถ้าเทียบเรือกองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ จังหวัดสงขลา ซึ่งสามารถเดินเรือได้ด้วยความเร็วเพียง 5 นอตเท่านั้น จึงทำให้ล่าช้าและคาดว่าเรือทั้งสามลำพร้อมผู้ต้องหา จะเข้าฝั่งได้ในช่วงค่ำวันนี้
จากนั้น จะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน มาสอบปากคำและทำบันทึกจับกุม ก่อนส่งตัวเข้าไปสอบสวนขยายผลที่กองบังคับการกองปราบปราม ด้วยเครื่องบิน ในวันพรุ่งนี้